เปิดตัว-ราคา 2024 Mercedes-Benz EQE 350 4MATIC SUV AMG Line และ Electric Art

เมอร์เซเดส-เบนซ์์ ขยายไลน์อัพ EQE SUV ครบ 3 รุ่น รองรับกลุ่มลูกค้าอีวี ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมเผยไฮไลท์สุดพิเศษแบบจัดเต็ม ในงาน Mercedes-Benz StarFest 2023

เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ย้ำวิสัยทัศน์ด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ทยอยเติมไลน์อัพอีวีให้ครบทุกเซกเมนต์ภายในปี 2025 เดินหน้าแนะนำรุ่นย่อยจากตระกูล EQE SUV อีก 2 รุ่น ประกอบด้วยรุ่นเริ่มต้นอย่าง “EQE 350 4MATIC SUV Electric Art” และรุ่นกลาง “EQE 350 4MATIC SUV AMG Line” เปิดตัวครบ 3 รุ่นย่อย หลังเผยโฉม “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic” เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยลูกค้าทุกคนสามารถพบกับยนตรกรรมตระกูล EQE SUV และรถอีวีสมรรถนะสูงรุ่นแรกในประเทศไทย “Mercedes-AMG EQE 53 4MATIC+” รวมถึงยนตรกรรมอีกหลากรุ่น พร้อมรับดีลและข้อเสนอสุดพิเศษ ได้ที่งาน Mercedes-Benz StarFest 2023 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 – 22 ตุลาคม ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และวันที่ 26 – 29 ตุลาคม ที่งานบางกอก อีวี เอ็กซ์โป (Bangkok EV Expo 2023) ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

EQE 350 4MATIC SUV เป็นรถเอสยูวีพลังงานไฟฟ้า 100% ที่เปิดตัวในประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ รุ่นเริ่มต้น “EQE 350 4MATIC SUV Electric Art” รุ่นกลาง “EQE 350 4MATIC SUV AMG Line” และรุ่นท็อป “EQE 350 4MATIC SUV AMG Dynamic” มาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่แบบ PSM (Permanently Excited Synchronous Motors) ซึ่งมอเตอร์ไฟฟ้าจะถูกติดตั้งบริเวณเพลาขับหน้าและหลัง มอบกำลังแรงม้ารวมสูงสุด 292 แรงม้า แรงบิดรวมสูงสุด 765 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพียง 6.6 วินาที ติดตั้งแบตเตอรี่แรงดันสูง 396V แบบ Lithium-ion ที่มีความจุมากถึง 89 kWh ช่วยให้สามารถขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าได้ไกลกว่า 558 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP รองรับการชาร์จพลังงานไฟฟ้าแบบกระแสตรง (DC Charge) สูงสุด 170 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 10 – 80% เพียง 32 นาที ส่วนการชาร์จแบบกระแสสลับ (AC Charge) รองรับสูงสุด 11 kWh ใช้เวลาชาร์จจาก 0 – 100% ในระยะเวลา 9 ชั่วโมง 30 นาที

ในด้านดีไซน์ภายนอก EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ตกแต่งด้วยชุดแต่ง Electric Art Exterior Package ติดตั้งไฟหน้าแบบ LED High Performance headlamps ที่ให้คุณภาพแสงสีขาวนวลอย่างสม่ำเสมอ พร้อมระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ช่วงล่างมีการติดตั้งล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตแบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว ส่วนทางด้าน EQE 350 4MATIC SUV AMG Line ตกแต่งด้วยชุดแต่ง AMG Exterior Package มอบทัศนวิสัยขั้นสูงสุดให้แก่ผู้ขับขี่ด้วยไฟหน้า DIGITAL LIGHT ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 1.3 ล้านพิกเซลต่อ 1 โคมหลอด พร้อม Adaptive Highbeam Assist Plus ส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร และติดตั้งล้ออัลลอยด์ดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 5 ก้าน ขนาด 20 นิ้ว โดยทั้งสองรุ่นนี้มาพร้อมช่วงล่างแบบ Comfort suspension ช่วยให้การขับขี่เป็นไปอย่างนุ่มนวล พร้อมระบบเปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติโดยไม่ต้องใช้มือ (HANDS-FREE ACCESS) ระบบกุญแจแบบ KEYLESS-GO และมือจับประตูแบบไร้รอยต่อ (Seamless door handles)

ภายในห้องโดยสารของ EQE 350 4MATIC SUV Electric Art มีการตกแต่งที่โดดเด่นแบบ Electric Art interior วัสดุตกแต่งแบบ Laser-cut backlit trim with Mercedes-Benz pattern สะดวกสบายด้วยเบาะนั่ง Comfort Seats และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง พร้อมหน้าจอแสดงผลบริเวณคอนโซลกลางแบบ OLED ขนาด 12.8 นิ้ว และหน้าจอสำหรับผู้ขับขี่ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนทางด้าน EQE 350 4MATIC SUV AMG Line จะตกแต่งภายในห้องโดยสารแบบ AMG interior ติดตั้งเบาะนั่งแบบ Sport Seats และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบสปอร์ตหุ้มหนัง Nappa มาพร้อมหน้าจอ MBUX Hyperscreen ที่มีขนาดหน้าจอรวม 56 นิ้ว สามารถแสดงผลได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น โดยแบ่งหน้าจอการใช้งานเป็น 3 หน้าจอหลัก ได้แก่ Driver display 12.3 นิ้ว หน้าจอ Central Display 17.7 นิ้ว และหน้าจอ Co-driver display 12.3 นิ้ว ทั้งสองรุ่น มอบความสะดวกสบาย และติดตั้งระบบการสื่อสารต่างๆมากมาย อาทิ ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (Apple Carplay™ & Android Auto™) พร้อมอุปกรณ์สื่อสารด้วยสัญญาณ 5G สำหรับบริการ Mercedes me connect ระบบแผนที่นำทางแบบ Hard-disc navigation พร้อมแผนที่แบบ 3 มิติ ระบบตรวจสอบสภาพการจราจรแบบ Live Traffic Information ในทุกเส้นทาง ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC และระบบชาร์จแบบไร้สาย (Wireless charging) บริเวณที่นั่งด้านหน้า นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งไฟล้อมรอบห้องโดยสาร Ambient light กว่า 64 เฉดสี ที่จะช่วยเพิ่มสุนทรียภาพให้แก่ผู้ขับขี่และผู้โดยสารให้น่าประทับใจไปอีกขั้น

EQE 350 4MATIC SUV มาพร้อมโหมดการขับขี่ DYNAMIC SELECT ให้ผู้ขับขี่สามารถเลือกใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ECO, COMFORT, SPORT และ INDIVIDUAL นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่แบบ OFFROAD ที่ทำงานร่วมกับหน้าจอแสดงผลเพื่อการขับขี่ off-road แบบ MBUX off-road screen และหน้าจอ instrument cluster แบบ Context (mode) “off-road” ที่สามารถรายงานทุกข้อมูลภายนอกตัวรถได้อย่างครบถ้วน โดยรุ่นกลางอย่าง EQE 350 4MATIC SUV AMG Line จะมาพร้อม Transparent bonnet ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพจริงในจุดอับสายตาบริเวณหน้ารถ เปรียบเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวตลอดการขับขี่

นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยอื่นๆ ในรถยนต์ทั้งสองรุ่นอย่างครบครันตามมาตรฐานของเมอร์เซเดส-เบนซ์ อาทิ ระบบช่วยเหลืออัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โปรแกรมควบคุมการทรงตัวอัตโนมัติ ESP® (Electric Stability Program) ระบบเบรก ADAPTIVE BRAKE พร้อมฟังก์ชัน HOLD-Start Assist ระบบช่วยเตือนอาการเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (ATTENTION ASSIST) ระบบช่วยรักษารถให้อยู่ในช่องจราจร ระบบรักษาระยะห่างจากรถด้านหน้าและควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® system ฯลฯ

สำหรับราคาจำหน่ายรถยนต์ทั้งสองรุ่น มีดังต่อไปนี้

รุ่น EQE 350 4MATIC SUV Electric Art ราคา 4,850,000 บาท โดยมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) และสีเทา (Selenite Grey)

รุ่น EQE 350 4MATIC SUV AMG Line ราคา 5,300,000 บาท โดยมีสีตัวถังให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีขาว (Polar White) สีดำ (Obsidian Black) สีเทา (Selenite Grey) สีเงิน (High-tech Silver) และสีเขียว (Emerald Green)

*พิเศษ รับดอกเบี้ย 0% นาน 4 ปี สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์รุ่น GLA 200 AMG Dynamic, E 300 e AMG Dynamic, CLS 220 d AMG Premium และ Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ ในงาน Mercedes-Benz StarFest 2023

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมรวมถึงข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ได้ที่ผู้จำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ หรือที่เว็บไซต์ https://www.mercedes-benz.co.th และช่องทางโซเชียลมีเดียของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทุกแพลตฟอร์ม