ตลาดซีดานขนาดกลางของไทย กลับมาร้อนระอุในรอบหลายปีที่ผ่านมา หลังจากที่เคยเป็นตลาด ที่ไม่มีการแข่งขันที่หวือหวา จากตัวเลือกที่มีน้อย และความนิยมใช้รถซีดาน ก็มีแนวโน้มลดลง โดยเฉพาะตลาดซีดานขนาดกลางทั่วไป ที่ไม่ใช่รถหรูจากยุโรป ที่มีเพียง Toyota และ Honda เท่านั้น ที่เป็นทางเลือกสำหรับลูกค้าชาวไทย จนกระทั่งตลาดมีทางเลือกใหม่เข้ามา แม้ว่าอาจจะแตกต่าง ในด้านขุมพลังขับเคลื่อนก็ตาม นั่นก็คือ BYD Seal ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า รถยนต์ไฟฟ้าน้องใหม่รายนี้ กลายมาเป็นผู้เล่นสำคัญ ที่เข้ามาแย่งส่วนแบ่งในตลาดนี้ไปแล้ว ด้วยจุดขายในเรื่องของความสดใหม่ ทั้งดีไซน์ ระบบขับเคลื่อน และเทคโนโลยี ซึ่งน่าจะทำให้เจ้าตลาดทั้งสองราย หนักใจไม่น้อย หรือบางที อาจจะส่งผลไปถึงตลาดซีดานหรู อย่าง Mercedes-Benz และ BMW ก็เป็นไปได้ เพราะกระแสรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย มาแรงเกินคาด อย่างไรก็ตาม ซีดานขนาดกลางที่หลายคนรอคอย อย่าง All-New Toyota Camry เจนเนอเรชั่นที่ 9 ได้รับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลกแล้ววันนี้ โดยคาดว่า Toyota ประเทศไทย น่าจะร่นเวลาในการทำตลาดให้เร็วขึ้นกว่าเดิม เพราะคู่แข่งอย่าง Honda เพิ่งเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่ไปไม่นาน ในขณะที่ BYD Seal ก็กลายมาเป็นทางเลือกใหม่สำหรับลูกค้าชาวไทย ที่นิยมชมชอบในรถยนต์ไฟฟ้าเป็นทุนเดิม แต่ Camry โฉมใหม่ จะดีพอที่จะรักษาตลาดเอาไว้ได้หรือไม่ เราลองไปชมกัน
ไฮไลต์ของ All-New Toyota Camry เจนเนอเรชั่นใหม่ นอกจากจะเป็นเรื่องของการออกแบบใหม่ และเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่าเดิมแล้ว Toyota ยังแสดงเจตนาที่ชัดเจน ในการมุ่งหน้าไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ด้วยการนำเสนอขุมพลังที่มีเฉพาะระบบไฮบริดเท่านั้น โดยมีทั้งรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อน 4 ล้อ ระบบกันสะเทือนและระบบห้ามล้อ ได้รับการปรับปรุงใหม่ เพื่อการควบคุมการขับขี่ที่สมดุลย์มากขึ้น และนุ่มสบายกว่าเดิม โดย Camry โฉมใหม่ ได้รับการพัฒนา และจะถูกผลิตขึ้นเป็นล็อตแรก ที่โรงงานของบริษัทในสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะมีการทำตลาดทั่วโลกต่อไป
ในส่วนของระบบไฮบริดนั้น จะประกอบไปด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า โดยรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ให้กำลังสูงสุดรวม 225 แรงม้า ส่วนรุ่น All-Wheel Drive จะมีการเพิ่มมอเตอร์-เจนเนอเรเตอร์ตัวที่ 3 บริเวณเพลาหลัง เพื่อช่วยเพิ่มพละกำลังขึ้นไปเป็น 232 แรงม้า ทั้งสองขุมพลังทางเลือก จะจับคู่กับเกียร์แบบแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า eCVT โดยแบตเตอรี่ที่ใช้ จะเป็นแบบลิเธี่ยมไอออน แต่ Toyota ยังไม่เปิดเผยขนาดความจุของแบตเตอรี่ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม Camry เจนเนอเรชั่นใหม่ ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแบบทั้งคัน หรือ All-New เลยทีเดียว โดยยังใช้แพลตฟอร์เดิม คือ TNGA-K ที่ใช้กับ Camry เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน ที่ทำตลาดอยู่ในตอนนี้ ระบบกันสะเทือนได้รับการปรับปรุงใหม่ ด้วยโช้คอัพชุดใหม่ พร้อมมีการปรับแต่งช่วงล่างใหม่ ซึ่งจะช่วยให้การตอบสนองการขับขี่ดีขึ้น คมขึ้น
แม้ว่าจะเป็นการเปลี่ยนเจนเนอเรชั่น แต่ในเรื่องของการออกแบบ ยังมีบางส่วนที่ยังดูเหมือนเจนเนอเรชั่นที่ 8 ในส่วนของแผงกันชนหน้า สำหรับบางรุ่นย่อย โดยกรอบไฟหน้า ก็ยังคงรูปทรงคล้ายกับของเดิม เพียงแต่ใช้ลวดลายที่แตกต่างกันไป โดยรวมด้านหน้า ถือว่าเค้าโครงไม่ได้แตกต่างไปจากโฉมก่อนมากนัก โดยไฟหน้า ไฟเดย์ไทม์ และไฟท้ายแบบ LED จะเป็นมาตรฐานสำหรับ Camry ใหม่ ในขณะที่กรอบไฟท้าย กลับดูคล้าย Honda Accord โฉมก่อน All-New Camry มีสีใหม่ Ocean Gem และ Heavy Metal เป็นทางเลือกเพิ่มเข้ามา บางรุ่นย่อยที่จำหน่ายในอเมริกา คือรุ่น XSE จะมาพร้อมฝากระโปรงหลัง ที่มีแถบสีดำตกแต่งด้านท้าย หลังคาเป็นสีดำ Midnight Black Metallic ส่วนล้ออัลลอยเป็นขนาด 19 นิ้ว จากขนาดมาตรฐาน 18 นิ้ว
ภายในห้องโดยสาร จะมาพร้อมจอแสดงผลการขับขี่ดิจิตอล ขนาด 7.0 นิ้ว และจอแสดงผลกลางระบบ infotainment ขนาด 8.0 นิ้ว โดยในรุ่นย่อย XLE และ XSE จะเป็นจอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว รองรับระบบปฏิบัติการ Android Auto และ Apple Carplay แบบไร้สาย มาพร้อมแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สาย โดยในรุ่นบน จะมีระบบ Head-Up Display ขนาด 10.0 นิ้ว และเครื่องเสียง JBL พร้อมลำโพง 9 ตัวมาให้ด้วย สำหรับวัสดุบุภายใน จะมีหลากหลายตามรุ่นที่เลือก มีทั้งแบบผ้า หนังแท้ และหนังสังเคราะห์ที่เรียกว่า Softex โดยเบาะนั่งจะเป็นแบบระบายอากาศได้ พร้อมระบบทำความอุ่นสำหรับบางรุ่นย่อย นอกจากนั้นยังมาพร้อมบานกระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบพิเศษ ที่ลดเสียงรบกวนเข้าห้องโดยสาร
All-New Camry ใหม่ทุกรุ่นย่อย จะมาพร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense 3.0 ซึ่งประกอบไปด้วยระบบความปลอดภัยก่อนการชน ที่ช่วยตรวจจับยานพาหนะและคนเดินถนน ระบบ Adaptive Cruise Control ระบบเตือนออกนอกเลน ระบบควบคุมไฟสูงอัตโนมัติ ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร ระบบเตือนมุมอับสายตาด้านข้าง ระบบเตือนขณะถอยหลัง ระบบเตือนการเปลี่ยนเลน กล้องมองภาพรอบคัน ระบบช่วยจอดหน้าหลัง พร้อมระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ
ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่มีข้อมูลของรุ่น TRD ซึ่งนักข่าวได้สอบถามในเรื่องนี้กับ Toyota แต่ได้รับคำตอบว่า การประกาศเปิดตัวครั้งนี้ ได้ครอบคลุมรุ่นย่อยต่างๆ และทุกขุมพลังไปหมดแล้ว สำหรับการทำตลาดในปี 2025 แต่ก็ไม่ได้ปิดประตูสำหรับรุ่นย่อยอื่นๆในอนาคต นั่นหมายความว่า เราอาจจะไม่ได้เห็นรุ่นย่อย TRD อย่างน้อยก็ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า
ในอเมริกา Camry ถือว่าเป็นรถยนต์ที่ขายดีของแบรนด์ โดยในปี 2022 ที่ผ่านมา มียอดขายถึง 295,201 คัน เป็นรถยนต์ที่ขายดีที่สุดเป็นอันดับ 5 ในสหรัฐอเมริกา ส่วน Camry โฉมใหม่ จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาในช่วงฤดูใบไม้ผลิในปี 2024 ส่วนในไทยจะเป็นเมื่อไรนั้น ต้องติดตามกันต่อไป แต่ก็น่าจะหลังจากที่ทั้ง Honda Accord และ BYD Seal ทำตลาดไปได้พักใหญ่แล้ว