Mazda ประเทศไทย เตรียมเปิดตัวแนะนำยนตรกรรมใหม่ NEW MAZDA CX-8 รถอเนกประสงค์เอสยูวีที่ตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัว ภายใต้การออกแบบ โคโดะ ดีไซน์ หรือ จิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันสง่างาม ในวันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคมนี้ พร้อมเผยความสำเร็จครึ่งแรกของปีเสือ โกยยอดทะลุ 20,000 คัน พร้อมยกระดับการเอาใจใส่ดูแลลูกค้ารองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน
มาสด้าสุดปลื้มยอดขายเกินคาดการณ์ผ่านมาครึ่งปีส่งมอบรถไปแล้วมากกว่า 20,000 คัน เติบโตเพิ่มขึ้น 6.4% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะรถยนต์นั่งมาสด้า2, ครอสโอเวอร์เอสยูวีมาสด้า CX-3 และมาสด้า CX-30 ที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม สร้างยอดขายให้มาสด้าอย่างเป็นกอบเป็นกำ พร้อมกับเริ่มมอบแพจเกจพิเศษสำหรับลูกค้า ฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่ นานสูงสุด 5 ปี เพื่อแบ่งเบาภาระของลูกค้า พร้อมทั้งเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงหลังของปีหลัง คาดว่าตลาดกำลังจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เตรียมงัดกลยุทธ์เด็ด ทั้งการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ด้านการตลาด ด้านการขาย โดยเฉพาะด้านการบริการที่กำลังเน้นมากเป็นพิเศษ เพื่อยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและเพื่อสร้างแบรนด์มาสด้าให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมมุ่งสู่เป้าการขายปีนี้ที่ 45,000 คัน
แม้ว่าในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา อุตสาหกรรมรถยนต์จะมีการแข่งขันสูงและการดำเนินธุรกิจจะต้องประสบกับความท้าทายรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น จากปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์สำหรับการผลิต หรือค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น ฯลฯ แต่ด้วยการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากลูกค้า ที่เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของมาสด้า จึงทำให้รถยนต์มาสด้ายังคงได้รับการตอบรับที่ดีทุกรุ่น ส่งผลให้ยอดขายรวมระหว่างเดือนมกราคมจนถึงมิถุนายน 2565 เติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 6.4% ซึ่งนับว่าเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อตลาดรถยนต์ ภายหลังจากที่เศรษฐกิจต้องหยุดชะงักไปในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา อันเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19
สำหรับในช่วงเดือนมกราคม-มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา มาสด้ามียอดขายสะสมสูงถึง 20,117 คัน แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง จำนวน 12,111 คัน ได้แก่ รถมาสด้า2 จำนวน 11,242 คัน มาสด้า3 จำนวน 866 คัน และรถสปอร์ตเปิดประทุน มาสด้า MX-5 จำนวน 3 คัน ในขณะที่รถครอสโอเวอร์เอสยูวี มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 7,496 คัน แบ่งเป็น มาสด้า CX-30 จำนวน 3,869 คัน, มาสด้า CX-3 จำนวน 2,792 คัน, มาสด้า CX-5 จำนวน 421 คัน และ มาสด้า CX-8 จำนวน 414 คัน ในขณะที่รถปิกอัพต้นแบบแห่งความสง่างาม มาสด้า บีที-50 สามารถสร้างยอดขายได้อีกจำนวน 510 คัน
เช่นเดียวกับในเดือนมิถุนายน 2565 ที่ยอดขายมาสด้ามีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกัน โดยคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เติบโตอยู่ที่ 6.5% ด้วยยอดขายรวมอยู่ที่ 3,199 คัน แบ่งออกเป็น มาสด้า2 จำนวน 1,785 คัน, มาสด้า CX-30 จำนวน 973 คัน, มาสด้า3 จำนวน 175 คัน, มาสด้า CX-3 จำนวน 122 คัน, มาสด้า CX-5 จำนวน 51 คัน, มาสด้า CX-8 จำนวน 12 คัน และรถปิกอัพ มาสด้า บีที-50 อีกจำนวน 81 คัน ตามลำดับ
สำหรับในช่วงครึ่งหลังของปี 2565 นับว่ายังคงมีปัจจัยรอบด้านที่ยังคงต้องจับตามอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาพเศรษฐกิจ การขาดแคลนชิ้นส่วนในการผลิต อันเนื่องมาจาก Supply Shock รวมถึงต้นทุนต่างๆ ที่เพิ่มสูงขึ้นอาจส่งผลทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจซื้อ แต่ทั้งนี้ Mazda ก็ได้เตรียมกลยุทธ์ในด้านต่างๆ ไว้อย่างชัดเจน เพื่อมุ่งตามแผนงานระยะกลางที่บริษัทได้ตั้งเป้าหมายไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการยกระดับความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า ที่มาสด้ามุ่งหน้าที่จะส่งมอบความประทับใจให้กับลูกค้าของบริษัทอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง โดยมาสด้าจะเริ่มต้นด้วยการเอาใจใส่กับเรื่องการบริการหลังการ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าเพื่อสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว ด้วยการใส่แพจเกจให้กับลูกค้า คือ ฟรีค่าแรง ฟรีค่าอะไหล่ ตลอดระยะเวลา 5 ปี ซึ่งจะทำให้ลูกค้าจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องการบริการหลังการขายอีกต่อไป รวมถึงการเดินหน้าขยายโชว์รูมและศูนย์บริการและโชว์รูม MAZDA CERTIFIED PRE-OWNED ซึ่งขณะนี้เปิดให้บริการแล้วทั้งหมด 10 โชว์รูม ทั่วประเทศ เพื่อจำหน่ายรถยนต์มาสด้ามือสองคุณภาพดี ซึ่งทั้งหมดเหล่านี้ เพื่อเป็นการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร และสร้างความยั่งยืนให้กับแบรนด์มาสด้าในประเทศ
ไม่เพียงเท่านี้ เพื่อให้ลูกค้าได้รับสิทธิพิเศษมากยิ่งขึ้นและเพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่เลือกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมาสด้า ในเดือนกรกฎาคม 2565 นี้ มาสด้าขอมอบการดูแลอย่างเหนือระดับให้กับลูกค้าที่ออกรถใหม่ทุกท่าน ระหว่างวันที่ 7-17 ก.ค. 65 ด้วยแคมเปญ MAZDA HAPPY FESTIVAL เทศกาลแห่งความสุข กับข้อเสนอสร้างรอยยิ้ม ซึ่งลูกค้าจะได้รับแพ็กเกจบำรุงรักษารถ MAZDA CARE 5 ปี* ฟรีค่าแรงและค่าอะไหล่ รับบัตรเติมน้ำมันมูลค่าสูงสุด 15,000 บาท* และพิเศษยิ่งไปกว่านั้น ลูกค้า 800 ท่านแรก ที่จองรถในงานฯ 5,000 บาท และออกรถภายในวันที่ 31 ก.ค. 65 จะได้รับ SONY PORTABLE WIRELESS SPEAKER มูลค่า 1,990 บาท** ไปแบบฟรีๆ อีกด้วย ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมมาสด้าใกล้บ้าน หรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th
สรุปยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าในช่วงครึ่งแรกของปี 2565 เปรียบเทียบกับปี 2564
ข้อมูลการขายรถ | มกราคม – มิถุนายน 2565 (คัน) | มกราคม – มิถุนายน 2564 (คัน) | เปลี่ยนแปลง (%) |
Mazda2 | 11,242 | 9,623 | +16.8% |
Mazda3 | 866 | 1,270 | -31.8% |
Mazda CX-3 | 2,792 | 2,227 | +25.4% |
Mazda CX-30 | 3,869 | 4,194 | -7.8% |
Mazda CX-5 | 421 | 390 | +8.0% |
Mazda CX-8 | 414 | 533 | -22.3% |
Mazda BT-50 | 510 | 668 | -23.7% |
Mazda MX-5 | 3 | 3 | 0% |
ยอดรวม | 20,117 | 18,908 | +6.4% |
* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mazda.co.th
**จองรถในงาน 5,000 บาท และออกรถภายในวันที่ 31 ก.ค. 65 รับ Sony XB13 EXTRA BASSTM Portable Wireless Speaker มูลค่า 1,990 บาท จำนวนจำกัด 800 ชิ้น
[yourchannel video=”uehn-BaRwvU” autoplay=”1″ show_comments=”1″]