GWM ขนยนตรกรรมกว่า 40 รุ่น จาก 6 แบรนด์หลัก ในงาน Auto Shanghai 2025 นำโดย GWM HAVAL B26, ALL NEW GWM WEY 80, GWM TANK 300 Hook Edition, GWM ORA07 Touring Edition และมอเตอร์ไซค์ GWM SOUO S2000GL สะท้อนการเป็นแบรนด์ชั้นนำระดับโลก
กรุงเทพฯ 29 เมษายน 2568 – GWM ยกระดับสู่การเป็นแบรนด์รถยนต์ที่มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกประเภทพลังงานที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานทั่วทุกมุมโลก ด้วยแนวคิด “ครอบคลุมทุกการใช้งาน (All Scenarios) ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกพลังงาน (All Powertrains) สู่การตอบสนองทุกกลุ่มผู้ใช้งานอย่างแท้จริง (All Users)” ล่าสุด GWM สร้างความตื่นตาตื่นใจในงาน Shanghai International Automobile Industry Exhibition ครั้งที่ 21 (Auto Shanghai 2025) ด้วยการนำเสนอทัพยนตรกรรมกว่า 40 รุ่นจาก 6 แบรนด์หลัก ได้แก่ GWM HAVAL, GWM WEY, GWM TANK, GWM ORA, GWM POER และ GWM SOUO Motorcycles ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Tech GWM, Off-Road GWM, Global GWM” ที่สะท้อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของแบรนด์ ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมแห่งชาติเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน พร้อมทั้งเปิดตัวโลโก้แบรนด์ใหม่ “GWM” เพื่อสื่อถึงแนวคิดระดับโลกอย่าง “GWM Go With More” ซึ่งสะท้อนถึงการขยายการเติบโตในระดับโลกอย่างไม่หยุดยั้ง ตอกย้ำภาพลักษณ์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พลังงานทางเลือกที่หลากหลายและครอบคลุม และระบบนิเวศของไลฟ์สไตล์ยานยนต์อัจฉริยะของ GWM ได้อย่างครบวงจร
GWM ขนนวัตกรรมที่ล้ำหน้ามากมายไปจัดแสดง โดยแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่ม Smart Living และกลุ่ม Off-Road Machines เพื่อนำเสนออนาคตแห่งการเดินทางที่ตอบความต้องการของผู้คนยุคใหม่ได้อย่างครอบคลุมในทุกมิติ สำหรับ Smart Living คือกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มาพร้
สำหรับกลุ่ม Off-Road Machines ครอบคลุมไปด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ตระกูล GWM TANK, GWM POER และ GWM SOUO Motorcycles เอาใจสายลุยผู้ชื่นชอบการเดินทางเพื่อประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ท้าทาย ผ่านยนตรกรรมออฟโรดด้
มู่ เฟิง ประธาน GWM กล่าวว่า “ในปี 2025 GWM จะเดินหน้าสู่หมุดหมายสำคัญด้วยการผลิตรถยนต์คันที่ 15 ล้าน นับเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของการพัฒนาแบรนด์สู่เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ ขณะเดียวกันในปีนี้ยังถือเป็นปีแรกของการเดินหน้ากลยุทธ์
‘One GWM’ อย่างเป็นทางการ โดยยึดแนวทางการเติบโตแบบระบบนิเวศควบคู่กับการขยายการเติบโตในระดับท้องถิ่นเพื่อก้าวเข้าสู่สู่ตลาดโลกอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับผู้คนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงดีเอ็นเอสายลุยที่เป็นเอกลักษณ์ของ GWM ไปสู่ผู้บริโภคทั่วโลก นอกจากนี้ เรายังมุ่งมั่นที่จะสร้างไลฟ์สไตล์แห่งอนาคตที่เทคโนโลยีเชื่อมโยงกับผู้คนเพื่อช่วยให้โลกน่าอยู่ยิ่งขึ้น”
ภายในงาน GWM ยังได้ร่วมมือกับ Cerence AI เปิดตัวประสบการณ์ค็อกพิตอัจฉริยะแบบใหม่ภายในรถยนต์ ด้วยการนำเสนอแพลตฟอร์ม Cerence xUI™ ซึ่งเป็นระบบ AI แบบ agentic ที่สามารถโต้ตอบกับผู้ขับขี่และผู้โดยสารได้อย่างชาญฉลาดและเป็นธรรมชาติ การสาธิตครั้งนี้จัดขึ้นภายในรถยนต์ของ GWM เพื่อเปิดมุมมองใหม่ของประสบการณ์ภายในรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Model) ซึ่งทำงานผสานกันอย่างราบรื่นและไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์ภายในรถยนต์และระบบคลาวด์ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ในการสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ล้ำสมัย เชื่อมต่อ และเข้าใจผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น พร้อมตอกย้ำบทบาทของ GWM ในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตที่ไม่เพียงขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม แต่ยังให้ความสำคัญกับการยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางอีกด้วย
ปัจจุบัน GWM มีช่องทางการขายในต่างประเทศมากกว่า 1,400 แห่ง และมีฐานผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 15 ล้านคน โดยในปี 2024 GWM มียอดขายรถใหม่รวม 1,233,292 คัน และมียอดขายในตลาดต่างประเทศถึง 453,141 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้ามากถึง 43.39% ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ของ GWM โดยแบรนด์จะยังคงมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจด้วยกลยุทธ์ “Ecological Globalization” ที่ครอบคลุมการวิจัยและพัฒนา การผลิต ซัพพลายเชน การขาย และบริการไปยังตลาดต่างประเทศอย่างครบวงจร เพื่อสร้างระบบอุตสาหกรรมระดับโลกที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ตอกย้ำจุดยืนของ GWM ในการขับเคลื่อนแบรนด์สู่มาตรฐานระดับโลกอย่างแท้จริง