ในขณะที่เมืองไทย Nissan เตรียมอวดโฉม Kicks e-POWER รุ่น Star Edition ในงานมอเตอร์โชว์ที่กำลังจะมาถึง ในประเทศสหรัฐอเมริกา Nissan ได้เปิดตัว All-New Nissan Kicks เจนเนอเรชั่นใหม่ ปี 2025 ในงานเปิดตัวการแข่งขันบาสเกตบอลระดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐอเมริกา ประจำปี 2024 ที่ Barclays Center ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน New York International Auto Show ในวันที่ 27 มีนาคมศกนี้
Nissan Kicks โฉมใหม่ มาพร้อมเทคโนโลยีต่างๆมากขึ้น และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถได้ดีขึ้น ถึงขนาดที่ Nissan เคลมว่า Kicks ทำได้ดีกว่าคู่แข่งทุกรายในตลาด มาพร้อมพื้นที่จุสัมภาระและระยะจากพื้นถึงใต้ท้องรถที่มากที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน นอกจากนั้นยังมาพร้อมระบบ AWD อัจฉริยะ ที่ถือว่านำมาใช้กับ Kicks เป็นครั้งแรก เพื่อให้ความมั่นใจกับลูกค้าในการขับขี่บนพื้นผิวถนนในสภาพต่างๆ โดยมีขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียง ความจุ 2.0 ลิตร บล็อคใหม่ ที่ให้พละกำลัง 141 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 190 นิวตันเมตร โดยขับเคลื่อนผ่านระบบส่งกำลัง Xtronic ที่มีการตอบสนองดีขึ้น
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดก็คือ รูปโฉมของ All-New Kicks ที่มาพร้อมดีไซน์ที่ดูดันบึกบึนกว่าเดิม มีความเป็นเหลี่ยมสันมากขึ้น ดังสะท้อนออกมาทางดีไซน์ด้านหน้าและหลัง ไฟท้ายเป็นแบบ full LED ภายในห้องโดยสารได้รับการออกแบบให้ดูทันสมัย มาพร้อมจอแสดงผลคู่ ทั้งจอแสดงผลระบบ infotainment และจอแสดงผลการขับขี่ ขนาด 12.3 นิ้ว โดยมีโหมดแสดงผล 2 แบบ และเป็นครั้งแรกของรุ่น Kicks ที่เบาะนั่งทั้ง 2 แถวเป็นแบบ Zero Gravity ของ Nissan ที่ช่วยกระจายน้ำหนักและแรงกดตลอดลำตัวที่สัมผัสกับเบาะ ทำให้นั่งโดยสารสบายมากขึ้น และลดอาการเหนื่อยล้า
มิติตัวถังโดยรวม ถือว่า All-New Kicks มีขนาดใหญ่กว่าเจนเนอเรชั่นก่อน ทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะในส่วนของพื้นที่จุสัมภาระ ขนาด 30 ลูกบาศก์ฟุต ขยายได้ถึง 60 ลูกบาศก์ฟุต เมื่อพับเบาะลง เพิ่มสุนทรียภาพในการโดยสารด้วยหลังคาซันรูฟไฟฟ้า ที่เปิดรับแรงมากขึ้น ให้ความรู้สึกถึงความโอ่โถงภายใน
Nissan Kicks ใหม่ ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัย Nissan Safety Shiled 360 เป็ยอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่นย่อย เพราะให้ความมั่นใจกับผู้ขับขี่มากกว่าเดิม โดยมีทั้งระบบช่วยเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติขณะถอย ระบบเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบแจ้งเตือนเมื่อเปลี่ยนเลน และระบบช่วยปรับไฟสูงอัตโนมัติ โดยในบางรุ่นย่อย จะมาพร้อมระบบ Cruise Control อัจฉริยะ ส่วนรุ่นสูงสุดจะมีระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติอัจฉริยะ ProPilot Assist และระบบกล้องมองรอบคันอัจฉริยะ 360 องศา มาให้ด้วย นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยีและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆเช่น การรองรับระบบปฏิบัติการ Apple Car Play และ Android Auto แบบไร้สาย เครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม Bose Personal Plus พร้อมลำโพง 10 จุด ช่อง USB C 4 จุด ระบบชาร์จไฟโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย
Nissan อเมริกาจะประกาศราคาจำหน่ายให้ทราบ ในช่วงที่จะเริ่มจำหน่าย ส่วนในเมืองไทยนั้น ด้วยการที่รถยนต์ไฟฟ้าจากจีน เข้ามาบุกตลาดรถยนต์นั่งอย่างหนักหน่วง ก็ต้องมาลุ้นกันว่า Nissan จะไปต่อกับ Kicks โฉมใหม่นี้ในเมืองไทยอีกหรือไม่ แต่อย่างน้อย คาดว่าจะยังเห็นรุ่น e-Power ที่ยังพอมีพื้นที่ยืนในตลาดได้บ้าง หากมีข้อเสนอที่น่าสนใจ เพราะยังมีลูกค้าบางกลุ่มที่ยังลังเลจะใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่อยู่ แต่ด้วยการถาโถมเข้ามา ของทางเลือกใหม่ๆมากมาย ในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่าย ก็คงไม่มีใครรับประกันได้ว่า ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า รถยนต์รุ่นเก่าๆที่มีจำหน่ายในเมืองไทย จะมีรุ่นใดบ้างที่ยังคงทำตลาดต่อไป นอกเสียจากว่า มีการอัพเกรดไปเป็นเวอร์ชั่นไฟฟ้าแบตเตอรี่ เพื่อให้เข้ากับความต้องการของตลาดและแนวโน้มของโลก Nissan Kicks ถือว่าเป็นรถยนต์อีกรุ่นหนึ่ง ที่น่าจับตาดูอนาคตกันต่อไป