เมื่อปลายปีก่อน รถกระบะปิกอัพ 2 รุ่น ที่ได้รับการจับตามองจากคนไทยมากที่สุด คงหนีไม่พ้น Nissan Navara รุ่นปรับโฉมใหม่ และ All-New Mazda BT-50 โดยรายแรก อย่าง Nissan Navara นอกจากจะมาพร้อมกับการปรับโฉมใหม่ทั้งคัน ราวกับว่านี่คือ All-New Navara เจนเนอเรชั่นใหม่ อ็อปชั่นต่างๆที่ให้มา ก็ถือว่าครบครันไม่น้อย นั่นทำให้ Nissan มั่นใจว่า Navara จะกลับมาประกาศความยิ่งใหญ่ได้อีกครั้งเหมือนในอดีต ในขณะที่ Mazda ดูเหมือนว่าจะมั่นใจยิ่งกว่า เพราะเจนเนอเรชั่นล่าสุด ได้ร่วมมือกับพันธมิตรที่เป็นเบอร์ 1 ในด้านยอดขายของไทยในปัจจุบัน อย่าง Isuzu D-MAX เรียกว่า ต่างกันก็แค่เพียงรูปโฉมเปลือกนอก ที่สัมผัสกับตัวผู้ใช้งานเท่านั้น แต่โครงสร้าง ขุมพลัง และฟีเจอร์ส่วนใหญ่ ก็คือ D-MAX นั่นเอง
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา Nissan Navara ทำได้เพียง 662 คัน อยู่ในอันดับ 5 ที่มียอดขายไม่ได้ห่างจากน้องใหม่อย่าง MG Extender เลย ซึ่งทำได้ที่ 474 คัน ซึ่งตัวเลขนี้ MG เองก็ไม่ได้พอใจนัก ส่วนยอดขายสะสมใน 4 เดือนแรกของ Navara มีแค่เพียง 2,739 คันเท่านั้น ซึ่งถ้ายอดขายอยู่ในระดับนี้ต่อไป จะทำให้ยอดขายสะสมทั้งปี 2021 จะมีไม่ถึงหนึ่งหมื่นคันด้วยซ้ำ หรือน้อยกว่ายอดขายเพียงเดือนเดียวของทั้ง Isuzu D-MAX และ Toyota Hilux Revo ทั้งที่รูปโฉม อ็อปชั่น ก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ในตลาด ในขณะที่ศูนย์บริการก็มีไม่น้อย และสร้างหลักปักฐานในเมืองไทยมานานหลายสิบปี ถือว่าเป็นแบรนด์รถยนต์เก่าแก่แบรนด์หนึ่งในเมืองไทยก็ว่าได้ หรืออาจจะเป็นเพราะความมั่นใจที่มีต่อแบรนด์ในปัจจุบัน ลดน้อยถอยลงไปทุกที ส่วนหนึ่ง อาจจะเกิดจากการทยอยถอนรถยนต์รุ่นดังในอดีตบางรุ่น ออกจากตลาด เพราะแม้แต่กระบะดัดแปลงอย่าง Nissan Terra ก็ถือว่าอยู่ในอาการร่อแร่ การทำตลาดน้อยรุ่น ย่อมทำให้การกิจกรรมทางการตลาดลดน้อยลงไปด้วย ในขณะที่ Nissan เอง ก็ยังไม่มีรถยนต์รุ่นยอดนิยมในเซกเมนต์ใดๆเลย ทำให้การรับรู้ในเรื่องแบรนด์ จึงค่อยๆหายไปโดยอัตโนมัติ
ในขณะที่ All-New Mazda BT-50 เจนเนอเรชั่นใหม่ ดูจะน่าเป็นห่วงมากกว่า เพราะก่อนที่จะมีการเปิดตัว เชื่อว่าหลายคนมองว่า BT-50 โฉมใหม่ อาจจะทำผลงานได้ดี หรืออย่างน้อย ก็ไม่แย่ไปกว่าเดิม เพราะน่าจะทำให้ผู้ซื้อ มั่นใจในตัวสินค้ามากขึ้น จากการเป็นร่างโคลนของ D-MAX โฉมใหม่ ที่ได้พิสูจน์ให้เห็นผลงานมาแล้ว เพราะสามารถแซง Toyota Hilux Revo ขึ้นไปเป็นที่ 1 ในด้านยอดขายได้ในปีที่ผ่านมา แม้ว่า Mazda เอง จะมองว่าดีไซน์ของ BT-50 ที่ดูคล้ายรถยนต์นั่ง จะเน้นเจาะตลาดสุภาพสตรี เป็นตลาดหลักตลาดหนึ่งก็ตาม แต่ก็คงไม่คิดว่า จะมียอดขายเพียง 50 คัน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งถ้าจะบอกว่าเป็น เพราะกำลังซื้อที่หดหาย จากสถานการณ์โรคระบาด ก็เหมือนจะไม่มีน้ำหนักมากนัก เพราะรถยนต์ที่มีจำหน่ายในไทยแทบทุกรุ่น มียอดขายเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับปีก่อน กรณีของ BT-50 อาจจะแตกต่างไปจากกรณีของ Nissan Navara พอสมควร ในเรื่องความเชื่อมั่นในแบรนด์สินค้า เพราะในรอบหลายปีที่ผ่านมา Mazda ได้สร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เพิ่มมากขึ้น ได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้สาเหตุหลัก ก็อาจจะเป็นเรื่องของการนำไปเปรียบเทียบ กับต้นฉบับอย่าง Isuzu D-MAX ที่ได้รับความไว้วางใจมากกว่า และกลุ่มเป้าหมาย อาจจะไม่สามารถรับรู้ถึงความแตกต่างได้ชัดเจน นอกจากเรื่องของรูปโฉมเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม คงไม่มีอะไรดี และชัดเจนไปกว่าเสียงสะท้อนจากผู้ใช้รถ เราจึงอยากจะทราบจากคุณ โดยเฉพาะผู้ที่เคยคิดให้รถกระบะทั้งสองรุ่น เป็นหนึ่งในตัวเลือก ว่าอะไรที่เป็นสาเหตุสำคัญ ที่ทำให้คุณตัดสินใจซื้อรถกระบะรุ่นอื่นทดแทนในที่สุด ซึ่งเชื่อว่าเรื่องนี้ ทางค่ายรถยนต์ อาจจะพอทราบอยู่บ้างแล้ว แต่ก็อาจจะไม่มีความชัดเจนพอ ไม่อย่างนั้น เราก็คงไม่เห็นยอดขาย ในระดับที่ต่ำจนน่าใจหายนี้
ใช้นิสสัน นาวาร่าอยู่ ศูนย์บริการ บริการไม่ดี เช็คระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องธรรมดาเงินน้อยๆไม่ค่อยต้อนรับลูกค้าปล่อยให้ลูกค้าไปใช้บริการบีควิกที่อุปกรณ์และกำลังคนก็น้อยกว่าแต่งานเรียบร้อยรวดเร็ว และไม่เกี่ยงงานเกี่ยงคิวจองให้ลูกค้าหงุดหงิดต้องถอยรถยี่ห้อตนเองออกไปรับบริการนอกศูนย์ ไปกี่ครั้งก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งทำให้คิดว่าจะเปลี่ยนรถเป็นอีซุซุหรือโตโยต้าเมื่อนผ่อนหมดครับ เพราะบริการแย่กว่าบีควิกแยะครับ ถึงรถจะดีสวยแค่ไหนแต่บริการห่วยๆก็จะเปลี่ยนยี่ห้อดีกว่า ขอกระซิบนะที่ศูนย์นิสสัน ช เอราวันนครปฐมครับ