ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าแบบ pure electric หรือไฟฟ้า 100% ในเมืองไทย ยังถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้น เพราะทางเลือก ยังมีไม่มากนัก และตลาดนี้ ก็ถูกครอบครองโดย MG ที่มีส่วนแบ่งทางการตลาด สูงถึง 88% ด้วยยอดขาย 826 คัน จากยอดขายรวมทั้งหมด 939 คัน ในปี 2020 ที่ผ่านมา และการลงทุน ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ภายในประเทศ ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากนัก เพราะส่วนใหญ่ในขณะนี้ จะเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม หรือไฮบริดเป็นส่วนใหญ่ ต่างกันกับของอินโดนีเซีย ที่ปัจจุบัน มีค่ายรถยนต์สำคัญของโลก รวมถึง supplier รายใหญ่ ได้เข้าไปลงทุน หรือแสดงความจำนง ในการสร้างโรงงานที่นั่นแล้ว
Hyundai เป็นค่ายรถยนต์รายล่าสุด ที่ได้ลงทุนในเรื่องนี้ กว่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 45,000 ล้านบาท ในขณะที่ผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธี่ยมยักษ์ใหญ่จากจีน อย่าง CATL เตรียมอัดฉีดเงินลงทุน กว่า 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 150,000 ล้านบาท เพื่อที่จะสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธี่ยมขึ้นที่นั่น ซึ่งจะเริ่มเดินสายการผลิต ในปี 2024 ในขณะที่ค่ายรถยนต์ ที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลก อย่าง Tesla เตรียมเข้าเจรจากับรัฐบาลอินโดนีเซีย ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เพื่อสร้างระบบ supply chain ของอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งอินโดนีเซียเอง ก็เป็นแหล่งทรัพยากร ของแร่นิเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทำให้มีความได้เปรียบกว่าประเทศอื่นๆ
อีกทั้งรัฐบาลอินโดนีเซียเอง ก็มีนโยบายสนับสนุน ในเรื่องการสร้างฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ในภูมิภาคอย่างเต็มที่ ถึงกับที่ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด้ เป็นผู้ทำการเจรจากับค่ายรถยนต์ต่างๆด้วยตัวเอง โดยมีการเจรจาทั้งภายในประเทศ เช่น การพูดคุยทางโทรศัพท์ กับ Elon Musk CEO ของ Tesla เพื่อชวนเชิญเข้ามาลงทุน และแลกเปลี่ยนแนวคิด เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมปีที่ผ่านมา และการเดินทางไปเจราจาที่ต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น ซึ่งหนึ่งในบริษัทที่วิโดโด้ เข้าทำการเจรจาด้วย ก็คือ Toyota ที่ได้ตัดสินใจลงทุนเพิ่มเติม อีก 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 60,000 ล้านบาท เพื่อที่จะผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซีย ถึง 10 รุ่น ภายในปี 2025 ซึ่งจะมีทั้งรถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด รถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ และ Fuel Cell
ผู้บริหารของ Toyota อินโดนีเซีย เผยว่า การผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ในอินโดนีเซีย จะเริ่มขึ้นในปี 2022 หรือปีหน้าที่จะถึง โดยจะเลือกรถยนต์ รุ่นที่ทำตลาดอยู่แล้วในปัจจุบัน และเป็นรุ่นที่ขายดี ทำให้มีการคาดการณ์ว่า Avanza และ Innova จะเป็นรุ่นรถยนต์ตัวเลือกแรกๆ ที่จะมีการผลิตเวอร์ชั่นไฮบริด หรือไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่ ออกมาจำหน่ายก่อนรุ่นอื่นๆ ซึ่ง Avanza เป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดในอินโดนีเซีย เป็นอันดับ 2 รองจาก Honda Brio ในปี 2020 ที่ผ่านมา โดยจำหน่ายไปได้ 35,754 คัน ในขณะที่ Innova มียอดขายตามมาเป็นอันดับ 4 ที่ 27,594 คัน และแม้ว่า Toyota Rush จะมียอดขายเป็นอันดับ 3 เหนือว่า Innova แต่ด้วยการทำตลาดในต่างประเทศที่จำกัด ทำให้รถยนต์รุ่นนี้ อาจจะไม่ได้เป็นรุ่นแรกๆ ที่มีการเปิดตัวเวอร์ชั่นไฟฟ้า
หลังจากนี้ เราอาจจะได้เห็นการนำเข้า Avanza หรือ Innova รุ่นไฮบริดหรือไฟฟ้าแบตเตอรี่ มาทำตลาดในไทย ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า รวมถึงรถยนต์ไฟฟ้าอื่นๆของ Toyota ที่มีการผลิตขึ้นในอินโดนีเซีย หรือมีการนำเข้าแบตเตอรี่ มาประกอบขึ้นในเมืองไทย ส่วนจะมีรุ่นใดบ้าง นอกเหนือไปจาก Avanza และ Innova ต้องรอติดตามกันต่อไป