Ford เปิดตัวรถกระบะรุ่นพิเศษ Ranger Thunder ที่จะเริ่มจำหน่ายในบางประเทศของยุโรป ในช่วงปลายซัมเมอร์นี้ ที่จำนวนจำกัด เพียง 4,500 คันเท่านั้น โดยมาพร้อมการตกแต่งโฉมรอบคัน และขุมพลังดีเซลทวินเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร จาก Ranger Raptor
Ford Ranger Thunder ถูกพัฒนาต่อยอดมาจาก Ranger Wildtrak แต่สร้างความแตกต่าง ด้วยตัวถังภายนอกสีเทา Sea Grey และเติมแต่งด้วยชิ้นงานสีแดง ทั้งบริเวณกระจังหน้า ชายล่างข้างประตู ด้วยโลโก้คำว่า Thunder ซึ่งมีแสดงบนฝาท้ายกระบะด้วย และแถบสีแดงบริเวณสปอร์ตบาร์ โดยมีการใช้สีดำด้าน ตกแต่งในส่วนต่างๆรอบคัน ทั้งแผงกระจังหน้า กันชนท้าย มือจับประตู และเบ้าไฟตัดหมอก ส่วนล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ก็เป็นสีดำเช่นกัน โดยมีอ็อปชั่น เป็นพื้นปูกระบะท้าย และฝาครอบสีดำ ปิดเปิดได้ พร้อม partition กั้นสัมภาระภายใน จาก Mountain Top
ห้องโดยสารภายใน ถูกตกแต่งด้วยเบาะนั่งหุ้มหนังสีดำ Ebony เดินด้ายสีแดง พร้อมโลโก้ Thunder มาพร้อมพรมปูพื้น สีดำ และกาบบันไดเรืองแสงสีแดง เป็นมาตรฐาน
ขุมพลังของ Ford Ranger Thunder คือเครื่องยนต์ดีเซลทวินเทอร์โบ Ecoblue ความจุ 2.0 ลิตร 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่นำมาจากรุ่น Ranger Raptor จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ในตัวถังแบบ Double Cab เป็นมาตรฐาน แต่ไม่มีโหมดขับขี่ off road ในแบบ Raptor แต่ก็ดีพอ ที่จะทำให้ Ford เคลมว่า มันเป็นรถกระบะ off road ที่มีสมรรถนะดีเยี่ยม
Ford จะผลิต Ranger Thunder ออกมาจำหน่ายในยุโรปที่ 4500 คัน โดย 1400 คัน จะถูกส่งไปจำหน่ายในสหราชอาณาจักร โดยปี 2019 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นปีที่ Ford ทำยอดขายในยุโรป ได้สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ คือที่ 52,000 คัน ซึ่งถือว่าเป็นรถกระบะ ที่ขายดีที่สุดในยุโรป