รีวิว All-New Toyota Corolla Altis 2019-2020 รุ่นใหม่ ล่าสุด Hybrid / GR-Sport / 1.6G พร้อมราคา

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวรถยนต์นั่งยอดนิยม โคโรลล่า อัลติส ใหม่…“Make A New High ข้ามสู่ขีดสุดที่เหนือกว่า” เร้าใจด้วยดีไซน์ภายนอกอันโดดเด่น ภายในกว้างขวาง ทันสมัย ให้ความรู้สึกเรียบหรู เพียบพร้อมด้วยฟังก์ชันการใช้งาน ของอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆที่ครบครัน

สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือชั้น จากสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA (Toyota New Global Architecture) ให้ความสนุกสนานในการขับขี่อย่างเต็มที่ (Fun-to-drive) พร้อมมั่นใจในทุกสถานการณ์การขับขี่ ด้วยระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกรุ่นล่าสุด Toyota Safety Sense และถือเป็นครั้งแรกของโคโรลล่า อัลติส ใหม่ ที่มาพร้อมกับระบบไฮบริดรุ่นล่าสุด ในเจเนอเรชั่นที่ 4 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในอัตราเร่งที่ดีขึ้น และสามารถประหยัดน้ำมันได้สูงสุด ที่ 23.3 กิโลเมตรต่อลิตร โดยมีให้เลือกถึงสามรุ่น รถรุ่นนี้ ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดแบบเต็มรูปแบบ คันแรกในเซกเมนต์นี้ สำหรับประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังมีรุ่นสปอร์ตใหม่“ Corolla Altis GR-Sport” ที่พัฒนาภายใต้แนวคิด“ Gazoo Racing Sport” โดย
รุ่น GR-Sport นี้ จะมาพร้อมกับแพ็คเกจพิเศษ ซึ่งจะเพิ่มแอโรไดนามิก และจะมอบความตื่นเต้นเร้าใจในการขับขี่สูงสุด ให้กับลูกค้าของบริษัท โดยบริษัทได้วางเป้าหมายการขาย Corolla Altis ใหม่ ไว้ที่ 2,300 คันต่อเดือน

โดยในครั้งนี้ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ได้รับการพัฒนาให้มี 5 จุดขายหลัก ได้แก่

  1. ด้านการออกแบบ – ภายนอกได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Shooting Robust” กับเส้นสายที่โฉบเฉี่ยว ทันสมัย ให้ความหนักแน่น ภายในได้รับการพัฒนาภายใต้แนวคิด “Clean & Wide” ตัวรถกว้างขวาง คำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานจริง เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมาย
  2. ด้านประสิทธิภาพของการขับขี่ – สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA ที่ช่วยทำให้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถโดยรวม ลดลง เพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว ทั้งการขับขี่ทางตรง และในขณะเข้าโค้ง ช่วงล่างด้านหน้า MacPherson Strut และช่วงล่างด้านหลังอิสระแบบปีกนกคู่ Double Wishbone เพิ่มความนุ่มนวลในขณะโดยสาร และเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัวได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงการเพิ่มวัสดุดูดซับเสียง และการสั่นสะเทือนในตำแหน่งต่างๆ สร้างความผ่อนคลายให้กับผู้โดยสาร ตลอดการเดินทาง
  3. ระบบไฮบริด เจเนอเรชั่นที่ 4 – ครั้งแรกกับ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ รถยนต์รุ่นเดียวในตลาด C-Segment ที่ใส่ระบบ Full hybrid ช่วยให้ประหยัดน้ำมันได้อย่างดีเยี่ยม แต่ยังคงไว้ซึ่งความสนุกในการขับขี่ และตอบสนองต่อการเร่งแซง ได้อย่างมั่นใจ

นอกเหนือจากเครื่องยนต์ไฮบริด โคโรลล่า อัลติส ใหม่ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ 1.6 และ 1.8 ลิตร เบนซิน เพื่อตอบสนองต่อทุกความต้องการ ในทุกกลุ่มลูกค้า โดยมีการปรับจูน เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ให้มีอัตราเร่ง ตอบสนองที่ดีเยี่ยม และเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร ให้มีความเหมาะสมต่อการใช้งานทั่วไป

  • 4. ระบบความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลกของรถโตโยต้า มี 3 ส่วนดังนี้
  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Active Safety) โคโรลล่า อัลติส ใหม่ ได้เพิ่มระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (Blind Spot Monitor) และระบบช่วยเตือนในขณะถอยรถ (Rear Cross Traffic Alert) อีกทั้งยังมีระบบควบคุมการทรงตัว VSC (Vehicle Stability Control) และระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HAC (Hill Start Assist Control) เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน สำหรับทุกรุ่น
  • ระบบความปลอดภัยหลังการชน (Passive Safety) โดยตัวรถมีการเสริมโครงสร้างด้านหน้า เพื่อช่วยถ่ายเทแรง ในกรณีที่เกิดการปะทะ และโครงสร้างด้านข้างแบบวงแหวน ช่วยลดการยุบตัวจากการชน รวมทั้งมีถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน เพิ่มความมั่นใจในการปกป้องผู้โดยสารรอบคัน
  • Toyota Safety Sense ใหม่ล่าสุด ที่มีระบบการทำงานเพิ่มเติม คือ Dynamic Radar Cruise Control แบบ Full-Speed range ซึ่งสามารถปรับลดความเร็ว จนถึงจุดหยุดนิ่งตามรถยนต์คันหน้า และระบบ Lane Tracing Assist ที่ช่วยประคองรถยนต์ ให้วิ่งอยู่ในเลนได้เอง แม้ในขณะเข้าโค้ง เพื่อช่วยลดความเมื่อยล้าในขณะขับขี่
  • 5. ระบบการเชื่อมต่อ – สะดวกสบายไปกับ Apple CarPlay และ T-Connect Telematics เพื่อช่วยให้ไม่พลาด ในทุกการเชื่อมต่อ ทุกที่ และทุกเวลา

โคโรลล่า อัลติส ใหม่ มาพร้อม

  • ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นเหนือใคร
    • ไฟหน้า LED Projector เปิด – ปิด อัตโนมัติ
    • ไฟส่องสว่างกลางวัน แบบ LED Daytime Running Lights
    • ไฟท้าย LED Rear Lamps
    • ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
    • ระบบเปิดประตูอัจฉริยะ (Smart Entry) สามารถปลดล็อกประตู ได้โดยอัตโนมัติ
  • ภายในเหนือกว่าทุกความสะดวก กับฟังก์ชันเหนือชั้น
    • Head Up Display หน้าจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบสี บนกระจกหน้ารถ
    • Push Start ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ
    • มาตรวัดเรืองแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี ขนาด 7 นิ้ว
    • หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay พร้อมระบบนำทาง Navigator รองรับ T-CONNECT
    • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
    • ระบบกรองอากาศภายในห้องโดยสาร สร้างโมเลกุลน้ำ ล้อมรอบประจุลบ เพื่อขจัดกลิ่น และยับยั้งเชื้อโรค • กระจกมองข้าง พับเก็บอัตโนมัติ
    • แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย
    • กระจกมองหลัง แบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
    • ระบบหน่วงแรงเบรกอัตโนมัติ และระบบเบรกมือไฟฟ้า
    • ช่องปรับอากาศ สำหรับที่นั่งด้านหลัง
    • ม่านบังแดด ที่กระจกหลัง
  • สถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ (TNGA)
    • BODY RIGIDITY…เพิ่มความมั่นคงของรถ จากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง พร้อมเพิ่มจำนวน จุดเชื่อมตัวรถ (Spot welding) ช่วยรองรับแรงบิด ที่มีต่อตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว และเกาะถนน
    • LOWER CENTER OF GRAVITY…ออกแบบให้มีจุดศูนย์ถ่วงรถต่ำ ลดอาการโคลงของตัวรถ ช่วยเรื่องการทรงตัว และการเข้าโค้งดีขึ้น • DOUBLE WISHBONE SUSPENSION…ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนที่ดีเยี่ยม
    • GOOD HANDLING…พวงมาลัยมีการปรับจูนใหม่ ตอบสนองแม่นยำมากขึ้น เพื่อให้การควบคุมรถง่าย เป็นไปอย่างมั่นใจ
    • EXCELLENT VISIBILITY…ออกแบบตัวรถ ให้เหมาะกับสรีระผู้ขับขี่ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัย ลดจุดอับสายตา

สำหรับรุ่น GR SPORT จะมาพร้อม
• เบาะหนังคู่หน้าทรงสปอร์ต ดีไซน์สีดำ ตกแต่งสีแดง
• ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ ที่พวงมาลัย
• มาตรวัดเรื่องแสงแบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสี ขนาด 4.2 นิ้ว
• Push Start ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ
• กล้องมองภาพขณะถอยหลัง

• เกียร์อัตโนมัติ SUPER CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift
• Paddle Shift ควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย
• Double Wishbone Suspension ช่วงล่างอิสระแบบปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ แต่ยังคงไว้ซึ่งการเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยม
• Body Rigidity เพิ่มความมั่นคงของรถ จากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแรง พร้อมเพิ่มจำนวน จุดเชื่อมตัวรถ (Spot Welding) ช่วยรองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัวและเกาะถนน

สำหรับขุมพลังขับเคลื่อน จะมี 3 แบบด้วยกัน ดังนี้

รุ่นไฮบริด จะมาพร้อมเครื่องยนต์ รหัส 2ZR-FXE ขนาด 1,798 ซีซี พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า และเกียร์ E-CVT ขีดสุดแห่งพลังขับเคลื่อน ด้วยระบบไฮบริดเจเนอเรชันที่ 4 เพิ่มประสิทธิภาพ และประหยัดน้ำมันได้ดียิ่งขึ้น ให้กำลังสูงสุด 98 แรงม้าที่ 5200 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 142 นิวตันเมตรที่ 3600 รอบ/นาที ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลัง 53 กิโลวัตต์ แบตเตอรี่ไฮบริดเป็น แบบนิกเกิลเมทัลไฮดราย ที่ได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อความทนทานและประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า

รุ่น GR SPORT จะมาพร้อมเครื่องยนต์ รหัส 2ZR-FBE ขนาด 1,798 ซีซี และเกียร์อัตโนมัติ SUPER CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ขีดสุดแห่งความแรง ด้วยอัตราเร่งเต็มพลัง ตอบสนองได้ดั่งใจ เพื่อการขับขี่ที่เต็มประสิทธิภาพ ให้กำลังสูงสุด 140 แรงม้า ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 177 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบ/นาที

รุ่น 1.6G จะมาพร้อมเครื่องยนต์ รหัส 1ZR-FBE ขนาด 1,598 ซีซี และเกียร์อัตโนมัติ SUPER CVT-i 7 สปีด พร้อม Sequential Shift ให้คุณมั่นใจกับการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ให้กำลังสูงสุด 125 แรงม้า ที่ 6050 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 156 นิวตันเมตรที่ 5200 รอบ/นาที

สำหรับระบบความปลอดภัย มีดังต่อไปนี้
• Back Guide Monitor กล้องมองภาพขณะถอยหลัง
• Rear Cross Traffic Alert ระบบช่วยเตือนขณะถอยรถ
• Hill-start Assist Control ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน
• Blind Spot Monitor ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ที่กระจกมองข้าง
• Back Sonar สัญญาณเตือน กะระยะท้ายรถ
• Tire Pressure Monitoring System ระบบแจ้งเตือน เมื่อลมยางผิดปกติ
• Traction Control System ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี
• Vehicle Stability Control ระบบควบคุมการทรงตัว
• Anti-lock Brake System ระบบป้องกันล้อล็อก
• Electronic Brake-force Distribution ระบบกระจายแรงเบรก
• Brake Assist ระบบเสริมแรงเบรก
• ถุงลมเสริมความปลอดภัย ระบบ SRS 7 ตำแหน่ง ทุกรุ่น
• โครงสร้างตัวถังนิรภัย GOA พร้อมคานนิรภัย

เลือกเป็นเจ้าของ โคโรลล่า อัลติส ใหม่ 6 รุ่น และ 7 สี
– White Pearl* – Phantom Brown
– Super White II – Attitude Black Mica
– Silver Metallic – Red Mica Metallic
สีใหม่ 1 สี
– Celestite Gray

ส่วนราคาจำหน่าย Toyota Corolla Altis ใหม่ มีดังต่อไปนี้

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด Toyota Corolla Altis ใหม่

  • Hybrid High เกียร์อัตโนมัติ ราคา 1,099,000 บาท***
  • Hybrid Mid เกียร์อัตโนมัติ ราคา 989,000 บาท***
  • Hybrid Entry เกียร์อัตโนมัติ ราคา 939,000 บาท***
    (*สำหรับสีพิเศษ White Pearl มีเฉพาะรุ่น Hybrid และเครื่องยนต์ 1.8 GR-Sport โดยเพิ่มเงินอีก 10,000 บาท)

สำหรับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Toyota Corolla Altis ใหม่

  • 1.8 GR-Sport** เกียร์อัตโนมัติ ราคา 999,000 บาท* (มี 3 สี White Pearl, Red Mica Metallic, Attitude Black Mica)
  • 1.6G เกียร์อัตโนมัติ ราคา 869,000 บาท***
  • Limo เกียร์อัตโนมัติ ราคา 829,000 บาท***

***ราคาดังกล่าว เป็นราคารถยนต์พร้อมอุปกรณ์มาตรฐานที่ผลิตจากโรงงาน รวมราคาชุดอุปกรณ์ตกแต่งพิเศษ

พิเศษสำหรับลูกค้า All-New Corolla Altis ผ่อนเริ่มต้นเพียง 8,500 บาทต่อเดือน หรือเลือกรับดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% นาน 48 เดือน ขยายรับประกันรถใหม่จาก 3 ปีเป็น 5 ปี ฟรีค่าแรงเช็คระยะ นาน 5 ปี รับประกันระบบไฮบริด 5 ปี และแบตเตอรี่ไฮบริด 10 ปี

ร่วมสัมผัส และทดลองขับ All-New Corolla Altis ได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 13 กันยายน เป็นต้นไป และศูนย์ทดสอบขับรถ Toyota Driving Experience Park (บางนา กม.3)

Leave a Reply