เมื่อราว 2 เดือนก่อน Toyota ได้เปิดตัว Avanza โฉมใหม่หมดทั้งคัน เจนเนอเรชั่นที่ 3 ในประเทศอินโดนีเซีย หลังจากที่ทำตลาด Avanza เจนเนอเรชั่นที่ 2 มานานถึง 10 ปี พร้อมมีทางเลือกเป็นเวอร์ชั่นพิเศษอย่าง Veloz ที่คนไทยจำนวนไม่น้อยสนใจรุ่นนี้อยู่จากดีไซน์ที่โดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ล่าสุด มีข่าวว่า Toyota เตรียมเปิดตัว Avanza รวมถึงรุ่น Veloz ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ และจะเกิดขึ้นก่อนงานมอเตอร์โชว์ ที่จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 23 มีนาคมศกนี้
จากการที่ TOYOTA พัฒนา Avanza ร่วมกับ Daihatsu Xenia ที่เป็นแบรนด์ในเครือ นั่นจึงทำให้มีการใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน อย่าง DNGA ที่ย่อมาจาก Daihatsu New Global Architecture ซึ่งมีการใช้ในรถยนต์รุ่นอื่น อย่าง Toyota Raize Daihatsu Rocky หรือแม้แต่รถยนต์สัญชาติมาเลเซียอย่าง Perodua Ativa ซึ่งทำให้มีการเปลี่ยนจากโครงสร้างแบบ ladder frame บางส่วน มาเป็นแบบโมโนค็อก ที่มาพร้อมระบบกันสะเทือนหน้าแบบ MacPherson Strut และระบบกันสะเทือนหลัง แบบ Torsion Beam
Toyota Avanza เจนเนอเรชั่นนี้ ถือว่าเป็น Avanza รุ่นแรก ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า จากเดิมที่เจนเนอเรชั่นก่อนทั้งหมด เป็นระบบขับเคลื่อนล้อหลัง อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของขุมพลัง ยังเป็นบล็อคเดิมอยู่ ทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ Dual VVT-i DOHC รหัส 1NR-VE ความจุ 1.3 ลิตร 96.7 แรงม้าที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 121 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 สปีด อีกหนึ่งขุมพลัง ก็คือเครื่องยนต์เบนซิน รหัส 2NR-VE ความจุ 1.5 ลิตร 104.5 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 137 นิวตันเมตร ที่ 4,200 รอบ/นาที ที่มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเกียร์ D-CVT จาก Daihatsu ให้เลือกตามรุ่นต้องการ โดยในเมืองไทย จะทำตลาดด้วยขุมพลัง 1.5 ลิตร
มิติตัวถังของ All-new Toyota Avanza รุ่นนี้ มีขนาดใหญ่กว่าเจนเนอเรชั่นก่อนมากพอสมควร คือมีความยาว 4,395 มม ยาวขึ้น 205 มม กว้าง 1730 มม กว้างขึ้น 70 มม ส่วนความสูง มีทั้งน้อยกว่าเดิม 30 มม คืออยู่ที่ 1665 มม และสูงกว่าเดิม 5 มม ที่ 1700 มม ตามรุ่นที่เลือก ส่วนระยะฐานล้อ อยู่ที่ 2750 มม มากกว่าเดิมถึง 95 มม
สิ่งที่สะดุดตาที่สุด คงหนีไม่พ้นเรื่องของดีไซน์ภายนอก ที่ครั้งนี้ Avanza มาพร้อมกับการออกแบบ ที่ดูสปอร์ตดุดันมากกว่าเดิม เรียกว่า ต้องการเปิดศึกกับ Mitsubishi Xpander อย่างเต็มตัวก็ว่าได้ ด้วยภาษาการออกแบบใหม่ ที่เราอาจจะได้เห็นจากรถยนต์รุ่นใหม่บางรุ่นของ Toyota ไปบ้างแล้ว โดยกระจังหน้าถูกแยกออกเป็น 2 ส่วน ที่ถูกเชื่อมต่อกันด้วยโลโก้ Toyota ที่อยู่ตรงกึ่งกลาง โดยส่วนบน จะมีบาร์โครเมี่ยม 2 ชั้น เชื่อมไฟหน้า LED ทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกัน ส่วนหน้ากระจังด้านล่าง เป็นรูประฆังคว่ำสีดำ ในขณะที่เบ้าไฟตัดหมอก ก็มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ทำให้ดูโดดเด่นไม่แพ้ส่วนอื่นๆ
ด้านข้างของ Toyota Avanza ใหม่ จะเน้นให้เห็นถึงความดุดันไม่แพ้ด้านหน้า ด้วยเส้นคอนทัวร์สูงต่ำที่ชัดเจน โดยเฉพาะ shoulder line ข้างตัวรถ ที่ลากผ่านมือจับประตู ไปยังโคมไฟหน้าและท้าย โป่งซุ้มล้อที่ชัดเจน ให้ความรู้สึกในแบบรถเอสยูวีมากขึ้น เอกลักษณ์อีกอย่างของ Avanza รุ่นนี้ก็คือ การใช้ฐานเสา D Pillar ที่เป็นสีดำ ทำให้หลังคา ดูเป็นแบบลอยตัว บั้นท้ายของ Avanza ใหม่ จะมาพร้อมไฟท้ายแนวนอนที่เรียวยาว ดูโฉบเฉี่ยว กันชนท้ายทรงสปอร์ต มาพร้อมไฟทับทิมทั้งสองข้าง
ในส่วนของรุ่นพิเศษอย่าง Veloz สร้างความแตกต่างไปจาก Avanza ด้วยหน้ากระจังแบบชิ้นเดียว เบ้าไฟตัดหมอกมีขนาดเล็กลง ตกแต่งด้วยชิ้นงานโครเมี่ยม กันชนหน้าส่วนล่าง ถูกแยกออกมาต่างหาก เพิ่มความสปอร์ตด้วย skid plate สีเงิน ในขณะที่ด้านข้าง ดูเหมือนจะไม่แตกต่างไปจาก Avanza มากนัก ยกเว้นการใช้เส้นสีเงิน ที่ลากจากปลายโคมไฟหน้า ผ่านขอบฝากระโปรง ไปตลอดแนวของขอบหน้าต่างด้านล่าง จนถึงฐานของเสา D Pillar ส่วนล้ออัลลอยเป็นแบบก้านถี่ แบบเดียวกันกับของ Avanza เช่นกัน ในขณะที่ด้านหลัง ไฟท้ายทั้งสองข้าง จะถูกเชื่อมเข้าหากัน ด้วยส่วนปลายของโคมไฟสีแดง ที่ถูกยืดออกมา จากที่เห็นในรุ่น Avanza ในขณะที่เบ้าไฟท้บทิมสีดำ จะเป็นแนวตั้ง ดูแปลกตาออกไป
ภายในห้องโดยสาร แน่นอนว่า ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด รองรับผู้โดยสาร 7 คน ใน 3 แถวที่นั่ง ซึ่งของใหม่ ดูทันสมัยกว่าเดิมมาก และด้วยการที่มิติตัวถังที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมมาก ส่งผลให้ห้องโดยสารภายใน กว้างขวางขึ้นตามไปด้วย สิ่งที่แตกต่างไปจากโฉมก่อน ก็คือการสลับตำแหน่งของจอแสดงผลกลาง และช่องปรับอากาศ ที่ตอนนี้ จอแสดงผลขนาด 7 หรือ 9 นิ้วตามรุ่นที่เลือก ถูกขยับขึ้นไปอยู่ด้านบนของคอนโซลหน้า ให้เป็นแบบลอยตัว โดยมีช่องปรับอากาศอยู่ด้านใต้ พวงมาลัยดีไซน์ใหม่ คันเกียร์ถูกขยับขึ้นมาด้านหน้ามากขึ้น ในขณะที่บริเวณคอนโซลกลาง เป็นพื้นที่ของก้านเบรคมือ ที่วางแขน และช่องเก็บของ
Toyota ทำตลาด Avanza ในอินโดนีเซีย ใน 4 รุ่นย่อย โดยมีรุ่นเริ่มต้น เป็นรุ่นขุมพลัง 1.3 ลิตร ซึ่งไม่มีการทำตลาดในเมืองไทย ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ความจุ 1.5 ลิตร จะเป็นรุ่น 1.5G ที่มี 3 รุ่นย่อย คือ 1.5G MT 1.5G CVT และ 1.5G CVT TSS โดยมาพร้อมขุมพลังเบนซิน รหัส 2NR-VE ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว เซนเซอร์ถอยหลัง ระบบสัญญาณเตือนภัย และระบบป้องกันการโจรกรรม immobilizer จอแสดงผลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว จอแสดงผลกลางระบบสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง โดยรุ่น 1.5G MT จะมาพร้อมเกียร์ธรรมดา 5 สปีด ส่วนรุ่น 1.5G CVT จะแตกต่างด้วยการใช้เกียร์ CVT ที่มาพร้อม Sequential Manual Mode ในขณะที่ฟีเจอร์ต่างๆ มีมาให้เหมือนกับในรุ่น 1.5G MT ส่วนรุ่นสูงสุด คือรุ่น 1.5G CVT TSS จะแตกต่างจากรุ่น 1.5G CVT ด้วยการติดตั้งระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense เพิ่มเข้ามาให้ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกสำหรับ Avanza ประกอบไปด้วย ระบบความปลอดภัยก่อนการชน ระบบเตือนรถคันหน้าเคลื่อนตัว ระบบเตือนออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อเหยียบคันเร่งผิดพลาด ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง ระบบเชื่อมต่อรถยนต์และศูนย์บริการ T Intouch จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก ISOFIX
สำหรับลูกค้าที่ต้องการรถ ที่มีคุณสมบัติต่างๆเหนือกว่ารุ่นที่กล่าวมา Toyota มีทางเลือกเป็นรุ่น Veloz ที่มาพร้อมขุมพลังเบนซิน ความจุ 1.5 ลิตรเท่านั้น โดยแบ่งลงไปอีก 3 รุ่นย่อย มีทั้งรุ่น MT เกียร์ธรรมดา รุ่น Q CVT และ Q CVT TSS คล้ายกับ Avanza รุ่นมาตรฐาน โดย Veloz ทุกรุ่นย่อย จะมาพร้อมอุปกรณ์ และฟีเจอร์มาตรฐานต่างๆ ได้แก่ เบาะนั่งหุ้มหนังและผ้า จอแสดงผลการขับขี่ขนาด 7 นิ้ว เบรคมือไฟฟ้า ที่มาพร้อมระบบ auto brake hold แท่นชาร์จไฟแบบไร้สาย จอแสดงผลกลางระบบสัมผัส ขนาด 9 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ ไฟแอมเบียนท์สร้างบรรยากาศ ที่วางแขนข้างประตูบุนุ่ม จอภาพสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง เซนเซอร์ถอยจอด และระบบความปลอดภัย Passive safety ต่างๆ ที่มีอยู่ใน Avanza รุ่นมาตรฐาน
โดยในรุ่น MT จะมาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว กล้องมองถอยหลัง ส่วนในรุ่น Q CVT ล้ออัลลอยจะเป็นขนาด 17 นิ้ว มีโหมดการขับขี่ในแบบต่างๆ กล้องช่วยมองรอบคัน โดยรุ่นสูงสุด Q CVT TSS จะมาพร้อมระบบ Toyota Safety Sense เหมือนที่ให้มาใน Avanza รุ่น 1.5G CVT TSS มาพร้อมถุงมนิรภัย 6 ตำแหน่ง ซึ่งรุ่นอื่น จะมีเพียง 2 ตำแหน่งเท่านั้น
การปรับโฉมครั้งใหญ่ในรอบกว่า 10 ปีของ Avanza น่าจะทำให้ตลาดมินิเอ็มพีวีของไทย กลับมาคึกคักอย่างแน่นอน เพราะหลายปีที่ผ่านมา Mitsubishi Xpander ดูเหมือนจะเป็นทางเลือก ที่แทบจะไร้คู่แข่งที่น่ากลัว ก่อนที่ Suzuki จะส่ง XL7 เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดไปได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ในช่วงหลังๆ ซึ่งทั้งสองรุ่น ก็มีดีไซน์สไตล์สปอร์ต เหมือนๆกับ All-New Avanza นั่นทำให้รถยนต์ทั้ง 3 รุ่น จะต้องถูกนำมาเปรียบเทียบกันในเรื่องรูปโฉม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก่อนที่ลูกค้า จะทำการตัดสินใจซื้อ และงานนี้ Toyota ประเทศไทย น่าจะหวังผลแซงขึ้นไปเป็นอันดับ 1 ในด้านยอดขายอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม Mitsubishi ได้แก้เกมมาแล้วบางส่วน ใน Xpander รุ่นปรับโฉมใหม่ เช่น การเพิ่มอ็อปชั่นให้มากขึ้น การอัพเกรดเบรคมือ ไปเป็นแบบไฟฟ้า เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง ที่ค่ายรถยนต์ทุกค่ายกำลังประสบพบเจอ นั่นก็คือ การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่ส่งผลกระทบทั้งในด้านการใช้ชีวิต สุขภาพ และเศรษฐกิจ ที่ทำให้ตลาด อาจจะหดตัวลงจากกำลังซื้อที่ลดลง หรือความจำเป็นในการใช้งานรถยนต์ลักษณะนี้ มีน้อยกว่าภาวะปกติ ทำให้ลูกค้าชะลอการตัดสินใจซื้อ หรือหันไปพิจารณารถยนต์ ที่มีความคุ้มค่ากับราคามากกว่า ซึ่งรถยนต์รุ่นปรับปรุงใหม่ หรือรถยนต์มือสอง อาจจะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่า ในสถานการณ์นี้