เปิดตัว 2022 Ford Super Duty Lariat Tremor รถปิกอัพยักษ์ แกร่ง-ทรงพลังที่สุดในคลาส

แม้ว่า Ford ยังไม่ได้เปิดตัว All-new Ranger เจนเนอเรชั่นใหม่ ที่คาดว่าการเผยโฉม จะเกิดขึ้นในปลายปี 2021 นี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งภาพ spy shot ภาพจำลอง หรือข้อมูลทางเทคนิค ที่มีการเผยแพร่ออกมาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า รูปร่างหน้าตาของรถกระบะยอดนิยมรุ่นหนึ่งของโลก จะมีลักษณะแบบใด สิ่งหนึ่งที่พอจะบอกได้ในตอนนี้ ก็คือ All-New Ranger โฉมใหม่ ได้รับการถ่ายทอด DNA ในการออกแบบ มาจากสุดยอดรถกระบะที่ขายดีที่สุดในอเมริกา มานานกว่า 44 ปี อย่าง Ford F-Series รถกระบะขนาดใหญ่ หรือ full size ชนิดที่ใครได้เห็นแล้ว สามารถบอกได้จากระยะไกล ว่ามันคือ รถกระบะปิกอัพสายพันธุ์ Ford ซึ่งในช่วงหลัง Ford ได้เริ่มใช้ F-Series เป็นต้นแบบในการทำตลาดมากขึ้น ซึ่งนอกจากการใช้แนวทางการออกแบบที่เหมือนกันแล้ว เทคโนโลยีต่างๆ ก็ถูกถ่ายทอดลงไปสู่ Ranger ด้วยเช่นกัน นั่นทำให้การเปิดตัวของ F-Series จึงน่าสนใจกว่าในอดีตที่ผ่านมา เพราะทำให้มีลุ้นว่า Ranger โฉมใหม่ จะมีรูปโฉม และเทคโนโลยีเหมือนกับที่เปิดตัวในรถกระบะรุ่นพี่ อย่าง F-Series หรือ Super Duty หรือไม่

ล่าสุด Ford อเมริกาเปิดตัว Super Duty Lariat Tremor รุ่นปี 2022 รถกระบะขนาด full size รุ่นย่อยใหม่ ที่ยังใช้ภาษาการออกแบบ ในแบบเดิมอยู่ เพราะยังเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 4 ของ Super Duty ซึ่งได้เปิดตัวในปี 2017 โดยมาพร้อมชุดแต่งโฉมสไตล์สปอร์ต และตัวเลขสมรรถนะในการบรรทุก และลากจูงโหลดที่สูงที่สุดในคลาส ซึ่งนอกจาก Super Duty รุ่นนี้ จะแกร่งมากขึ้นแล้ว Ford ยังได้เพิ่มความอัจฉริยะ ให้กับตัวรถมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี ผ่านทางระบบ SYNC4 ที่มาพร้อมจอแสดงผลขนาดใหญ่ขึ้น เป็น 12 นิ้ว และรองรับการเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ แบบ 24 ชั่วโมงใน 7 วัน สำหรับทั้งตัวรถ และโทรศัพท์มือถือ

จอแสดงผลกลางระบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว แบบใหม่ยกชุด ของระบบ SYNC4 นี้ เป็นอุปกรณ์มาตรฐานในรุ่น Lariat และรุ่นที่สูงกว่า ซึ่งจะมาพร้อมกับปุ่มควบคุมด้านใต้ เพื่อให้สะดวกและง่าย ในการเลือกใช้ฟีเจอร์ที่มีการใช้งานอยู่เป็นประจำ ผู้โดยสารสามารถใช้งานฟีเจอร์ต่างๆได้พร้อมกัน ด้วยการแบ่งหน้าจอแสดงผล ให้เห็นทั้งระบบนำทาง เครื่องเล่นเพลง ฟีเจอร์ของรถ รวมถึงคู่มือการใช้งานดิจิตอลแบบใหม่

ระบบ SYNC4 ใหม่แบบ All-New นี้ มีประสิทธิภาพในการประมวลผล สูงกว่าเดิมถึง 2 เท่าตัว รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สายกับสมาร์ทโฟน ผ่านทาง Apple carplay หรือ Android Auto รวมถึงระบบ SYNC AppLink ผู้ใช้งานยังสามารถควบคุมและสื่อสารกับตัวรถ ด้วยการสั่งงานด้วยเสียงแบบเดิม ในการค้นหาสถานที่ๆน่าสนใจ หรือจุดพักรถ ตามเส้นทางที่สัญจร โดยฟีเจอร์การสั่งงานด้วยเสียง SYNC และจอแสดงผลกลางขนาด 4.2 นิ้ว จะเป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ในรุ่น XL ที่ยังใช้ระบบ SYNC3 อยู่ รวมถึงรุ่น XLT ด้วยเช่นกัน แต่จอแสดงผลกลาง จะเป็นขนาด 8 นิ้ว

Ford Super Duty รุ่นล่าสุดนี้ ยังมาพร้อมกับชุดแต่งโฉมสไตล์สปอร์ต Lariat Sport Appearance Package ที่ประกอบด้วยกระจังหน้าและกันชน สีเดียวกับตัวถังภายนอก รวมถึงฝาครอบกระจกมองข้าง ที่มีการตกแต่งด้วยสีดำเพิ่มเข้ามา บันไดเหยียบด้านข้างเป็นสีดำ ส่วนปลายท่อไอเสีย เป็นสีโครเมี่ยม

นอกจากนั้น ยังมีชุดแต่งโฉมยอดนิยม อย่าง Black Appearance Package ให้เลือกสำหรับรุ่นย่อย XLT ซึ่งได้แก่ ล้อลอยพรีเมี่ยม สีดำ Ebony Black ขนาด 20 นิ้ว กันชนหน้าและหลัง สีเดียวกับตัวถังภายนอก บาร์ที่หน้ากระจัง บันไดข้างสีดำ Ebony Black ขนาดความกว้าง 6 นิ้ว โดยชุดแต่งนี้ จะมีวางจำหน่าย ในฤดูใบไม้ร่วงของปี 2021 นอกจากนั้น ยังมีสีใหม่ให้เลือก 3 สี สำหรับห้องโดยสายภายใน ส่วนตัวถังภายนอก จะมีสีน้ำเงิน Atlas Blue เพิ่มเข้ามาให้เป็นทางเลือก

Ford Super Duty รุ่นนี้ ถือว่าเป็นรุ่น Super Duty ที่ทรงพลัง และแข็งแกร่งที่สุดในคลาส ด้วยขุมพลัง V8 ความจุ 7.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 430 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 644 นิวตันเมตร โดยมีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล V8 Power Stroke ความจุ 6.7 ลิตร เจนเนอเรชั่นที่ 3 ให้เลือกด้วย โดยให้กำลังสูงสุด ถึง 475 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 1423 นิวตันเมตร โดยสามารถลากจูงโหลดในแบบต่างๆ ที่มีน้ำหนักสูงสุด ได้ถึง 37,000 ปอนด์ ส่วนน้ำหนักบรรทุกสูงสุด อยู่ที่ 7850 ปอนด์ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ ถือว่าสูงที่สุดในรถกระบะประเภทเดียวกัน

Ford Super Duty ใหม่ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัย Co-Pilot360 ที่มีฟีเจอร์ ทั้งที่เป็นมาตรฐาน และอ็อปชั่นให้เลือก เช่น ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ที่เป็นฟีเจอร์มาตรฐาน ใน Super Duty ทุกรุ่นย่อย โดยมีระบบเตือน และช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน สำหรับรุ่น XL XLT และรุ่นที่สูงกว่า ระบบช่วยป้องกันการชน ที่มาพร้อมระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ เป็นฟีเจอร์มาตรฐาน ในรุ่น XLT และรุ่นที่สูงกว่า นอกจากนั้น ยังมีระบบเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง ที่ครอบคลุมการเตือนจุดอับสายตา โดยรอบรถพ่วง ระบบช่วยควบคุมรถพ่วง ระบบ Adaptive Cruise Control ระบบช่วยควบคุมพวงมาลัยแบบแปรผัน กล้องมองรอบคัน 360 องศา เป็นต้น

Ford จะทำการผลิต Super Duty รุ่นปี 2022 นี้ ที่โรงงานของบริษัท ทั้งในรัฐโอไอโอและเคนตั๊กกี้ พร้อมจำหน่ายในช่วงซัมเมอร์นี้ และอย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น แม้ว่า Super Duty ยังใช้ดีไซน์เดิม แต่ F-150 โฉมใหม่ทั้งคันที่เพิ่งเปิดตัวไป ก็ยังได้รับ DNA มาจากเจนเนอเรชั่นก่อนอย่างชัดเจน ด้วยไฟหน้ารูปตัว C ที่ถูกลดความหนาลง ซึ่งได้ถูกส่งผ่านไปยัง All-New Ranger ที่กำลังจะมีการเปิดตัว แต่ที่เราคาดหวังมากกว่านั้น นอกเหนือไปจากเรื่องของรูปโฉมใหม่ และขุมพลังที่มีสมรรถนะที่ดีขึ้นกว่าเดิมแล้ว เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยต่างๆ ที่ให้มาใน F-Series และ Super Duty เราก็มีความคาดหวัง ที่จะได้เห็นใน Ranger โฉมใหม่ด้วยเช่นกัน

Leave a Reply