เมื่อพูดถึงตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ในบรรดาค่ายรถยนต์ระดับโลก Toyota ดูเหมือนจะมีท่าที ที่ดูสับสนมากที่สุด เพราะหลังจากที่มีการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบ และเปิดเผยแผนงานในการทำตลาดของบริษัท แต่ผู้บริหารของ Toyota ก็มักจะออกมาพูดถึงข้อเสียของรถยนต์ประเภทนี้ อยู่เป็นระยะ ซึ่งนี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่ง ที่เรายังไม่เห็นรถยนต์ไฟฟ้าของ Toyota ในตลาด แถมล่าสุด อีวีรุ่นเรือธง อย่าง bZ4X ก็กำลังประสบกับปัญหาทางเทคนิค ที่ยังหาทางออกไม่ได้ นั่นจึงทำให้เกิดอีกมุมมองหนึ่งจากคนภายนอก ที่ว่า การที่ Toyota แสดงท่าทีที่ไม่สนับสนุน การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า มากเท่าที่ควรจะเป็น ก็เพราะบริษัท ยังไม่พร้อมที่จะแข่งขันในตลาดนี้ จากการออกตัวที่ช้าเกินไป และการที่ยังมีรถยนต์ใช้น้ำมัน และรถยนต์ไฮบริดในสต้อก และมีแผนการผลิตอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ Toyota ทำได้ดีกว่าคู่แข่งในตลาดมานานหลายสิบปี การกระโจนเข้าไปในตลาดใหม่ ที่ตัวเองไม่ได้อยู่ในสถานะที่เหนือกว่าคู่แข่ง และทิ้งขุมทรัพย์อันมหาศาล ที่สร้างสมมานานหลายสิบปี จึงเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ อย่างน้อยก็ในช่วงเวลานี้
ล่าสุด ผู้บริหารของ Toyota ได้ออกมาแสดงท่าทีดังกล่าวอีกครั้ง และถือว่าสร้างความประหลาดใจได้ไม่น้อย เพราะคำให้สัมภาษณ์ล่าสุด ดูจะตรงกันข้ามกับท่าที ในการแถลงข่าวเปิดตัวรถไฟฟ้าต้นแบบที่ผ่านมา เมื่อสื่อยานยนต์อย่าง CarBuzz ได้เผยแพร่คำให้สัมภาษณ์ของ Mike Sweers หัวหน้าทีมวิศวกรระดับบริหาร ของ Toyota Motor อเมริกาเหนือ ที่รับผิดชอบในการออกแบบ และพัฒนารถยนต์รุ่นสำคัญ อย่าง Tundra Sequoia Tacoma และ 4Runner ที่ว่า Toyota ไม่ต้องการที่จะเข้าไปสู่ตลาดรถกระบะไฟฟ้า เป็นรายแรกๆ หากพบว่า ยังไม่มีความต้องการของตลาดที่แท้จริง โดย Sweers ยอมรับว่า ยังไม่สามารถยืนยันแผนงานในอนาคต เกี่ยวรถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้ได้ แม้ว่าในปลายปี 2021 Akio Toyoda CEO ของ Toyota ได้แถลงข่าว เกี่ยวกับแนวทางการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท และยืนยันว่า รถยนต์สำหรับตลาดองค์กรทุกรุ่น จะมีเวอร์ชั่นไฟฟ้า ภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งในงานเดียวกัน ก็มีการจัดแสดงรถยนต์ไฟฟ้าต้นแบบหลายรุ่น รวมถึงรถกระบะปิกอัพไฟฟ้าด้วยเช่นกัน ซึ่ง Sweers กลับแสดงความคิดเห็นว่า แผนงานที่แถลงออกไป ไม่ได้บังคับใช้กับการจำหน่ายรถยนต์ทั่วไป ที่จำหน่ายผ่านทางตัวแทน ซึ่งบริษัทต้องหาจุดสมดุลย์ที่เหมาะสม ในการทำตลาดระหว่างรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์ใช้น้ำมัน ไม่ว่ารถยนต์ไฟฟ้าที่ว่า จะเป็นรถยนต์แบบ PHEV หรือ Plug-In Hybrid รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ รถยนต์พลัง Fuel Cell หรือแม้แต่รถยนต์ไฮบริดแบบดั้งเดิม ซึ่งบริษัท จะต้องนำเสนอรูปแบบที่เหมาะสม กับความต้องการของลูกค้า เพราะไม่มีข้อเสนอใดเพียงรูปแบบเดียว ที่ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด
จากการประชาสัมพันธ์ และสนับสนุนให้ใช้รถยนต์พลังงานสะอาด และกฏระเบียบของแต่ละประเทศ ที่ต้องการให้ประชาชน หันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตรถยนต์บางราย อาจจะลืมที่จะนึกถึงความต้องการของลูกค้าจริงๆ ว่าต้องการใช้รถยนต์ประเภทที่ว่าหรือไม่ ในขณะที่ Toyota ต้องการคงไว้ซึ่งทางเลือกที่หลากหลาย และนำเสนอในสิ่งที่ตลาดต้องการ มากกว่าที่จะยัดเยียดทางเลือกที่มี ให้กับลูกค้า
กลับมาสู่ประเด็นหลักที่ว่า ทำไม Toyota มองว่า รถกระบะปิกอัพไฟฟ้า อาจจะยังไม่ตอบโจทย์ของลูกค้าในปัจจุบัน ซึ่ง Sweers ยอมรับว่า ยังมีอุปสรรคในการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าอยู่หลายประการ ซึ่งเมื่อมองไปในอนาคต ปัญหาที่ใหญ่ที่สุด ก็คือโครงสร้างพื้นฐาน โดยทีมวิศวกรของ Toyota ได้ทดลองขับทั้ง Hummer EV Ford F-150 Lightning หรือแม้แต่ Tesla บางรุ่น ที่ไม่ใช่ Cybertruck และได้ประเมินผลการขับทดสอบดังกล่าวออกมาว่า มอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ในการขับเคลื่อน เป็นเสมือนสวิทช์ปิดเปิด ซึ่งอาจจะให้ความรู้สึกสนุกในตอนแรก แต่หากมีการใช้งานที่หนักกว่านั้น เช่นงานลากจูงหนัก จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ จะลากสัมภาระ ไปได้ไกลแค่ไหน และจะมีสถานีชาร์จไฟ เพียงพอหรือไม่ ซึ่งทำให้บริษัท ได้คำถามรวบยอดออกมาที่ว่า รถกระบะไฟฟ้า จะสามารถตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการ ได้จริงหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวของ Sweers ก็ใช้งานรถยนต์ Toyota รุ่น Land Cruiser 70 เครื่องยนต์ดีเซล และ Tundra โฉมใหม่อยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเขาได้เผยว่า คุณสามารถบรรทุกน้ำมันขนาด 10 แกลลอน ไปเป็นเชื้อเพลิงสำรองได้ หากต้องเข้าไปในพื้นที่ๆทุรกันดาร ไม่มีสถานีเติมน้ำมัน แต่หากคุณใช้รถยนต์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่หมด คุณจะแก้ไขปัญหานี้อย่างไร ในเมื่อไม่มีทั้งแบตเตอรี่สำรอง หรือสถานีชาร์จไฟฟ้า เหล่านี้คือปํญหาต่างๆ ที่ต้องมีคำตอบ ซึ่งจะแตกต่างจากกรณีของการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าในเมือง ที่คุณขับไปกลับระหว่างบ้านและที่ทำงาน ซึ่งไม่มีปัญหาในการชาร์จไฟแต่อย่างใด
Sweers เสริมว่า ทั้งหมดมันเป็นเรื่องของความต้องการของลูกค้า บริษัทมีทางเลือกมากมายหลายแบบอยู่ในมือ แต่เราไม่ต้องการนำเสนอ ในสิ่งที่ลูกค้าอาจจะผิดหวังในภายหลังได้ ซึ่งรถยนต์ไฟฟ้า มักจะเป็นทางเลือกของคนที่ต้องการประหยัดน้ำมันเป็นหลัก และคนที่ซื้อรถกระบะส่วนใหม่ มักไม่ได้จัดลำดับความสำคัญในเรื่องนี้ พวกเขาจะสนใจ แต่เรื่องของการประหยัดน้ำมันเท่านั้น แต่ไม่ค่อยจะสนใจว่า รถจะมีสมรรถนะ ในระดับที่เทียบเท่า กับที่พวกเขาคาดหวังไว้หรือไม่ และยังมีปัญหาของมาตรฐานในการชาร์จไฟ และสถานีชาร์จไฟที่แตกต่างกันไปอีก ซึ่ง Sweers ย้ำว่า ผู้ให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า จะต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าเดิม ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ให้ได้มาตรฐานเดียวกัน ก่อนที่รถยนต์ไฟฟ้า จะมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายในอนาคต
Toyota ต้องการการนำเสนอทางเลือกที่เกินความหวังของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคุณภาพ ความคงทน ความน่าเชื่อถือ ความประหยัดน้ำมัน หรือแม้แต่ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของรถ โดย Sweers ปิดท้ายว่า ผมเชื่อว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีตลาดของมันอยู่ แต่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน ก็มีตลาดของมันอยู่เช่นกัน
งานนี้ดูเหมือนว่า Toyota น่าจะพยายาม นำเสนอรถยนต์ใช้น้ำมันไปอีกนานที่สุด เท่าที่บริษัทจะทำได้ จนกว่ารถยนต์หรือรถกระบะไฟฟ้า จะได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นั่นจึงมีนัยยะว่า Toyota Hilux EV อาจจะต้องใช้เวลาอีกนานหลายปี กว่าที่เราจะได้เห็น หรือคงต้องรอให้มีการเปิดตลาดนี้ โดยคู่แข่งรายอื่น ไปได้สักระยะหนึ่งก่อนเท่านั้น Toyota ถึงจะเริ่มส่งรถกระบะไฟฟ้า เข้ามาแข่งขันในตลาด
[yourchannel video=”1R2pDBwqPks” autoplay=”1″ show_comments=”1″]