เจาะลึกขุมพลัง Chevrolet Captiva 2019-2020 และระบบส่งกำลัง

รถอเนกประสงค์เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ ที่เตรียมจำหน่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 จะได้รับประโยชน์จากกลยุทธ์การปรับขนาดเครื่องยนต์ให้มีความเหมาะสมของเจอเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) การติดตั้งเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง และเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานมากขึ้น โดยมีเทอร์โบชาร์จเจอร์ และเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ ที่ให้แรงม้าและแรงบิด เพื่อการขับขี่ที่สนุกเร้าใจ

รถอเนกประสงค์ เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ ติดตั้งเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 4 สูบ ทำงานร่วมกับระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะใหม่ (CVT) ที่พัฒนาร่วมกับบอช (Bosch) โดยมีเทอร์โบชาร์จเจอร์ ที่มอบประสิทธิภาพ และพละกำลังในการขับขี่ ทำงานร่วมกับระบบเกียร์แปรผันอัจฉริยะใหม่ ที่ใช้เซ็นเซอร์ในการประมวลสภาพถนน เพื่อเพิ่มหรือลด อัตราการเร่งที่มี 8 ระดับอย่างนุ่มนวล ผ่านโปรแกรมคำนวนอัจฉริยะ มอบประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้ขับขี่ และยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโหมดประหยัดพลังงาน ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงอย่างมีประสิทธิภาพ (Eco) หรือโหมดสปอร์ต (Sport)

เครื่องยนต์ของ แคปติวา รุ่นใหม่ มอบพลังขับเคลื่อน 143 แรงม้า (105 กิโลวัตต์) ด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์ใหม่ล่าสุดจากฮันนี่เวล (Honeywell) เริ่มทำงานที่ 1,000 รอบต่อนาที ให้แรงบิดสูงสุดถึง 250 นิวตันเมตร (184 ฟุต-ปอนด์) ที่ 1,600 – 3,600 รอบต่อนาที มอบพลังตอบสนองทันใจทุกความต้องการ ทำให้แคปติวา รุ่นใหม่ เป็นหนึ่งในรถอเนกประสงค์ ที่ให้แรงบิดสูงสุดในบรรดารถเอสยูวี ซี-เซ็คเมนท์

เครื่องยนต์รุ่นนี้ มาพร้อมระบบการเผาไหม้ประสิทธิภาพสูง ให้แรงบิดได้อย่างรวดเร็ว พร้อมระบบเผาไหม้ที่สมบูรณ์ รวมถึงระบบไอเสียที่ปรับความดันอย่างเหมาะสม เพื่อประสิทธิภาพในการใช้พลังงานที่ดียิ่งขึ้น

เช่นเดียวกับการออกแบบรถอเนกประสงค์รุ่นนี้ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องบินรบล่องหน เครื่องยนต์ของแคปติวา รุ่นใหม่ ก็ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง ระดับเดียวกับที่ใช้ในอุตสาหกรรมการบิน อาทิ เหล็กที่มีความแข็งแกร่งพิเศษ ทนความร้อนสูง และน้ำหนักเบา มั่นใจด้วยการทดสอบเครื่องยนต์มากกว่า 10,000 ชั่วโมง ผ่านการทดสอบในสภาวะที่ร้อนจัดและเย็นจัด ไปจนถึงการทดสอบการขับขี่ ในสภาวะจำลองกว่า 300,000 กิโลเมตร

การปรับขนาดเครื่องยนต์ให้มีความเหมาะสม คือ ทางเลือกที่ใช่ สำหรับรถอเนกประสงค์ แคปติวา รุ่นใหม่

เชฟโรเลต แคปติวา รุ่นใหม่ ได้รับการออกแบบใหม่ ให้มีน้ำหนักน้อยกว่ารุ่นก่อน ที่เป็น รุ่น 2.4 ลิตร โดยมีน้ำหนักน้อยลงกว่าเดิมถึง 200 กิโลกรัม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า จะเป็นรุ่น 5 หรือ 7 ที่นั่ง ผลลัพธ์คือ รถยนต์ที่มีน้ำหนักลดลง จะใช้พละกำลังน้อยลง ในการคงสมรรถนะเดิมไว้

เทอร์โบชาร์จจื้ง เป็นเทคโนโลยีที่จีเอ็ม นำมาใช้เพิ่มพละกำลังและสมรรถนะให้กับเครื่องยนต์ขนาดเล็ก จีเอ็มเพิ่มการติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ในรถยนต์ของจีเอ็มทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ในสหรัฐอเมริกา เครื่องยนต์เทอร์โบของจีเอ็ม ได้รับการติดตั้งในรถยนต์โดยสารส่วนบุคคลที่ใช้น้ำมัน จาก 5% ในปี 2553 เพิ่มขึ้นเป็น 49% ในปี 2560

ประสิทธิภาพของเทอร์โบชาร์จเจอร์ เปรียบได้กับการที่รถยนต์หนึ่งคัน มีเครื่องยนต์สองเครื่อง เครื่องหนึ่งช่วยในเรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน ขณะที่อีกเครื่องหนึ่งนั้น เป็นขุมพลังให้กับรถยนต์ ในสภาวะการขับขี่ทั่วไป รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จเจอร์ ในขนาดที่เหมาะสม จะประหยัดน้ำมัน มากกว่ารถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ แต่ไม่มีเทอร์โบชาร์จเจอร์ แคปติวา รุ่นใหม่ คือ ตัวอย่างที่ทำให้เราเห็นว่า เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จเจอร์ ทำให้รถรุ่นนี้ เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่ให้แรงบิดสูงสุด เมื่อเทียบกับรถยนต์ประเภทเดียวกัน

พละกำลังของเทอร์โบชาร์จเจอร์ เกิดจากการไหลเวียนของอากาศภายในเครื่องยนต์ ส่งผลให้มีการอัดอากาศเข้าสู่กระบอกสูบมากขึ้น ทำให้การทำงานของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะอัตราเร่ง เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ เทคโนโลยีนี้ ใช้การดึงไอเสียจากรถยนต์ไปหมุนใบพัด เพื่อช่วยในการอัดมวลอากาศ เข้าไปในเครื่องยนต์ เพื่อเพิ่มพละกำลังให้กับเครื่องยนต์

เทอร์โบชาร์จจิ้ง เป็นหนึ่งในเทคโนโลยี ที่มีความสำคัญกับรถยนต์ที่มีขนาดและน้ำหนักลดลงอย่าง แคปติวา รุ่นใหม่ ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานให้ดียิ่งขึ้น นั่นหมายถึง บริษัทผลิตเครื่องยนต์ที่มีขนาดเล็กลง แต่ยังคงความแรง และสมรรถนะที่สูงไว้ได้ เพื่อให้ลูกค้า ขับขี่ไปได้ไกล อย่างที่ใจต้องการ

Leave a Reply