ในกลางปี 2020 Honda เตรียมเปิดตัวรถไฮเทคขับขี่อัตโนมัติ รุ่นแรกจากค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น ที่ผู้ขับขี่ สามารถปล่อยมือจากพวงมาลัย และละสายตาจากท้องถนนได้ ถือว่าเป็นก้าวสำคัญ และแสดงถึงความล้ำหน้าของ Honda ในอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก จากการรายงานข่าว ของสำนักข่าว Nikkei
เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัตินี้ ถูกจัดอยู่ในความสามารถระดับ 3 ที่จะควบคุมและขับขี่รถ ได้ในระยะทางหนึ่ง เป็นช่วงๆไป แต่ก็จะทำการแจ้งเตือนผู้ขับ ให้เข้าทำการควบคุมรถเอง ในทันทีที่พบว่า จำเป็นจะต้องถูกควบคุมโดยมนุษย์ โดยมีระดับ 5 เป็นระดับสูงสุด ที่ถือว่าเป็นการขับขี่เองอัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบ โดยเทคโนโลยีล่าสุดของ Honda นี้ จะมีการติดตั้งในรุ่น Legend ซีดานหรู ระดับเรือธงของบริษัท โดยคาดว่าจะมีราคาจำหน่าย อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านเยน หรือ 2,750,000 บาท แพงกว่ารุ่นมาตรฐาน ถึง 40%
ประเทศญี่ปุ่น ได้ผ่านกฏหมายให้รถยนต์ขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 สามารถถูกนำมาใช้ขับบนท้องถนนได้อย่างถูกกฏหมาย โดยจะเริ่มมีผลในช่วงปลายไตรมาสแรก ของปี 2020 ซึ่งรัฐบาล พยายามผลักดันให้มีการนำเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ มาใช้ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งแน่นอนว่า ปัญหาต้นทุนที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ทำให้การทำตลาด อาจจะพบอุปสรรค ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าว จะมีการใช้เซนเซอร์จำนวนมาก ในการตรวจจับวัตถุต่างๆ โดยรอบตัวรถ รวมถึงป้ายจราจร และสิ่งกีดขวางต่างๆ โดยที่ผู้ขับขี่ ไม่จำเป็นต้องควบคุมรถ
จะว่าไปแล้ว เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะหลายค่ายรถยนต์ ก็มีการพัฒนาในส่วนนี้มานานหลายปี เพียงแต่ไม่สามารถนำมาใช้ในทางปฏิบัติได้ จากเหตุปัจจุจัยหลายอย่าง อย่างเช่นกรณีของ Audi ที่มีการพัฒนารถยนต์ขับขี่อัตโนมัติระดับ 3 เช่นกัน แต่ก็ไม่สามารถเปิดตัวใช้งานได้จริง เพราะติดขัดในเรื่องข้อกฏหมายของประเทศเยอรมนี
กลับมามองที่เมืองไทย ต่อให้มีเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ ที่ถูกพัฒนาถึงขีดสุดแล้ว แต่ปัจจัยแวดล้อมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระเบียบวินัยในการใช้รถยนต์ การเคารพ กฏจราจร สภาพถนน การควบคุมการจราจร โดยเจ้าหน้ารัฐ อาจจะไม่เอื้ออำนวย ให้เราสามารถนำเทคโนโลยีนี้ มาใช้ได้จริงในเร็ววันนี้
อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกัน การนำเทคโนโลยีชนิดนี้ มาใช้กับรถยนต์ส่วนใหญ่ ก็อาจจะทำให้จำนวนผู้ฝ่าฝืนกฏจราจร ลดลงไป และมีความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น แต่ต้นทุนของการเปลี่ยนแปลง ก็จะสูงตามไปด้วย