ได้ผล! TOYOTA พลิกเกม ISUZU แม้ยอดขายรถกระบะปิกอัพทั้งตลาด ยังดิ่งเหวต่อเนื่อง

กลยุทธ์ Toyota ได้ผล เมื่อ Hilux Champ ดันยอดขายเพิ่ม ส่งผลให้ Toyota ขึ้นเป็นอันดับ 1 ยอดขายรถกระบะ Pure pickup ในเดือนแรกของปี นำห่าง ISUZU D-MAX ถึงเกือบ 1,000 คัน แต่ยอดขายทั้งตลาด กลับดิ่งเหวมากกว่า 40% สะท้อนสภาพเศรษฐกิจ และกำลังของคนไทย

ยอดขายที่ลดลงอย่างมาก ของรถกระบะ Pure pick up เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ หากมองภาพรวมของเศรษฐกิจไทย ในปี 2566 ที่มีการขยายตัว เพียงร้อยละ 1.9 ลดลงจากตัวเลข 2.5 ในปี 2565 โดยแนวโน้มเศรษฐกิจไทย ในปี 2567 คาดว่าจะขยายตัว ในช่วงร้อยละ 2.2 -3.2
โดยมีปัจจัยสนับสนุน จากการกลับมาขยายตัวของการส่งออกสินค้า การขยายตัวในเกณฑ์ดี ของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และการฟื้นตัวต่อเนื่อง ของภาคการท่องเที่ยว

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้รายงานสถิติการขายรถยนต์ ประจำเดือนมกราคม เปิดฤดูกาลขายประจำปี 2567 ด้วยยอดขาย 54,814 คัน ลดลง 16.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยรถยนต์นั่ง 23,412 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 31,402 คัน ลดลง 26.5% และรถกระบะขนาด 1 ตัน มียอดขายที่ 17,938 คัน ลดลงถึง 43.5% เนื่องจากผู้บริโภค กังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่ยังฟื้นตัวช้า ประกอบกับความเข้มงวดของสถาบันการเงิน ที่ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์

ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์ มีแนวโน้มที่จะขยับตัวดีขึ้น เนื่องจากภาครัฐ ได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และเยียวยาประชาชน ในปี 2567 นี้ อาทิ มาตรการลดหย่อนภาษี “Easy E-Receipt” การปรับลดค่าไฟฟ้า และการยกเว้นวีซ่านักท่องเที่ยว ส่งผลให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น และส่งผลให้ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับการแนะนำรถยนต์รุ่นใหม่จากหลายค่าย ในช่วงต้นปี ซึ่งส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ ในเดือนกุมภาพันธ์เช่นกัน

ยอดขายรถกระบะ Pure Pick up ประจำเดือนมกราคม 2567
มีปริมาณการขาย 14,864 คัน ลดลง 43.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

อันดับ 1 TOYOTA HILUX 6,847 คัน ลดลง 33.8% ส่วนแบ่งตลาด 46.1%
อันดับ 2 ISUZU D-MAX 5,903 คัน ลดลง 50.1% ส่วนแบ่งตลาด 39.7%
อันดับ 3 FORD RANGER 1,277 คัน ลดลง 47.8% ส่วนแบ่งตลาด 8.6%
อันดับ 4 MITUSUBISHI TRITON 517 คัน ลดลง 58.5% ส่วนแบ่งตลาด 3.5%
อันดับ 5 NISSAN NAVARA 227 คัน ลดลง 15.3% ส่วนแบ่งตลาด 1.5%
อันดับ 6 MG EXTENDER 50 คัน ลดลง 46.8% ส่วนแบ่งตลาด 0.3%
อันดับ 7 MAZDA BT-50 43 คัน ลดลง 40.3% ส่วนแบ่งตลาด 0.3%

เป็นสถานการณ์ที่ไม่ได้เห็นกันบ่อยนัก เมื่อยอดขาย Toyota Hilux สูงกว่า ISUZU D-MAX มากถึงเกือบ 1,000 คัน ในช่วงปลายโมเดล สะท้อนการแก้เกมที่ถูกต้องของ Toyota ด้วยการส่ง Hilux Champ เข้ามาเจาะตลาดกำลังซื้อต่ำ หรือกลุ่มที่ต้องการรถกระบะราคาไม่สูงมากในการใช้งานบางประเภท แม้ว่า Toyota จะปรับเป้าหมายยอดขายลง จาก 1,500 คันต่อเดือน ให้เหลือเพียง 1,200 คันต่อเดือนก็ตาม แต่ก็มากพอที่จะสร้างความแตกต่างในเรื่องของอันดับยอดขายทั้งตลาดได้ โดยใน 2 เดือนแรกที่เปิดจอง มียอดจองถึง 2,922 คัน อย่างไรก็ตาม งานนี้ต้องดูกันยาวๆว่า จะสามารถรักษายอดขายระดับนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะ Isuzu เอง ก็เพิ่งเปิดตัว X-Seires ปรับโฉมใหม่ไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน อีกอย่าง ตลาดโดยรวมของเซกเมนต์นี้ ถือว่าหดตัวอย่างแรง ชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และก็น่าจะลากยาวข้ามปีไปอีก จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ต่ำและภาวะหนี้เสียที่สูง

ที่น่าเป็นห่วงไม่แพ้กันก็คือ Mitsubishi Triton โฉมใหม่ ที่ไม่มีทีท่าว่าจะกลับมาร้อนแรงเหมือนเจนเนอเรชั่นก่อน ทั้งๆที่เปิดตัวโฉมใหม่ทั้งคันไปแล้วหลังเพื่อน แต่หลายเสียงก็บ่นว่า ด้วยราคาที่สูงกับอ็อปชั่นต่างๆที่ได้ ดูเหมือนจะไม่สมดุลย์กัน ทำให้คนหันไปเลือกซื้อรถกระบะรุ่นอื่นมากกว่า ซึ่งทางแก้ ก็คงจะเป็นเรื่องของราคาจำหน่ายหรือโปรโมชั่นพิเศษ เพราะในเรื่องคุณสมบัติทางด้านเทคนิค รูปโฉม ก็ยังคงทำอะไรได้ไม่มากนัก ส่วนอันดับ 3 อย่าง Ford Ranger ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันกับความต้องการของตลาดที่ลดลงมาก โดยมีอัตราการลดลงพอๆกับ ISUZU D-MAX อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงเดือนแรกของปีเท่านั้น เพื่อความชัดเจน อาจจะต้องให้ผ่านไตรมาสแรกของปีไปก่อน โดยเฉพาะยอดขายของ X-Series ว่าจะช่วยกระตุ้นตลาดให้กับทาง ISUZU ได้มากแค่ไหน จะมากพอที่จะทำให้ D-MAX แซงนำขึ้นไปเป็นอันดับ 1 เหมือนเดิมได้หรือไม่ หรือ ISUZU อาจจะต้องมีรุ่นราคาต่ำ เข้ามาแข่งขันในตลาดมากขึ้น เพื่อชนกับ Toyota Hilux Champ ที่ถือว่ามาได้ถูกที่ถูกเวลา

ยอดขายรถกระบะดัดแปลง PPV ประจำเดือนมกราคม 2567
มีปริมาณการขาย 3,074 คัน ลดลง 43.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

อันดับ 1 TOYOTA FORTUNER 1,111 คัน ลดลง 50.7% ส่วนแบ่งตลาด 36.1%
อันดับ 2 ISUZU MU-X 1,023 คัน ลดลง 40.6% ส่วนแบ่งตลาด 33.3%
อันดับ 3 FORD EVEREST 705 คัน ลดลง 24.2% ส่วนแบ่งตลาด 22.9%
อันดับ 4 MITUSUBISHI PAJERO SPORT 186 คัน ลดลง 60.5% ส่วนแบ่งตลาด 6.1%
อันดับ 5 NISSAN TERRA 49 คัน ลดลง 50.5% ส่วนแบ่งตลาด 1.6%

ในส่วนของตลาดรถกระบะดัดแปลงหรือ PPV นั้น ยอดขายทั้งตลาด ก็ลดลงพอๆกับตลาดรถกระบะ Pure pickup คือลดลงมากถึง 43.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดย Toyota Fortuner ก็ยังทำได้ดีกว่า ISUZU MU-X แต่ยอดขายค่อนข้างสูสี โดยมี Ford Everest ตามหลัง MU-X มาเป็นอันดับ 3 แบบไม่ห่างกันนัก ทิ้งห่างอันดับ 4 Mitsubishi Pajero Sport และอันดับ 5 Nissan Terra ปีนี้ ถือว่าหืดจับสำหรับทุกค่าย ปีที่แล้วยอดขายทั้งตลาดถือว่าแย่ แต่ปีนี้ ถือว่าแย่ลงไปอีก เมื่อเทียบกับปีที่้ผ่านมา