น้องใหม่ตัวตึง! 2023 Hyundai Stargazer เปิดราคาแล้ว ไม่หวั่น Veloz หรือ Xpander

ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) เขย่าตลาดรถยนต์อเนกประสงค์ในไทย ด้วย “ฮุนได สตาร์เกเซอร์” รับศักยภาพตลาดยานยนต์ในไทย เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว โดยรถยนต์รุ่นดังกล่าว ได้รับการออกแบบการใช้งาน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ความสบายที่ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยห้องโดยสารที่กว้างขวาง เพื่อให้เป็นที่เติมเต็มความสุขร่วมกันภายในครอบครัวในทุกครั้งที่เดินทาง ดีไซน์กระจกขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด จัดเต็มอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น โต๊ะพับ หลังพนักพิงด้านหน้า ถาดเก็บของแบบซ่อนที่คอนโซลหน้า และรุ่นท็อป (สมาร์ท 6) มาพร้อมกับเบาะนั่ง 6 ที่ โดยแถวที่ 2 มาในรูปแบบ Captain Seat ซึ่งเป็นเจ้าแรกของมินิเอ็มพีวีในประเทศไทย

นายเจ กิว จอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ฮุนได โมบิลิตี้ เล็งเห็นถึงความสำคัญของประเทศไทย ในฐานะตลาดที่สำคัญของรถยนต์อเนกประสงค์ขนาดเล็ก (มินิเอ็มพีวี) ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหารถยนต์ ที่สามารถเข้าถึงไลฟ์สไตล์ครอบคลุมทุกมิติ พร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งาน ที่เหนือกว่ารถยนต์ทั่วไป ในปีนี้ ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จึงได้เปิดตัวรถยนต์รุ่น “ฮุนได สตาร์เกเซอร์” เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญทั้งในด้านการบริหาร และการทำตลาดโดยฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) พร้อมด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ของรถมินิเอ็มพีวีอเนกประสงค์ ขนาด 6 และ7 ที่นั่ง ครบครันทั้งการขับขี่ การออกแบบที่คำนึงถึงความสบายที่สุดของทุกที่นั่ง พร้อมด้วยสมรรถนะ และนวัตกรรมภายใต้มาตรฐานอันล้ำสมัย ในราคาที่พร้อมแข่งขันกับผู้เล่นอื่นในตลาดอย่างแน่นอน

“ตลาดรถมินิเอ็มพีวีในประเทศไทย มีการเติบโตที่น่าจับตามอง เห็นได้จากยอดขายในปีที่ผ่านมา ที่รถประเภทมินิเอ็มพีวีมียอดขายรวมกว่า 27,000 คัน เป็นภาพสะท้อนของภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง และจากการที่บริษัทฯนำเอาฮุนได สตาร์เกเซอร์ มาจัดแสดงในงานมหกรรมยานยนต์เมื่อปลายปีที่ผ่านมา พบว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัวทั้งขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ กลุ่มผู้ทำธุรกิจ เพราะเป็นรถที่สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย และในปีนี้ ฮุนไดพร้อมจะบุกตลาดประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยราคา และข้อเสนอที่คุ้มค่า”

นายเจ กิว จอง กล่าวเพิ่มเติมว่า “ฮุนได สตาร์เกเซอร์” ถูกออกแบบมาภายใต้คอนเซ็ปต์ความสบายไม่มีที่สิ้นสุด เพื่อให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารเป็นที่เติมเต็มความสุขร่วมกันภายในครอบครัวในทุกครั้งที่เดินทาง รูปลักษณ์ ภายนอกที่หรูหราที่มาพร้อมกับตัวถังที่แข็งแรงและปลอดภัย ด้วยมาตรฐานของเหล็กคุณภาพระดับโลก โดยรถรุ่นนี้ถูกประกอบในประเทศอินโดนีเซีย ภายใต้การควบคุมมาตรฐาน โดยฮุนได มอเตอร์ จากสาธารณรัฐเกาหลี ภายในเน้นการออกแบบที่คำนึงถึงความสบายและความปลอดภัยของทุกที่นั่งเป็นปัจจัยสำคัญที่สุด ดีไซน์กระจกขนาดใหญ่ ที่ให้ความรู้สึกโปร่ง สบาย ไม่อึดอัด อีกทั้งจัดเต็มไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เช่น โต๊ะพับหลังพนักพิงด้านหน้า ถาดเก็บของแบบซ่อนที่คอนโซลหน้า การปรับระดับเบาะโดยสารได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยการจัดวางเบาะที่นั่ง 3 แถว ซึ่งทุกแถวสามารถนั่งได้สบายไม่ว่าระยะทางใกล้หรือใกล้ และความพิเศษสุด มาในรุ่นท็อป (สมาร์ท 6) เป็นเบาะที่นั่ง 3 แถว 6 ที่นั่ง โดยเบาะแถวที่ 2 มาแบบ Captain Seat เจ้าแรกของมินิเอ็มพีวีในประเทศไทย

ทางด้านสมรรถนะและความปลอดภัย ฮุนไดสตาร์เกเซอร์ ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร พร้อมระบบเกียร์ IVT ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้า (PS) ที่ 6,300 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 144 นิวตัน-เมตร การออกแบบตัวถังที่ลู่ลมและปราดเปรียว ช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ขับขี่สนุกได้ดั่งใจทั้ง eco mode และ sport mode พร้อมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง อาทิ ระบบเตือนและเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ, ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่กลางเลน, ระบบป้องกันการเปิดประตูสไลด์ เมื่อมีรถวิ่งมาด้านข้าง ที่ช่วยสนับสนุนผู้ขับขี่ได้ทุกเส้นทางไม่ว่าในเมือง – หรือระยะทางไกล

ฮุนได สตาร์เกเซอร์ พร้อมจำหน่ายใน 4 รุ่นย่อม ได้แก่ รุ่นเทรนด์, สไตล์, สมาร์ท 6 และ สมาร์ท 7 มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีดำ มิดไนท์ แบล็ก เพิร์ล, สีขาว ครีมมี่ ไวท์ เพิร์ล, สีเงิน แม็กเนติก ซิลเวอร์ เมทัลลิก และ สีเทา ไททัน เกรย์ เมทัลลิก โดยในรุ่นท็อป สมาร์ท 6 จะมาพร้อมกับสีตัวถังแบบทูโทนด้วยหลังคาสีดำ ในราคาดังต่อไปนี้

รุ่น Trend ราคา 769,000 บาท
รุ่น Style ราคา 829,000 บาท
รุ่น Smart 7 ราคา 869,000 บาท
รุ่น Smart 6 ราคา 889,000 บาท
รุ่น Smart 6 หลังคาดำ ราคา 909,000 บาท

พร้อมให้เป็นเจ้าของแล้วตั้งแต่วันนี้ ณ งานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 44 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22 มีนาคม จนถึงวันที่ 2 เมษายน 2566 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานี พร้อมด้วยโปรโมชั่นมากมาย อาทิ ดอกเบี้ยพิเศษ 1.89% เมื่อดาวน์ 25% หรือ 30% และผ่อนชำระ 48 เดือน, ผ่อนชำระเงินดาวน์นาน 6 เดือน โดยไม่มีดอกเบี้ย, ฟรีประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี, รับประกันคุณภาพนาน 5 ปี หรือ 150,000 กม., บริการช่วยเหลือฉุกเฉินนาน 5 ปี, ฟรีค่าแรงเช็คระยะ 2 ปี หรือ 40,000 กม.

[yourchannel video=”UaUqdx-ALC4″ autoplay=”1″ show_comments=”1″]