เปิดให้สื่อมวลชน ชมตัวจริงกันไปแล้ว สำหรับ “ALL NEW MG5” โฉมใหม่ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในรูปแบบออนไลน์ (Online Launch) ในวันอังคารที่ 20 กรกฎาคมนี้ แต่ก่อนที่จะไปถึงวันนั้น เราขอพามาทำความรู้จัก MG5 ว่ามีคุณสมบัติ ฟีเจอร์ และอุปกรณ์สำคัญต่างๆอะไรบ้าง
ALL NEW MG5 รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดาน มาพร้อมนิยาม BORN TO BE BEYOND คิดให้เหนือกว่า เพื่อทุกความเป็นคุณ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้น ให้มีความเหนือกว่าในทุกด้าน ด้วยการออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ให้ความเหนือชั้นกว่า ทั้งในด้านสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) เพื่อให้เป็นยนตรกรรมที่มีความสปอร์ต และมาพร้อมความสะดวกสบาย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยฟังก์ชัน และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
BEYOND DESIGN : สะท้อนเอกลักษณ์ที่เหนือกว่า
ALL NEW MG5 โดดเด่นด้วยกระจังหน้าแบบ 3 มิติ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การออกแบบใหม่ล่าสุดของเอ็มจี พร้อมตัวถังเพรียวยาว ตามสไตล์รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดาน
• มิติตัวถัง ยาว 4,675 x กว้าง 1,842 x สูง 1,480 มิลลิเมตร
• ระยะความยาวฐานล้อ 2,680 มิลลิเมตร
• กระจังหน้า 3 มิติ Digital Burning Grille
• ไฟหน้าเปิด-ปิด อัตโนมัติแบบ LED Projector
• ไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights)
• ไฟท้ายแบบ LED ในดีไซน์ Leopard Claw และไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED
• ล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้ว ดีไซน์ใบพัด 5 ก้าน
BEYOND SPACE : พื้นที่ภายในกว้างขวาง พร้อมความสะดวกสบาย
ALL NEW MG5 มีการออกแบบในสไตล์สปอร์ต แต่ยังมีจุดเด่นในเรื่องความกว้างของพื้นที่ห้องโดยสาร
และมีพื้นที่เหนือศีรษะ (Headroom) ที่สูงโปร่ง พร้อมหลังคาซันรูฟ การตกแต่งภายในสไตล์สปอร์ต มีการติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวก และฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งาน
• เบาะหนังทรงสปอร์ตโอบรับสรีระ
• เบาะคนขับ ปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง
• แผงคอนโซล 3D Diamond Design ลวดลายสปอร์ตพรีเมี่ยม
• หลังคา Sunroof
• หน้าจอ Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว
• หน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล ขนาด 7 นิ้ว
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียง พร้อมปุ่มรับ – วางสายโทรศัพท์
• กระจกมองหลังแบบตัดแสง
• ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง
• ลำโพง 6 จุด
• รองรับระบบเชื่อมต่อมัลติมีเดีย Apple CarPlay และสมาร์ทโฟนระบบ Android
• ระบบกุญแจรีโมทอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start
• ระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล
• ระบบกรองอากาศ PM 2.5
BEYOND DRIVING EXPERIENCE : ประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า
ALL NEW MG5 ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด พร้อมระบบช่วงล่าง แบบ EURO TUNING SUSPENSION และระบบที่ส่งเสริมการขับขี่ในด้านต่างๆ ให้ทั้งประสบการณ์การขับขี่ และความมั่นใจ
• ดีไซน์คอนโซลกลางแบบ DRIVER-FOCUS COCKPIT ที่เหมาะสมกับตำแหน่งคนขับ
• หน้าจอแสดงผลการขับขี่แบบดิจิตอล
• พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ปรับน้ำหนักได้ 3 ระดับ
• ระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS)
• ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง
• ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam
• ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)
BEYOND SAFETY : มั่นใจทุกการขับขี่ด้วยระบบความปลอดภัยที่เหนือกว่า
ALL NEW MG5 มาพร้อมโครงสร้างตัวถังนิรภัย แบบ FSF (Full Space Frame) และให้ความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วย Synchronized Protection System ระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรป ซึ่งมีการผสานการทำงานเป็นหนึ่งเดียว
• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบป้องกันการไหลของรถ โดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold)
• ระบบควบคุมการเบรก ในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)
นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกล้องมองภาพรอบทิศทาง แบบ 3 มิติ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยแบบดึงรั้งกลับ พร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)
BEYOND TECHNOLOGY : เหนือกว่าเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย
ALL NEW MG5 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i–SMART ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ ของผู้ใช้รถยนต์เอ็มจีให้สะดวกสบาย ปลอดภัย และเชื่อมต่อไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ ในยุคดิจิตอล พร้อมเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Digital Key สามารถใช้งานรถ ผ่านกุญแจดิจิตอล โดยรับ – ส่งโค้ด จากแอพพลิเคชัน i-SMART สามารถสั่งการเปิด-ปิด และสตาร์ทรถยนต์ รวมถึงการส่งกุญแจดิจิตอลให้กับผู้อื่น เพื่อใช้งานรถยนต์ ผ่านแอพพลิเคชั่น i-SMART
Smart Command หรือ ระบบสั่งการอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
• กุญแจดิจิตอล
• ระบบสั่งการผ่านคำสั่งเสียงภาษาไทย
• ควบคุมการทำงานของระบบปรับอากาศ ผ่านทางสมาร์ทโฟน
• ค้นหาข้อมูลจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ และวางแผนการเดินทาง จากสมาร์ทโฟน ส่งเข้าหน้าจอทัชสกรีนของรถได้
• โทรออก – รับสาย จากจอทัชสกรีน
• สามารถติดต่อ MG Call Centre เพื่อสอบถามข้อมูล หรือขอรับจุดน่าสนใจ (Point Of Interest) ด้วยปุ่มลัดบนพวงมาลัย
Smart Connect หรือระบบเชื่อมต่ออัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
• เล่นเพลงทั้งรูปแบบออนไลน์ และสตรีมมิ่ง
• ค้นหาร้านอาหาร ที่พัก และสถานที่ท่องเที่ยว บนแผนที่นำทาง
• รายงานการจราจรแบบ Real Time
• เรียกดูข้อมูลข่าวสารเหตุการณ์ปัจจุบัน และข้อมูลพยากรณ์สภาพอากาศ
• อัพเกรดระบบต่างๆ ผ่านออนไลน์ (FOTA)
Smart Check หรือ ระบบตรวจเช็กอัจฉริยะ ประกอบไปด้วย
• ตรวจสอบสถานะของประตูรถ
• ตรวจสอบตำแหน่งของรถ พร้อมบอกเส้นทางไปยังรถยนต์ ผ่านฟังก์ชั่น FIND MY CAR
โดยกำหนดให้รถเปิดไฟหน้า ไฟท้าย หรือใช้เสียงแตร ผ่านการตั้งค่า
• ตรวจสอบความผิดปกติ และแจ้งสถานะ การทำงานของรถ เช่น เครื่องยนต์ ลมยาง และถุงลมนิรภัย
• ระบบช่วยค้นหาศูนย์บริการ นัดหมาย และบันทึกการดูแลรักษารถยนต์ตามระยะ
• ระบบแจ้งเตือน เมื่อมีความผิดปกติเกิดขึ้น กับระบบการทำงาน หรืออุปกรณ์ของรถ
• กำหนดขอบเขตการใช้รถ ได้ตั้งแต่ 500 ม. ไปจนถึง 10 กม. โดยระบบจะแจ้งเตือน เมื่อรถเข้า-ออก ในขอบเขตที่กำหนดไว้
- อุปกรณ์ที่ติดตั้งจะแตกต่างกันไปในแต่ละรุ่น
ALL NEW MG5 มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อย แบ่งออกเป็น รุ่น C รุ่น D และรุ่น X พร้อมสีตัวถังทั้งหมด 6 สี ได้แก่ สีเหลือง (Nuclear Yellow) สีขาว (Arctic White) สีดำ (Black Knight) สีเงิน (Silver Metallic) สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)
ALL NEW MG5 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ในรูปแบบออนไลน์ (Online Launch) ในวันอังคารที่ 20 กรกฎาคม 2564 นี้ เวลา 19.00 น. ผ่านช่องทาง Official Facebook Page : MG Thailand