ศึกใหญ่ ปี 2023 เมื่อ 2 เจ้าตลาด Toyota Hilux Revo / Isuzu D-MAX จ่อชิงเค้กก้อนใหญ่ที่สุด!

การแข่งขันในตลาดรถกระบะขนาดกลางของเมืองไทย ดุเดือดทุกปี จากการที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด เกือบครึ่งหนึ่งของทั้งตลาดรถยนต์ทั้งหมด แม้ว่าในช่วง 2-3 ปีหลัง จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 จนทำให้กำลังซื้อหดหาย แต่นั่นไม่ได้ทำให้ค่ายรถยนต์เจ้าตลาด อย่าง Isuzu และ Toyota เบามือจากการแข่งขันไปเลย ตรงกันข้าม การเปลี่ยนมือจากอันดับ 1 โดย Toyota Hilux Revo ไปเป็น Isuzu D-MAX เมื่อราว 3 ปีก่อน ทำให้การแข่งขันในตลาด ดุเดือดมากขึ้น เพราะเจ้าตลาดรถยนต์ของเมืองไทยอย่าง Toyota ไม่ต้องการเสียพื้นที่สำคัญ ไปให้คู่แข่งอย่าง Isuzu ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาอย่างยาวนาน อีกทั้งการถูกแย่งส่วนแบ่งตลาด ที่ละเล็กละน้อย โดยคู่แข่งใหม่จากประเทศจีน ที่เข้ามาแย่งตลาดด้วยทางเลือกใหม่ อย่างรถยนต์ไฟฟ้า ยิ่งทำให้ Toyota ต้องทำทุกวิถีทาง ในการรักษาตลาดรถกระบะปิกอัพเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ซึ่งเป็นตลาดที่ตัวเองมีความได้เปรียบในด้านเทคโนโลยีมานาน และในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึง น่าจะเป็นปีที่มีการแข่งขันกันในตลาดรถกระบะขนาดกลางมากที่สุดของเมืองไทย ในรอบหลายปีก็ว่าได้ จากหลายปัจจัยด้วยกัน

การแข่งขันในตลาดรถกระบะ ในปี 2022 ดูเหมือนจะจบลงไปแล้ว ก่อนที่จะถึงสิ้นปี เมื่อยอดขายสะสมใน 9 เดือนแรก Isuzu D-MAX นำห่าง Toyota Hilux Revo ไปถึงเกือบ 3 หมื่นคัน แม้ว่ายอดขายล่าสุดในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Hilux Revo จะสามารถทำยอดขายแซงกลับมาอยู่เหนือ D-MAX ได้ในรอบหลายเดือน โดยจำหน่ายไปได้เกือบ 13,000 คัน ในขณะที่ตัวเลขของ D-MAX อยู่ที่เกือบ 12,000 คัน ห่างกันราว 800 คัน แต่นั่นก็ไม่น่าจะมากพอ ที่จะพลิกสถานการณ์ใน 2 เดือนที่เหลือ ให้กลับมาล้มแชมป์เก่าได้ ในขณะที่ทางเลือกใหม่อย่าง Ford Ranger ทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆจากกำลังการผลิตที่มากขึ้น ทำให้ส่งมอบรถได้มากขึ้นตามลำดับ ทำให้ปี 2022 เป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นในปีต่อไป นอกจากนั้นแล้ว Mitsubishi ก็มีข่าวการเปิดตัว All-New Triton โฉมใหม่ ในปีหน้านี้ด้วย ยิ่งทำให้การแข่งขัน น่าจะเข้มข้นมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา อีกทั้งจากการคาดการณ์ของผู้บริหาร Toyota ประเทศไทย ว่าตลาดรถกระบะปิกอัพ จะโตจาก 52% ไปเป็น 56% ในปี 2023 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการขยายตัวทั้งอุตสาหกรรม จากกำลังซื้อที่กำลังกลับมา และกำลังการผลิต ที่เริ่มกลับมาเป็นปกติ โดยผู้บริหาร Toyota ยังมองว่า พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป โดยหันมาเลือกแบรนด์ ที่มีความน่าเชื่อถือมากขึ้นส่งผลให้เจ้าตลาดทั้งสองรุ่นคือ Isuzu D-MAX และ Toyota Hilux Revo จะมีส่วนแบ่งทางการตลาดรวมกันมากกว่า 80% นอกจากนั้นแล้ว การเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปีหน้า มีส่วนช่วยผลักดันให้ตลาดโตขึ้นไปอีก

สำหรับตลาดเมืองไทย ถือว่าเป็นตลาดสำคัญของ Toyota ซึ่งจากยอดขายในปี 2021 ที่ผ่านมา Toyota ทำยอดขายแบรนด์ Toyota และ Lexus รวมกันทั่วโลก ถึง 9,615,157 คัน โดยเป็นยอดขายในญี่ปุ่นเอง ที่ราว 1,500,000 คัน ที่เหลือเป็นยอดขายในทวีปต่างๆดังนี้ โดยตลาดเมืองไทยเพียงตลาดเดียว Toyota จำหน่ายรถไปได้ 239,723 คัน มากกว่าทวีปแอฟริกาทั้งทวีป และมากกว่ายอดขายของแต่ละประเทศในยุโรป และละตินอเมริกา โดยมียอดขายสูงกว่าประเทศออสเตรเลียเล็กน้อย ซึ่งเป็นตลาดรถกระบะขนาดกลางอันดับ 2 ของโลก ต่อจากไทย นั่นทำให้การแข่งขันของทั้งสองแบรนด์เจ้าตลาดในเมืองไทย น่าจะดุเดือดมากขึ้นไป จากเดิมที่เริ่มคุกรุ่นมาตั้งแต่ปี 2022 นี้ เพราะนอกจากมูลค่าตลาดจะมีมากที่สุดแล้ว ยังเป็นตลาดที่จะช่วยยืดอายุรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน ให้ไปต่อได้ อีกอย่างน้อยก็ช่วงเวลาหนึ่ง ก่อนที่อาจจะมีทางเลือกใหม่ที่เป็นขุมพลังไฟฟ้า หรือทางเลือกอื่นมาแทนที่ในอนาคต

ยอดขาย Toyota และ Lexus ทั่วโลก รวม 9,615,157 คัน
(ประเทศไทย 239,723 คัน)

ญี่ปุ่น 1,476,136 คัน
อเมริกาเหนือ 2,681,219 คัน
ละตินอเมริกา 385,246 คัน
ยุโรป 1,037,126 คัน
เอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) 3,135,228 คัน
โอเชียเนีย 273,768 คัน
ตะวันออกกลาง 418,612 คัน
แอฟริกา 205,750 คัน
อื่นๆ 2,072 คัน

จากการคาดการณ์ที่เกิดจากทาง Toyota เอง ย่อมทำให้บริษัท จะต้องดำเนินกลยุทธ์ทั้งเก่าและใหม่ เพื่อที่จะรักษาส่วนแบ่งทางการให้ได้มากที่สุด เพราะปี 2023 ถือว่าเป็นปีที่ยากลำบากสำหรับ Hilux Revo เพราะอาจจะเป็นปีสุดท้ายในการทำตลาดโฉมปัจจุบัน ก่อนที่จะมีเจนเนอเรชั่นใหม่ ถูกเปิดตัวในช่วงปลายปี หรือต้นปี 2024 นั่นหมายความว่า อย่างน้อยเกือบทั้งปี 2023 Toyota ยังต้องพึ่งพา Hilux Revo ที่อยู่ในช่วงปลายสุดของโมเดล ในการฟาดหันกับทั้ง Isuzu D-MAX Ford Ranger โฉมใหม่ รวมถึง Mitsubishi Triton ที่จะมีการเปิดตัวในปีหน้าเช่นกัน เรียกว่าเจอศึกหนักที่สุด ในยามที่ตลาดมีการขยายตัวมากที่สุด ทางเลือกของ Toyota จึงมีไม่มากนัก นั่นก็คือ 1. รีบเปิดตัว Hilux เจนเนอเรชั่นใหม่ ให้ได้เร็วที่สุด 2. จัดแคมเปญพิเศษที่น่าสนใจตลอดทั้งปี หรือให้มีความน่าสนใจมากกว่าปกติในแต่ละครั้งที่มีการทำโปรโมชั่น เพราะจากการเปิดตัวรุ่นปรับปรุงใหม่และรุ่นพิเศษที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าไม่สามารถทำให้ Isuzu D-MAX ระคายผิวได้เลย งานนี้จึงน่าจับตาดูว่า Toyota จะมีกลยุทธ์อย่างไร ในการทำตลาด Hilux Revo ในปีหน้า ในขณะที่คู่แข่งอื่นๆ โดยเฉพาะ Isuzu D-MAX น่าจะมีไม้เด็ดเพื่อรับน้องใหม่อย่าง All-New Hilux หากมีการเปิดตัวขึ้นในปลายปีหน้า ส่วน Ford Ranger และ Mitsubishi Triton น่าจะใช้ความสดของรถเจนเนอเรชั่นใหม่ เป็นจุดขายในปี 2023 ทั้งนี้ยังไม่รวมทางเลือกใหม่อย่างรถกระบะไฮบริดและรถกระบะไฟฟ้า ที่ตลาดจับตาดูเช่นกันว่า ค่ายใดจะเริ่มชิงลงมือก่อน ในฐานะผู้บุกเบิก หรืออีกมุมหนึ่งก็คือหนูทดลองรายแรกของตลาด ซึ่งไม่ว่าการแข่งขันจะออกมาในรูปแบบใด ผู้บริโภคน่าจะได้รับประโยชน์มากที่สุด จากการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้นในปี 2023

[yourchannel video=”-2VSstKBsqc” autoplay=”1″ show_comments=”1″]