ดูเหมือนว่า ในยุค new normal รถยนต์รุ่นใด ที่ไม่มีอนาคตที่ชัดเจน หรือส่อแววหมดความนิยม Honda ก็จะไม่ฝืนทำตลาดอีกต่อไป หลังจากที่เตรียมหยุดทำตลาด Civic sedan ในประเทศญี่ปุ่นไปแล้ว ล่าสุด Honda อเมริกา ก็เตรียมตัดสินอนาคต ของรุ่นรถยนต์ ที่เคยเป็นที่นิยมไปทั่วโลก อย่าง Jazz, Civic Coupe รวมถึง Accord รุ่นเกียร์ธรรมดา ในตลาดสหรัฐอเมริกา จากการรายงานข่าวของ Automotive News
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยอดขายของรถแฮทแบ็คอย่าง Jazz หรืออีกชื่อหนึ่งว่า Fit ในสหรัฐอเมริกา ตกลงอย่างหนัก จาก 56,630 คัน ในปี 2016 ลดลงเหลือเพียงประมาณ 35,000 คัน ใน 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้การผลิตออกมาจำหน่าย ไม่สมเหตุสมผลในเชิงพาณิชย์ และเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้ ก็เกิดขึ้นกับ Civic Coupe เช่นกัน ซึ่งเมื่อ 4 ปีก่อน รถรุ่นนี้ มีส่วนแบ่งตลาดถึง 16% ของยอดขาย Civic ทั้งหมด ในสหรัฐอเมริกา แต่ล่าสุด ยอดขายกลับลดลง เหลือเพียง 6% เท่านั้น
นอกจากรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นข้างต้น Honda ก็เตรียมยุติการผลิต Accord รุ่นเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ภายในเดือนธันวาคมปีนี้เช่นกัน จากยอดขายที่มีเพียง 2% ของยอดขาย Accord ทั้งหมด ที่มีอยู่ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม การลดจำนวนรุ่นย่อยในการทำตลาดลง ไม่ได้หมายความว่า อนาคตของ Civic หรือ Accord จะมืดมนลงไป เพราะ Gary Robinson ผู้ช่วยรองประธานกรรมการ ฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ของ Honda อเมริกา ยังยืนยันว่า บริษัทจะมุ่งเน้นในการพัฒนา Civic และ Accord ต่อไป เพราะเป็นรุ่นที่สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ในตลาดสหรัฐอเมริกามาโดยตลอด
นั่นหมายความว่า Honda กำลังปรับเปลี่ยนแผนการทำตลาด โดยมุ่งเน้นไปที่รุ่นย่อยของรถยนต์ ที่มีส่วนแบ่งตลาด ที่มีศักยภาพเท่านั้น ส่วนรุ่นย่อยอื่นๆ ที่มองไม่เห็นอนาคต หรือส่งสัญญาณความเสื่อมถอย บริษัทก็พร้อม ที่จะตัดออกไป จากไลน์อัพ เพื่อทุ่มเททรัพยกรที่เหลือ ให้กับการพัฒนารุ่นที่สามารถทำตลาดได้ดีเท่านั้น
และสิ่งหนึ่งที่เป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ตลาดรถยนต์ในบาง segment หดตัวลงไป ก็คือความนิยมในรถเอสยูวีที่มากขึ้น จนถึงกับทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ เปิดตัวรถเอสยูวีรุ่นใหม่ ใน segment ที่ถูกซอยย่อยลงไปอีก ซึ่งสวนทางกับตลาดรถซีดานและแฮทช์แบ็ค บางที เราอาจจะได้เห็น Civic SUV ในอนาคต ก็เป็นไปได้