All-New Ford Everest 2022-2023 โฉมใหม่ ภาพรวมสเปคล่าสุด ออกศึกคู่ Ranger ใหม่?

Facebook
Twitter
Pinterest
Linkedin
LINE

ในปี 2022 น่าจะเป็นปีที่ Ford ในไทยและออสเตรเลีย มีกิจกรรมทางการตลาดที่คึกคักมากที่สุด ในฐานะตลาดรถกระบะขนาดกลางที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก่อนที่สหรัฐอเมริกา กำลังจะกลายเป็นตลาดสำคัญของ Ford ในเซกเมนท์นี้ หลังจากที่ได้เริ่มกลับมาจำหน่าย Ranger อีกครั้ง เมื่อไม่กี่ปีก่อน สิ่งที่ทำให้ Ford ในแถบเอเชียแปซิฟิค กำลังจะมีบทบาทสำคัญ ในตลาดรถยนต์ในปีหน้า ก็คือการทยอยเปิดตัว และจำหน่าย All-New Ford Ranger และ Ford Everest หลังจากที่ได้ทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก ให้กับ Ranger เจนเนอเรชั่นใหม่ไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตามด้วยการปล่อยวิดีโอทีเซอรร์แรกของ Everest โฉมใหม่หมดทั้งคัน ออกมาให้ได้ชมกันไปเมื่อวันก่อน พร้อมการออกมายืนยันการเปิดตัวของรถ PPV รุ่นนี้ โดยผู้บริหารของ Ford ประเทศไทย ว่าจะเกิดขึ้นในต้นปีหน้า นั่นทำให้ทั้งตลาดรถกระบะ Pure Pickup และรถกระบะดัดแปลงหรือ PPV เป็นตลาดที่จะได้รับการจับตามองมากที่สุด โดยเฉพาะในเมืองไทย ซึ่งกว่าครึ่งของตลาด เป็นส่วนของรถยนต์ทั้งสองประเภท ในคลิปนี้ เราจะมาทำการอัพเดทข้อมูลล่าสุดของ All-New Ford Everest ว่ารถรุ่นนี้ จะมาพร้อมฟีเจอร์และคุณสมบัติอะไรบ้าง ทั้งที่มีการยืนยันแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงว่า Ford จะทำตลาดด้วยสเปคต่างๆเหล่านี้

ในด้านการออกแบบรูปโฉม ด้วยการที่ทั้ง Ranger และ Everest โฉมใหม่ มีดีไซน์ด้านหน้าที่เรียกว่าถอดแบบกันมาก็ว่าได้ นั่นทำให้คนที่ถูกใจ All-New Ranger ที่เปิดตัวไปแล้ว ก็น่าจะชื่นชอบดีไซน์ของ Everest โฉมใหม่เช่นกัน โดยมาพร้อมไฟหน้ารูปตัว C อันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งพบได้ในรถกระบะรุ่นใหม่จากค่าย Ford ไม่ว่าจะเป็น F-150 Ranger และ Maverick ในขณะที่ด้านหลัง จะพบไฟท้ายแบบใหม่ ที่เราได้เห็นบางส่วนไปแล้วในวิดีโอทีเซอร์ล่าสุด ซึ่งถือว่า ได้รับเสียงตอบรับในด้านบวก โดยรวม Everest เจนเนอเรชั่นใหม่ มีรูปทรงที่เป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมมากขึ้นกว่าโฉมก่อน ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะดีไซน์ในส่วนต่างๆ ตั้งแต่กระจังหน้าไปจนถึงไฟท้าย ที่เน้นความเป็นเหลี่ยมสันมากขึ้น บวกกับระยะฐานล้อที่ยาวขึ้นกว่าเดิม ทำให้ PPV รุ่นนี้ ดูมีขนาดใหญ่และดุดันมากขึ้นกว่าเดิมมาก

แพลตฟอร์มของ All-New Ford Everest อย่างที่เราได้เคยนำเสนอไปก่อนการเปิดตัว Ranger ว่า Ranger เจนเนอเรชั่นใหม่ ถูกพัฒนาขึ้นบนแพลตฟอร์ตที่เรียกว่า T6.2 ซึ่งเป็นการต่อยอดมาจากแพลตฟอร์ม T6 โดยแพลตฟอร์มของ Everest ใหม่ ได้รับการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแบบ PPV มากขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะไม่ได้เป็นแพลตฟอร์มใหม่แบบ All-New เหมือนรถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ทั่วไป แต่ Ford ได้ทำการปรับปรุงครั้งใหญ่ โดยอยู่บนพื้นฐานเดิม ที่มีคุณภาพสูงอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการนำจุดแข็งเดิม มาพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีก

การปรับปรุงแพลตฟอร์มในครั้งนี้ ทำให้ระยะฐานล้อยาวขึ้นกว่าเดิมอีก 50 มิลลิเมตร ซึ่งทำให้ความยาวรวมอยู่ที่ราว 2900 มิลลิเมตร หรือมีความยาวมากกว่ารถเอสยูวีอย่าง Toyota LandCruiser 300 Series ด้วยซ้ำ ความเปลี่ยนแปลงอื่นๆที่เกิดขึ้นกับ All-New Ranger ยังถูกถ่ายทอดมาถึง Everest ใหม่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นใหม่ล่าสุด ระบบกันสะเทือนที่ได้รับการปรับแต่งใหม่ เพื่อการโดยสารที่นุ่มนวล และการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยยังมีรุ่นขับเคลือนล้อหลังเป็นทางเลือกให้ด้วย

ในด้านขุมพลัง ที่มีการพูดถึงกันมากก่อนการเปิดตัว Ranger โฉมใหม่ โดย Ford ได้ออกมายืนยันแล้วว่า เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 5 สูบ ความจุ 3.2 ลิตร ที่ทำตลาดใน Ranger บางรุ่น จะถูกยกเลิกไป นั่นหมายความว่า เครื่องยนต์บล็อคนี้ ก็ไม่น่าจะมีใช้ใน Everest ใหม่ด้วยเช่นกัน ส่วนขุมพลังดีเซลทวินเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร ที่เริ่มใช้ในปี 2018 ยังมีการทำตลาดต่อไป โดยได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้น รวมถึงระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 10 สปีด ที่มีการพัฒนาให้ดีขึ้นในหลายจุด

รุ่นเริ่มต้นของ All-New Everest คาดว่าจะมาพร้อมขุมพลังดีเซลทวินเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร ซึ่งเป็นขุมพลังมาตรฐานในไลน์อัพของ Everest ส่วนรุ่นที่อยู่สูงขึ้นไป จะเป็นเหมือนกับ Ranger ที่มีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 ความจุ 3.0 ลิตร บล็อคใหม่ให้เลือก ซึ่งขึ้นอยู่กับตลาดที่จำหน่ายด้วย โดยเครื่องยนต์ Power Stroke 6 สูบรุ่นนี้ เริ่มมีการใช้ครั้งแรกใน Ford F-150 ในปี 2018 ที่สหรัฐอเมริกา ส่วนบล็อคที่จะนำมาติดตั้งใน Ranger และ Everest โฉมใหม่ จะเป็นเครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม

สำหรับขุมพลังไฮบริดหรือ Plug-In Hybrid คาดว่าจะมีการเปิดตัวตามหลังรุ่นมาตรฐานออกมา ส่วนขุมพลังไฟฟ้าแบตเตอรี่ ยังไม่มีความชัดเจนหรือข่าวคราวเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนชนิดนี้ ทั้งของ Ranger และ EVEREST โฉมใหม่

และด้วยการที่เป็นรถที่พัฒนามาจากรถกระบะปิกอัพ การปรับปรุงในเรื่องของเสียงรบกวน การสั่นสะเทือน และความกระด้างของตัวรถ อาจจะทำได้ไม่ดีเหมือนรถยนต์นั่ง แต่แน่นอนว่า สิ่งต่างๆเหล่านี้ใน Everest โฉมใหม่ ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม เหมือนกับที่มีใน Ranger โฉมใหม่เช่นกัน แม้ว่าจะให้ความรู้สึกของความเป็นรถกระบะ หลงเหลืออยู่ก็ตาม

ห้องโดยสารภายในได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด พื้นผิวในส่วนต่างๆถูกบุด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูงขึ้น ระบบปรับอากาศและระบบทำความอุ่นเป็นแบบใหม่ Ford ได้เน้นให้มีความสะดวกสบายสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารมากขึ้น ในเรื่องเทคโนโลยีต่างๆ คาดว่าจะถูกนำมาจาก Ranger โฉมใหม่ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลกลางแนวตั้งขนาดใหญ่ ทั้งขนาด 10.1 และ 12.0 นิ้วตามรุ่นรถที่เลือกซื้อ มาพร้อมระบบอินโฟเทนเมนต์ SYNC4 เวอร์ชั่นล่าสุด

Ford Everest ใหม่ จะมีทั้งรุ่น 5 และ 7 ที่นั่ง เหมือนกันกับโฉมก่อน ซึ่งการที่ระยะฐานล้อยาวขึ้น ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า พื้นที่จุสัมภาระ หรือพื้นที่โดยสาร จะมีการขยายใหญ่ตามไปด้วย นอกจากนั้นยังมีข่าวลืออีกว่า ปัญหาการเข้าออกที่นั่งแถวที่ 3 ได้รับการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ในเจนเนอเรชั่นนี้

และนั่นคือข้อมูลล่าสุด เกี่ยวกับ All-New Ford Everest ที่มีกำหนดการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลก ภายในไตรมาสแรกของปี 2022 นี้ ซึ่งเชื่อว่าอีกไม่นานหลังจากนี้ Ford น่าจะทยอยปล่อยทีเซอร์ของ Everest ออกมาเพิ่มเติม ก่อนที่จะมีการเผยกำหนดการเปิดตัวที่ชัดเจนออกมา ทำให้ปี 2022 น่าจะเป็นปีทองที่ Ford ประเทศไทย กลับมาสร้างชื่อในตลาดได้อีกครั้ง เพราะรถยนต์ทั้งสองรุ่น คือรถยนต์รุ่นหลัก ที่ทำตลาดในเมืองไทย และมีสัดส่วนรายได้ เกือบจะทั้งหมดของ Ford ประเทศไทย ส่วนจะทำได้ดีแค่ไหน เป็นเรื่องที่ต้องรอการพิสูจน์ต่อไป เพราะ 2 เจ้าตลาดอย่าง Isuzu และ Toyota มีฐานลูกค้าที่ใหญ่ และมั่นคงเกินกว่าที่จะล้มได้ง่ายๆ ซึ่ง Ford ก็คงตระหนักในเรื่องนี้เป็นอย่างดี โจทย์สำคัญ จึงเป็นเรื่องของการทำยอดขายให้เป็นอันดับ 3 ที่เข้าใกล้อันดับ 2 ให้ได้มากที่สุดในตลาดรถกระบะปิกอัพ แต่สำหรับตลาดรถกระบะดัดแปลง PPV ต้องบอกว่า Ford Everest มีลุ้น ที่จะแซง ISUZU MU-X ขึ้นไปเป็นที่ 2 ได้ เพราะยอดขายในปัจจุบัน ก็ไม่ได้ทิ้งห่างกัน จนถึงกับเป็นไปไม่ได้ และตลาด PPV ก็มีขนาดเล็ก ที่เป็นงานง่ายกว่าตลาดรถกระบะ Pure Pickup อยู่มาก