สำนักข่าวชื่อดังของญี่ปุ่น Nikkei รายงานว่า Mitsubishi Motors กำลังพิจารณา การตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในประเทศเมียนม่าร์ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย การหันมามุ่งเน้นการทำตลาด ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในฐานะตลาดหลักของ Mitsubishi จากการเปิดเผยของนายทาเคโอะ กาโตะ CEO ของบริษัท
นายกาโตะ ยังเผยอีกว่า Mitsubishi Motors คาดหวังว่า จะทำงานร่วมกับบริษัทแม่ อย่าง Mitsubishi Corporation ซึ่งถือหุ้นใน Mitsubishi Motors 20% และมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในตลาดแห่งนี้ ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ทั้งในเรื่องเงื่อนไขของเวลา และรูปแบบของธุรกิจ จะต้องมีการพูดคุยกันต่อไป และยังไม่มีข้อสรุปในขณะนี้
Mitsubishi Motors เข้าเกียร์ถอยหลัง ด้วยการถอนตัวจากยุโรป และทุ่มทรัพยากร ให้กับ 10 ตลาดในอาเซียน ภายใต้แผนงานระยะกลาง ที่บริษัท ได้ประกาศไปเมื่อวันก่อน ซึ่งจะช่วยสร้างยอดขาย ให้ได้ถึง 1 ใน 4 ของยอดขายทั้งหมดของบริษัท โดยในปัจจุบัน Mitsubishi มีฐานการผลิต ทั้งในประเทศไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์อยู่แล้ว โดยในขณะนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณา สร้างโรงงานเพิ่มในประเทศเวียดนาม และเมียนม่าร์ ก็เป็นประเทศล่าสุด ที่บริษัท กำลังพิจารณา การสร้างโรงงานแห่งใหม่
ภายใต้แผนงานระยะกลางดังกล่าว Mitsubishi จะทำการปิดโรงงานผลิตเอสยูวีในยุโรป และหยุดการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งจะช่วยให้บริษัท สามารถลดต้นทุนได้ถึง 20% ตามที่ได้วางแผนเอาไว้ และ Mitsubishi ก็ยังเดินหน้าสร้างความได้เปรียบ จากการเป็นพันธมิตร กับ Nissan และ Renault โดยแต่ละบริษัท จะมุ่งเน้นในสิ่งที่ตัวเองถนัด และมีความได้เปรียบในตลาด ซึ่งจะส่งผลให้บริษัททั้งกลุ่ม สามารถลดต้นทุนในการวิจัยและพัฒนา การผลิต และการตลาด ได้อย่างเป็นรูปธรรม
ซึ่งในปัจจุบัน รถยนต์แต่ละรุ่น ก็จะมีการผลิต ในโรงงานของแต่ละประเทศอยู่แล้ว เช่น Triton ในเมืองไทย ซึ่งเป็นตลาดรถกระบะขนาด mid size ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังมีสายการผลิต รถยนต์ไฟฟ้าแบบผสม หรือไฮบริด เช่น Outlander PHEV อีกด้วย ส่วนอินโดนีเซีย ก็เป็นฐานการผลิต Xpander ซึ่งเป็นตลาด MPV สำคัญในภูมิภาค
และนั่นทำให้เกิดคำถามตามมา จากสื่อมวลชนของอินโดนีเซีย หลังจากการแถลงแผนงานล่าสุด ว่ารถ MPV อย่าง Xpander Hybrid ที่จะมีการเปิดตัวในปี 2023 จะมีการผลิตขึ้นในโรงงานของประเทศใด ซึ่งนาย Naoya Nakamura ประธานบริหารของ Mitsubishi อินโดนีเซีย เผยว่า ในขณะนี้ บริษัทยังไม่สามารถบอกได้ว่า Xpander Hybrid จะมีการผลิตขึ้น ที่โรงงานของประเทศใดในอาเซียน แต่สิ่งที่ให้ความมั่นใจได้ก็คือ รถ MPV ไฮบริดรุ่นนี้ จะมีราคาที่เข้าถึงได้ง่ายอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของบริษัท ที่จะต้องบรรลุให้ได้ ไม่ว่าจะมีการผลิตขึ้น ในที่ใดก็ตาม