เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ววันนี้ ที่ประเทศอินโดนีเซีย สำหรับรถเอสยูวีขนาดเล็กรุ่นใหม่ จาก Mitsubishi ในชื่อรุ่นว่า XForce หลังจากที่ได้เผยโฉมไปล่วงหน้าเมื่อวันก่อน พร้อมคุณสมบัติทางด้านเทคนิคเบื้องต้น โดยรถเอสยูวีขนาด 5 ที่นั่งรุ่นนี้ จะมีการทำตลาดในเมืองไทย ในต้นปีหน้า 2024
Mitsubishi XForce มาพร้อมการออกแบบที่ดูล้ำยุค ภายใต้คอนเซปต์ Silky & Solid แต่ยังอยู่ภายใต้ปรัชญาการออกแบบ Dynamic Shield อันเป็นเอกลักษณ์ของ Mitsubishi โดยเน้นให้เห็นถึงความแข็งแกร่งดุดันในแบบรถเอสยูวี ไฟหน้ารูปตัว T ได้สร้างอัตลักษณ์ให้กับ XForce การออกแบบด้านหน้า จะพบว่าทั้งแผงกระจัง ชุดไฟหน้า และฝากระโปรง ถูกออกแบบให้สอดรับกันอย่าลื่นไหล ที่ยังให้ความรู้สึกที่ไม่แข็งกร้าวจนเกินไปในสไตล์รถยนต์นั่ง เส้นสายด้านข้างดูมีมิติที่ซับซ้อน เน้นให้เห็นมัดกล้ามบนคิ้วซุ้มทั้งสอง และกาบชายล่างที่โป่งนูนขึ้นมาอย่างชัดเจน คิ้วซุ้มล้อเป็นสีดำด้านดูสปอร์ต ล้ออัลลอยสีทูโทนเป็นขนาด 18 นิ้ว หุ้มด้วยยางขนาด 225/50R18 ระยะจากพื้นถึงใต้ท้องรถ ถือว่ามากที่สุดรุ่นหนึ่งในคลาส คืออยู่ที่ 222 มิลลิเมตร
การออกแบบชายล่างข้างประตู ไม่ได้คำนึงถึงความสวยงามในแบบสปอร์ตเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันสิ่งต่างๆที่อาจจะกระเด็นขึ้นมาจากพื้นถนนได้ด้วย บั้นท้ายถูกออกแบบให้ล้อไปกับด้านหน้าที่ดูล้ำสมัย โดยเฉพาะดีไซน์ไฟท้ายรูปตัว T ที่แทบจะถูกถอดแบบมาจากไฟหน้า ซึ่งเมื่อมีการเปิดไฟส่องสว่างขึ้นมา ความเป็นตัวตนของ X-Force ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น รวมไปถึงความโดดเด่นบนท้องถนนด้วยเช่นกัน สปอยเลอร์หลังคาและไฟ stop ช่วยเพิ่มความสปอร์ตให้กับตัวรถ อย่างไรก็ตาม พื้นที่ส่วนใหญ่ของบั้นท้าย ดูเรียบง่ายสไตล์ minimalist ช่วยทำให้รถไม่ดูแข็งกระด้างจนเกินไป และส่งผลทำให้ Logo ของ Mitsubishi ดูเด่นชัดขึ้นมามากกว่าปกติ และหากสังเกตดูดีๆจะพบว่า พื้นที่ส่วนกึ่งกลาง ที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมคางหมู มีเค้าโครงในแบบเดียวกันกับแผงกระจังหน้ารถ
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Mitsubishi X-Force อย่างหนึ่งก็คือฝาประตูท้ายไฟฟ้า ที่สั่งเปิดได้ด้วยเซนเซอร์เท้า พื้นที่จุสัมภาระกว้างขวางเมื่อเทียบกับขนาดที่ไม่ใหญ่มากของตัวรถ โดนสามารถแยกพับลง ในอัตราส่วน 40:20:40 พื้นด้านใต้ เป็นที่เก็บของล้อและยางอะไหล่ และอุปกรณ์ช่างบางอย่าง
Mitsubishi XForce ยังมาพร้อมแนวคิดที่เรียกว่า Full Force ที่ไม่ถูกจำกัดในเรื่องของการออกแบบเท่านั้น แต่ยังรวมถึงฟังค์ชั่นการใช้งานต่างๆอีกด้วย ที่สามารถค้นหาได้จากห้องโดยสารภายใน เริ่มจากจอแสดงผลการขับขี่ขนาด 8 นิ้ว ที่ถูกเชื่อมโยงเข้ากับจอแสดงผลกลางระบบอินโฟเทนเมนต์ Smartphone-link Display Audio หรือ SDA ขนาด 12.3 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนตามชื่อ ห้องโดยสารมาพร้อมการตกแต่งด้วยวัสดุสีทูโทนดำ-ขาว ที่ออกไปทางสีครีมมากกว่า ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ภายในดูเท่และทันสมัย ระบบปรับอากาศเป็นแบบ Dual Zone มีปุ่มปรับอุณหภูมิขึ้นลงแบบ manual ด้านซ้ายและขวา พร้อมระบบบันทึกช่วยจดจำ หัวเกียร์จับกระชับมือ ควบคุมได้ง่าย โดยมีปุ่ม start stop อยู่ใกล้กับฐานเกียร์ นอกจากนั้นยังมีปุ่มเบรคมือไฟฟ้าให้มาด้วย และไฮไลต์ของรถยนต์รุ่นนี้ก็คือโหมดการขับขี่ ที่ทำให้มันเป็นรถเอสยูวีอย่างแท้จริง โดยมีทั้งหมด 4 โหมดการขับขี่ คือ Normal Wet Gravel และ Mud ซึ่งเป็นครั้งแรกของ Mitsubishi ที่มีการนำเอาโหมด Wet มาใช้อีกด้วย ซึ่งจะตอบดจทย์กลุ่มลูกค้าในอาเซียนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการขับขี่ในช่วงหน้าฝน ที่มีน้ำท่วมขังบนถนนอยู่เสมอ ซึ่งการใช้งานในสถานการณ์นี้ ทำให้มีการออกแบบชิ้นส่วนเครื่องยนต์ให้รองรับสภาพการณ์ที่มีน้ำท่วมได้ดีอีกด้วย นอกจากจอแสดงผลกลางที่มีขนาดใหญ่ถึง 12.3 นิ้วแล้ว ระบบเสียงของ X-Force ก็อยู่ในระดับพรีเมี่ยมตามไปด้วย ด้วยความร่วมมือกับ Yamaha ที่มีการติดตั้งเครื่องเสียงและลำโพงระดับพรี่เมี่ยมในจุดต่างๆทั้งบริเวณเสา A ด้านหน้าทั้งสองข้าง ประตูหน้า และประตูหลัง คุณภาพและความดังของเสียงจะปรับไปตามความเร็วของรถ ระบบเครื่องเสียงสามารถปรับได้ตามรสนิยมทางดนตรีถึง 4 แบบด้วยกัน ได้แก่ Lively (ที่มีการตั้งค่ามาจากโรงงาน), Signature, Powerful และ Relaxing ช่วยสร้างสุนทรียภาพในการขับขี่ให้อยู่ในระดับสูงสุด และเพื่อให้รองรับการใช้งานในยุคดิจิตอล X-Force ยังมีช่อง USB คู่ คือทั้ง Type-A และ Type-C ใต้ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ภายใน ซึ่งมีแท่นชาร์จโทรศัพท์มือถือแบบไร้สายอยู่ใกล้กัน พวงมาลัยเป็นแบบ 3 ก้าน ดูคล้ายกับที่ใช้ในรุ่น Lancer EVO 10 แต่มีความทันสมัยมากขึ้น
สำหรับพื้นฐานผู้โดยสารด้านหลัง ถือว่ากว้างขวางพอสมควร โดยพิธีกรเองมีความสูงเกือบ 180 เซนติเมตร แต่ก็สามารถเข้ามานั่งได้โดยไม่อึดอัดและมีพื้นที่ช่วงขาอยู่พอสมควร มีที่วางแขนตรงกลาง เบาะปรับเอนไปทางด้านหลังได้ 8 ระดับ ซึ่งความกว้างขวางของพื้นที่โดยสารด้านหลัง ถือว่าเป็นจุดขายของ XForce เบาะนั่งยังเป็นแบบป้องกันการเพิ่มสูงของอุณหภูมิ ไม่ให้พื้นผิวของเบาะร้อนจนเกินไป ในกรณีที่ต้องจอดรถกลางแจ้งที่มีแดดร้อน พื้นที่เหนือศีรษะ พื้นที่ช่วงไหล่ ถืมีอยู่เหลือเฟือ ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด ที่พักแขนกว้างสบาย พื้นที่โดยสารด้านหลังก็กว้างขวาง ถือว่าสะดวกสบายสำหรับการรองรับผู้โดยสารจำนวน 5 คน
ขุมพลังของ Mitsubishi XForce เป็นเครื่องยนต์เบนซิน MIVEC ความจุ 1.5 ลิตร DOHC 16 วาล์ว 4 สูบ แถวเรียง ให้กำลังสูงสุด 103 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อน 2 ล้อ จับคู่กับเกียร์ CVT ประสิทธิภาพสูง
ตัวรถมีความยาว 4,390 มม กว้าง 1,810 มม สูง 1,660 มม ฐานล้อยาว 2,650 มม รัศมีวงเลี้ยวอยู่ที่ 5.2 เมตร ระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแบบ MacPherson strut ด้านหลังเป็น Torsion Beam ระบบห้ามล้อเป็นดิสก์เบรคทั้ง 4 ล้อ
Mitsubishi XForce ใหม่ ถูกออกแบบมาเพื่อเจาะตลาด ASEAN เป็นหลัก แต่ก็มีแผนในการทำตลาดในเอเชียใต้ ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และแอฟริกา ซึ่งในเมืองไทยเอง มีกำหนดการเปิดตัวในต้นปีหน้า 2024