แม้ว่าในเมืองไทย รถยนต์ใช้น้ำมันขนาดเล็ก กำลังถูกตีโอบด้วยทางเลือกใหม่ ที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด Wuling Air EV ก็ได้เข้ามาบุกตลาดในเมืองไทยอย่างเต็มตัว ด้วยราคาราว 4 แสนบาท ที่แม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่ารถยนต์ทั่วไป แต่ถือว่าเป็นทางเลือก ที่อาจจะชิงส่วนแบ่งจากตลาดอีโคคาร์ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย นั่นทำให้ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น จำเป็นจะต้องสร้างข้อได้เปรียบ หากยังต้องการมีพื้นที่ยืนในตลาดอยู่ ทำให้เรามักจะเห็นการเปิดตัวเวอร์ชั่นไฮบริด ในรถยนต์รุ่นใหม่ ซึ่งรวมถึง Suzuki Swift เจนเนอเรชั่นต่อไปด้วย
ล่าสุด เว็บไซต์ยานยนต์ชื่อดังของญี่ปุ่น bestcar ได้รายงานข่าว การเตรียมเปิดตัว Suzuki Swift เจนเนอเรชั่นใหม่ ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ที่จะมีทางเลือก เป็นเวอร์ชั่นไฮบริดให้ด้วย ส่วนรุ่นพิเศษอย่าง Swift Sport คาดว่าจะมีการเปิดตัวภายในครึ่งแรกของปีหน้า 2024 โดย Swift ไฮบริด จะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ความจุ 1.2 ลิตร มาพร้อมระบบมายด์ไฮบริด ซึ่งเครื่องยนต์ดังกล่าว อาจจะเป็นรุ่นที่ใช้ในการทำตลาดยุโรปมาก่อน อย่างไรก็ตาม บางตลาดอย่างออสเตรเลีย อาจจะมีการเปลี่ยนเครื่องยนต์ตามความเหมาะสม โดยเฉพาะในเรี่องของข้อกำหนดทางด้านมลพิษ
Suzuki จะทำการเปิดตัวรุ่นพิเศษอย่าง Swift Sort ตามออกมา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้น ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 โดยจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 1.4 ลิตร มาพร้อมระบบมายด์ไฮบริดด้วยเช่นกัน โดยคาดว่า รุ่นที่ทำตลาดในประเทศญี่ปุ่น จะใช้เครื่องยนต์บล็อกเดียวกันกับที่มีใช้ในยุโรป ที่เป็นรหัส K14C แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ และเน้นในเรื่องของการปล่อยมลพิษที่ต่ำ
ในด้านการออกแบบ จากภาพ spy shot ที่มีหลุดออกมาให้เห็นกันแล้ว จะพบว่า รูปร่างทรวดทรงของ Swift เจนเนอเรชั่นใหม่ ยังคงเค้าโครงเดิม ที่เป็นเอกลักษณ์เอาไว้
ยังมีข่าวลือ ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันอีกว่า Suzuki Swift โฉมใหม่ จะมีการเปิดตัวในเดือนตุลาคม ปี 2023 นี้ ส่วนรุ่น Swift Sport จะมีการเปิดตัวในเดือนมิถุนายน ปี 2024 อย่างที่ได้เกริ่นไปในตอนต้น การเข้ามาบุกตลาดของรถยนต์ไฟฟ้าในเมืองไทย ที่ได้รับการตอบรับจากคนไทยอย่างที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน จนถึงกับทำให้จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในเมืองไทย มีมากกว่าครึ่่งหนึ่งของตลาดในอาเซียน ทำให้ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น ต้องสูญเสียตลาดไปแบบไม่ทันตั้งตัว นั่นทำให้แต่ละค่ายรถยนต์ จำเป็นจะต้องงัดเอาเทคโนโลยีล่าสุดที่ตัวเองมีอยู่ เช่น ระบบไฮบริด ออกมาทำตลาดให้ได้เร็วที่สุด ก่อนที่เทคโนโลยีเหล่านี้ อาจจะถูกมองว่าล้าสมัยเกินไป เพราะตอนนี้ก็ถือว่าตามหลังเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าไปแล้ว นั่นหมายความว่า การมีทางเลือกที่เป็นระบบไฮบริดอาจจะไม่เพียงพอ ราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น อ็อปชั่นที่ให้มากกว่า จึงอาจจะเป็นกลยุทธ์เสริมที่อาจจะต้องทำควบคู่กันไปด้วย ก่อนที่ทุกอย่างอาจจะสายเกินไป ตราบใดที่ค่ายรถยนต์แต่ละค่าย ยังไม่มีทางเลือกที่เป็นรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับลูกค้าในตลาด