หลังจากที่ได้ทำตลาดมาแล้วถึง 4 ปีแล้ว Mazda ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวรุ่นปรับโฉมใหม่ ของ CX-5 เจนเนอเรชั่นที่ 2 ในปลายปีนี้ เพื่อกระตุ้นตลาดรถเอสยูวีขนาดกลาง ที่ทวีความรุนแรงในการแข่งขันมากขึ้น ในสภาพเศรษฐกิจ ที่ถดถอยมากที่สุดในรอบหลายปี โดยล่าสุด Creative Trend สื่อยานยนต์ในประเทศญี่ปุ่น ได้ออกมาเปิดเผยว่า Mazda จะทำการเปิดตัว CX-5 รุ่นปรับโฉมใหม่ ในเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งถูกเลื่อนมาจากแผนเดิม ในช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
สื่อจากแดนอาทิตย์อุทัยรายดังกล่าว เปิดเผยว่า ดีไซน์ของ CX-5 จะต่างไปจากเดิม บริเวณกระจังหน้า ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ไฟหน้าก็ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ โดยหลอดไฟ LED จะถูกเพิ่มจาก 12 ไปเป็น 20 ดวง เพื่อการกระจายลำแสงที่ดีขึ้น ไฟเลี้ยวก็ต่างไปจากเดิม ในขณะที่ด้านข้าง CX-5 ใหม่ จะมาพร้อมล้ออัลลอยลายใหม่ ส่วนบั้นท้าย ไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไรมากนัก โดยไฟท้าย มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยสีตัวถังภายนอก จะมีสีใหม่คือ สีน้ำตาล Titanium Flash Mica ทดแทนสีเดิม Zircon Sand Metallic นอกจากนั้น ยังมีชุดแต่ง 2 แบบให้เลือก คือ ชุดแต่งสไตล์ออฟโรด ที่รวมถึงยางแบบ All-Terrain และชุดแต่งสไตล์สปอร์ต ที่มาพร้อมกระจังหน้าสีดำ
ห้องโดยสารภายใน มีการปรับดีไซน์ของเบาะนั่ง ให้รองรับการนั่ง ที่ให้ความสบายในการโดยสาร สำหรับการเดินทางไกล ระบบช่วยขับขี่และระบบความปลอดภัย อย่าง Adaptive Cruise Control ที่มาพร้อมฟังค์ชั่น Stop and Go ระบบควบคุมรถให้อยู่ในเลน และระบบช่วยหักเลี้ยว ได้รับการอัพเกรดด้วยเวอร์ชั่นล่าสุด ให้มีประสิทธิภาพในการขับขี่ที่ดีขึ้น
โครงสร้างตัวถัง ได้รับการปรับปรุงให้มีความแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมมาก ระบบกันสะเทือน ก็ได้รับการปรับปรุงใหม่ แต่การเปลี่ยนแปลงสำคัญ เป็นเรื่องของขุมพลัง ที่เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ ความจุ 2.5 ลิตร 228 แรงม้า 420 นิวตันเมตร ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว อย่างน้อยก็ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีข่าวว่าจะนำเครื่องยนต์รุ่นนี้ ไปใช้กับ CX-8 ขนาด 7 ที่นั่งในอนาคต ส่วนขุมพลังอื่น อย่างเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 2.5 ลิตร 188 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 252 นิวตันเมตร ยังจะมีใช้ในรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อซึ่งได้รับการอัพเกรดใหม่ต่อไป ส่วนรุ่น CX-50 ที่มีข่าวว่า จะมีการเปิดตัวในเดือนธันวาคม ของปี 2022 จะยังใช้ขุมพลัง 4 สูบ ระบบขับเคลื่อนล้อหน้า และขับเคลื่อน 4 ล้อเหมือนกัน