โชว์เหนือ! Nissan เผยสายการผลิต 2022 Nissan Ariya เรื่องที่ Toyota ยังเป็นผู้ตาม?

Nissan เปิดให้ชมสายการผลิตรถครอสโอเวอร์ไฟฟ้า Nissan Ariya ที่โรงงานอัจฉริยะของบริษัท ในเมืองโทชิกิ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะรองรับการผลิตรถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ในอนาคต ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของ Nissan พร้อมให้ความสำคัญในเรื่องการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย ในการเป็นโรงงานที่ไร้มลพิษจากสารคาร์บอน ภายในปี 2050

โรงงานของ Nissan แห่งนี้ ใช้หุ่นยนต์ที่ได้รับการถ่ายทอดทักษะจากทาคูมิ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านการประกอบรถยนต์ของบริษัท ในการผลิตรถยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ ด้วยคุณภาพสูงสุด โดยมีการจัดการสภาพแวดล้อมภายในโรงงาน ให้ดีขึ้นกว่าโรงงานทั่วไป เพื่อให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างมีความสุข และได้รับสะดวกสบาย โดยมีเป้าหมายในการสร้างสายการผลิตที่ไร้มลพิษ โดยโรงงานแห่งนี้ จะเริ่มทำการผลิต Nissan Ariya อย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบ ภายในปีงบประมาณ 2021 นี้

ในบรรดาค่ายรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น Nissan ถือว่าเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และ Nissan Leaf ก็ถือว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ขายดีที่สุดในโลกรุ่นหนึ่ง ก่อนที่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน จะได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว ทั้งในประเทศจีนเอง และตลาดต่างประเทศ ในทางตรงกันข้าม เจ้าตลาดรถยนต์อย่าง Toyota กลับถูกมองว่า ยังเป็นผู้ตามในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า และอาจจะกำลังตกขบวนอยู่ ทั้งนี้ก็เพราะผู้บริหาร Toyota เอง ก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ เมื่อ 3-4 ปีก่อนว่า บริษัทยังมองว่ารถยนต์ไฟฟ้าเป็นเรื่องไกลตัว และอาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน อาจจะถึง 10 ปี ตลาดนี้จึงจะแจ้งเกิดได้ และบริษัทจะมุ่งเน้นไปในการพัฒนารถยนต์ไฮบริด และฟิวเซลส์มากกว่า ซึ่งจนถึงปัจจุบัน ผู้บริหารระดับสูงของ Toyota ก็ยังออกมาแสดงความคิดเห็น ไปในทิศทางที่ว่า รถยนต์ไฟฟ้าไม่ใช่ทางเลือกที่เหมาะสม ในแง่ของความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถึงกับมีข่าวว่า หลายฝ่ายเรียกร้องให้ Toyota แสดงท่าทีที่ชัดเจน ในการสนับสนุนการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของโลก ซึ่ง Toyota เอง ก็ดูเหมือนว่าจะลังเลในเรื่องนี้ เพราะในขณะที่ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท แสดงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ได้พยายามหาพันธมิตร ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการร่วมทุนกับค่ายรถยนต์ไฟฟ้ายักษ์ใหญ่จากจีน อย่าง BYD การเผยให้เห็นสายการผลิตของโรงงานอัจฉริยะจาก Nissan ในครั้งนี้ ก็อาจจะเป็นการแสดงความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ไปพร้อมๆกับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมของโลก ที่อาจจะเป็นแนวทางให้กับค่ายรถยนต์อื่นๆ รวมถึง Toyota