เผยโฉมว่าที่ All-New Nissan GT-R โฉมใหม่ ใช้แบตเตอรี่ Solid-State ในงาน 2023 Tokyo Motor Show

วันนี้ ในงาน Tokyo Motor Show Nissan ได้เผยโฉม Nissan Hyper Force Concept ที่ได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นรถต้นแบบของ Nissan GT-R เจนเนอเรชั่นใหม่ในอนาคต จากทั้งรูปทรงและโลโก้ที่ดูคล้ายกับของ GT-R ที่ติดอยู่บริเวณกระจังหน้ารถและท้ายรถ แม้ว่าจะไม่ชัดเจนนักก็ตาม หลังจากที่ได้ลากขายในตลาด มานานถึง 16 ปีแล้ว ถือว่าเป็นการให้ความหวังครั้งใหญ่ กับสาวกของ GT-R ที่ได้มีโอกาสลุ้นกับการปรับโฉมใหม่ทั้งคัน นอกจากนั้น รถซูเปอร์คาร์รุ่นนี้ ยังจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงของการแถลงข่าว ผู้บริหาร Nissan ไม่ได้ออกมายืนยันว่า รถต้นแบบที่เห็นอยู่นี้ จะมีการผลิตออกมาจำหน่ายในเชิงพาณิชย์ หรือเป็นรุ่นที่จะมาทดแทน GT-R R35 ที่ทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2007 เพียงแต่บอกว่า 1 ใน 5 ของรถไฟฟ้าต้นแบบในตระกูล Hyper เป็นการสะท้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ของ Nissan ในการสร้างซูเปอร์คาร์ไฟฟ้า 100% เจนเนอเรชั่นใหม่ นั่นทำให้หลายฝ่ายคาดเดาได้ไม่ยากว่า มันก็คือ GT-R โฉมใหม่หมดทั้งคันนั่นเอง อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวบางกระแสในญี่ปุ่นว่า GT-R R35 โฉมปัจจุบัน อาจจะถูกแทนที่ด้วยรถสปอร์ตซีดาน 4 ประตู ในปี 2028 เพื่อแข่งขันกับ Porsche Taycan โดยเฉพาะ

Nissan Hyper Force concept ถูกขับเคลื่อนด้วยชุดมอเตอร์ไฟฟ้าหลายตัว ให้กำลังรวมสูงสุด 1,000 กิโลวัตต์ หรือ 1,341 แรงม้า มากกว่า GT-R Nismo รุ่นปัจจุบัน ซึ่งทำได้ที่ 591 แรงม้า จากเครื่องยนต์เบนซินทวินเทอร์โบ V6 ความจุ 3.8 ลิตร ส่วนที่น่าสนใจของ Hyper Force concept ก็คือแบตเตอรี่ที่ใช้ ซึ่งคาดว่าจะเป็นแบบ solid state ที่ Nissan ได้มุ่งเน้นในการพัฒนามานานพอสมควรแล้ว และคาดว่าจะสามารถนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ภายในสิ้นทศวรรษนี้ หรือก่อนปี 2030 และจะนำเอาแบตเตอรี่ชนิดนี้ มาใช้กับรถกระบะปิกอัพ รถระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ heavy duty และรถสปอร์ตของบริษัทอีกด้วย Hyper Force concept ยังจะมาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าแบบ All-Wheel Drive e-4orce ของ Nissan สำหรับโหมดการขับขี่ มีทั้งโหมด R หรือ Racing และ GT หรือ grand touring ที่อาจจะเป็นการสื่อถึงคำว่า GT-R

อีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า Hyper Force concept มันคือร่างใหม่ของ Nissan GT-R ก็คือดีไซน์ภายนอก ที่ยังให้กลิ่นอายของ GT-R R35 อยู่ โดยเฉพาะดีไซน์ด้านข้างและบั้นท้าย Nissan เปิดเผยว่า ตัวถังของรถรุ่นนี้ ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ รับผิดชอบโดยทีมงานของ Nismo ดังเห็นได้จากแอโรพาร์ทรอบคัน ที่รวมถึง diffuser ท้าย 2 ระดับ

ห้องโดยสารภายในดูล้ำสมัย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากวิดีโอเกมรถแข่ง โดย Nissan เผยว่า ห้องโดยสารจะถูกเปลี่ยนไปเป็นเครื่องจำลองรถแข่ง หากรถหยุดนิ่งอยู่กับที่ ที่คนขับ สามารถสวมหมวกพิเศษ เพื่อใช้งานเทคโนโลยีเสมือนจริง ในการเล่นเกมรถแข่งได้ หรือเล่นเกมผ่านระบบออนไลน์กับคนอื่นๆได้ด้วย โดยหากเลือกโหมด R ห้องโดยสารจะเปลี่ยนเป็นการใช้ไฟสีแดง แผงควบคุมต่างๆบนแดชบอร์ด จะถูกยืดขยายเข้าหาที่นั่งคนขับ เพื่อให้อารมณ์ในแบบห้องโดยสารของรถแข่ง โดยมีจอแสดงผลผ่านระบบดาวเทียม 4 จอ รอบๆพวงมาลัย ที่แสดงข้อมูลในส่วนของการยืดเกาะถนนของยาง แรงดันอากาศ อุณหภูมิโรเตอร์เบรค การกระจายกำลัง และข้อมูลอื่นๆที่จำเป็นในการแข่งรถ แต่ถ้าเลือกโหมด GT ไฟก็จะกลายเป็นสีฟ้า จอแสดงผลต่างๆจะหดตัวกลับ แล้วรวมตัวต่อกัน ให้กลายเป็นจอแสดงผลระบบ infotainment ขนาดใหญ่ ที่มีปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ เครื่องเสียง ระบบกันสะเทือน ระบบ stabilizer เพื่อสุนทรียภาพในการขับขี่ โดย Nissan อ้างว่า เป็นครั้งแรกของโลก ที่ระบบกันสะเทือน สามารถทำการควบคุมผ่านทางจอแสดงผล ในระหว่างการขับขี่ได้ ส่วนเบาะนั่งคู่หน้า ก็ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์เช่นกัน มาพร้อมเข็มขัดนิรภัย 4 จุด

Hyper Force concept ยังมาพร้อมเทคโนโลยีช่วยขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงระบบ Lidar และชุดเซนเซอร์ เพื่อความปลอดภัยระดับสูงสุด ทั้งบนถนน และสนามแข่ง