Toyota ยังเดินหน้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่พัฒนาต่อยอดมาจากเทคโนโลยีที่ตัวเองมีอยู่ และได้เปรียบคู่แข่ง หนึ่งในเทคโนโลยีที่ว่า ก็คือ ระบบไฮบริด จะบอกว่าเป็นการยืดอายุการทำตลาดเทคโนโลยีไฮบริดก็ไม่ผิดนัก เพราะความนิยมที่สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ของรถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลกระทบกับรถยนต์ใช้น้ำมันอย่างชัดเจน อีกทั้งก็ยังเป็นเซกเมนต์ ที่ค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่น ยากที่จะตามทันคู่แข่งจากจีน อย่างน้อยก็ในช่วงนี้ ในปัจจุบัน รถยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลก ถึง 14% ไปแล้ว ในปี 2022 ที่ผ่านมา โดยมีการคาดการณ์จากหน่วยงานพลังงานสากล หรือ IEA ว่าในปี 2023 นี้ ส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า จะขยับขึ้นไปเป็น 18% หรือราว 14 ล้านคันทั่วโลก ในขณะที่ Toyota ยังไม่มีวี่แววของการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นที่เป็นกระแสหลักจริงๆ เพราะ b4ZX ที่เป็นรุ่นเรือธง ก็ยังลุ่มๆดอนๆจากปัญหาทางด้านเทคนิค ตามที่เป็นข่าวไปแล้ว การเพิ่มลูกเล่นให้กับระบบไฮบริด จึงอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้บางตลาด เคลื่อนตัวไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าช้าขึ้น ก็เป็นไปได้
ล่าสุด The Drive สื่อยานยนต์รายหนึ่ง ได้รายงานว่า ได้พบสิทธิบัตรที่ขึ้นทะเบียนโดย Toyota ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2021 แต่เพิ่งมีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ เกี่ยวกับเทคโนโลยีระบบเกียร์ธรรมดา สำหรับใช้งานกับรถยนต์ไฮบริดโดยเฉพาะ ที่แผ่นคลัทช์ สามารถควบคุมได้โดยคนขับโดยตรง หรือทำงานอัตโนมัติด้วยระบบคอมพิวเตอร์ หรือกล่อง ECU โดยเครื่องยนต์ จะทำการส่งหรือตัดกำลัง ไปยังล้อหลัง ผ่านระบบทำงานของคลัทช์ ส่งผลทำให้มอเตอร์ไฟฟ้า ทำการขับเคลื่อนล้อแทน เป็นการช่วยลดการขับเคลื่อนที่ทำโดยเครื่องยนต์เบนซิน
ระบบเกียร์ธรรมดาสำหรับรถยนต์ไฮบริดนี้ จะประกอบไปด้วย shuttle valve ที่มาพร้อมปั้มคลัทช์หลายตัว โดยจะมีการเชื่อมต่อไปยังแป้นเหยียบคลัทช์ และกล่อง ECU ทำให้ผู้ขับ สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ตามความต้องการ เหมือนการใช้เกียร์ธรรมดาทั่วไป ในขณะที่คลัทช์ ที่เชื่อมต่อกับกล่อง ECU จะช่วยให้รถ สามารถเปลี่ยนการทำงานไปมา ระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าได้ คอมพิวเตอร์จะเข้ามาทำงานและกดแป้นคลัทช์ เมื่อรถกำลังจะหยุดนิ่ง หรือเมื่อรถกำลังจะออกตัว เพื่อให้มอเตอร์ไฟฟ้าเข้ามาทำงานต่อ เมื่อจำเป็นจะต้องใช้งาน
และแทนที่จะใช้ระบบ drive-by-wire ในการควบคุมคลัทช์ ระบบใหม่นี้ จะทำการส่งสัญญาณไฟฟ้า ไปควบคุมหัวขับหรือ Actuator ที่มีแม่ปั้มคลัช์ และปั้มรองอีก 2 ตัวช่วยทำงาน โดยปั้มตัวหนึ่ง ถูกควบคุมโดยคอมพิวเจอร์ ส่วนอีกตัวหนึ่ง ควบคุมโดยคนขับ ซึ่งระบบนี้ จะทำให้ผู้ขับขี่ สามารถใช้คลัทช์ได้ตลอดเวลา ตามที่ต้องการ แม้ว่าคอมพิวเตอร์หรือกล่อง ECU จะยังทำงานในส่วนนั้นอยู่ก็ตาม
ในภาพประกอบการจดสิทธิบัตร Toyota ได้ใช้ภาพร่างของ Supra โฉมเก่า เป็นส่วนประกอบในการอธิบาย เพื่อให้ทราบถึงตำแหน่งในการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ นั่นทำให้พอจะเดาได้ไม่ยากว่า ระบบดังกล่าว จะถูกนำมาใช้กับรถสปอร์ตของ Toyota เพื่อคงอรรถรสในการขับขี่ และเป็นไปได้ด้วยว่า จะมีการนำเอาระบบนี้ มาใช้กับรถยนต์เพื่อการพานิชย์ เช่น รถกระบะปิกอัพอย่าง Hilux ที่ดูเหมือนน่าจะตอบโจทย์คนที่ยังไม่มั่นใจกับสมรรถนะของรถกระบะไฟฟ้า ในบางสถานการณ์ รวมถึงกลุ่มลูกค้ากระบะซิ่ง ที่ยังต้องการความสนุกในการขับขี่ และนั่นอาจจะทำให้รถกระบะไฮบริดของ Toyota ดูน่าสนใจมากขึ้น และตอบโจทย์หลายคน ที่กำลังสงสัย หรือลังเลในเรื่องสมรรถนะของรถกระบะไฮบริดอยู่