เรียกว่าเจอมรสุมหนักมานานหลายปี จนต้องปรับทัพใหญ่ไปหลายครั้ง แต่ก็ไม่เพียงพอ ที่จะทำให้ Nissan ทำผลงานได้ดีเท่าที่ควร นั่นจึงเป็นที่มาของการตัดสินใจ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด เพื่อทำตลาดในแต่ละประเทศ ในเมืองไทยนั้น ผู้บริหาร Nissan คนใหม่ ได้ประกาศออกมาชัดเจนแล้วว่า จะเน้นการทำตลาดรถยนต์ใน 4 รุ่นหลัก ซึ่งได้แก่ Navara Terra Kicks และ Almera โดยมีรุ่น Leaf และ GT-R เข้ามาจำหน่ายเสริม ถือว่าเป็นการรับประกันอนาคตของรถยนต์ทั้ง 4 รุ่น โดยเฉพาะ Navara รถกระบะปิกอัพขนาดกลางที่ทำตลาดในไทยมาแสนนาน และครั้งหนึ่งก็เคยเป็นรถยอดนิยมของคนไทย ก่อนที่จะถูกเจ้าตลาดจากญี่ปุ่น และคู่แข่งจากอเมริกา เบียดตกลงไปเป็นอันดับ 5 ในปัจจุบัน
แต่ในอีกฝากฝั่งหนึ่งของโลกอย่างสหรัฐอเมริกา ที่มีการทำตลาดรถกระบะขนาดกลางในชื่อ Frontier และรถกระบะขนาดใหญ่ Titan เกิดความไม่แน่นอนขึ้นแล้ว เมื่อมีข่าวหลุดออกมาจากแหล่งข่าวไม่ขอเปิดเผยตัว ว่า Nissan ไม่มีแผนที่จะทำการอัพเกรด Titan ที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบันอีกต่อไป พูดอีกแบบก็คือไม่มีอนาคตสำหรับรถกระบะรุ่นนี้อีกแล้ว ซึ่งข่าวนี้ ถือว่าสวนทางกับคำให้สัมภาษณ์ของ Brian Brockman โฆษกของ Nissan อเมริกาเหนือ ที่ว่า Titan ยังจะเป็นยังเป็นรุ่นหนึ่งในไลน์อัพรถกระบะของ Nissan สำหรับปี 2022 และต่อๆไป และเป็นรุ่นหลักในโชว์รูมต่างๆของบริษัท เป็นไปได้ว่า เป็นการออกมาสยบข่าวลือ เพื่อไม่ให้กระทบกับการจำหน่าย Titan
Nissan ได้แนะนำ Titan ลงสู่ตลาดเป็นครั้งแรก ในปี 2003 โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1 แสนคันต่อปี ในตลาดสหรัฐอเมริกา ซึ่งในช่วงแรกถือว่าทำผลงานได้ไม่เลว ด้วยยอดขายสูงถึง 86,945 คันในปี 2005 แต่ในช่วงหลังๆ ยอดขายได้ตกลง ในปี 2017 Nissan จำหน่าย Titan ไปได้เพียง 52,924 คันเท่านั้น ถือว่าเป็นตัวเลขที่น้อยสำหรับตลาดรถกระบะขนาดใหญ่ในอเมริกา เพราะคิดเป็นส่วนแบ่งทางการตลาดแค่ 2.2% เท่านั้น จนมาถึงปีที่ผ่านมา 2021 Nissan จำหน่าย Titan ไปได้เพียง 27,406 คันเท่านั้น กับส่วนแบ่งตลาดเพียง 1.3%
LMC Automotive และ AutoForecast Solutions บริษัทให้บริการข้อมูลทางการตลาดในอุตสาหรกรรมยานยนต์ คาดหมายว่า Nissan จะหยุดการทำตลาด Titan เมื่อสายการผลิตโฉมปัจจุบันสิ้นสุดลงภายในปี 2024 ทั้งๆที่บริษัทเพิ่งลงเงินไปกว่า 230 ล้านเหรียญสหรัฐ ไปกับการปรับโฉม Titan พร้อมอัพเกรดขุมพลัง V8 ไปเมื่อปี 2019 โดย Jeff Schuster ประธาน LMC Automotive เผยว่า การออกจากตลาดรถกระบะขนาดใหญ่ ช่วยให้ Nissan สามารถนำเอาทรัพยากรต่างๆที่มี ไปใช้กับสิ่งที่ทำได้ดีกว่า ให้ดีขึ้นไปอีก และทำให้โรงงานประกอบรถยนต์ที่เมืองแคนตัน รัฐมิสซิสซิปปี้ มีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะไปใช้ผลิตรถยนต์รุ่นอื่นๆ ซึ่ง Nissan มีแผนที่จะผลิตรถซีดานไฟฟ้า 2 รุ่นด้วยกันที่โรงงานนี้ ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป
ตัวแทนจำหน่ายรายหนึ่งของ Nissan ได้ให้ข้อมูลกับทางสื่อยานยนต์อย่าง AutomotiveNews ว่า มันเป็นเรื่องที่ยากมาก ที่จะสร้างความภักดีต่อแบรนด์ Titan ให้ได้เหมือนคู่แข่งสำคัญจากเมืองดีทรอยต์ อย่างเช่น Ford ซึ่งขายดีแบบเทน้ำเทท่า ทำให้มีงบประมาณไปใใช้ในการพัฒนาและปรับโฉมได้บ่อยครั้ง ทำให้มีรถรุ่นใหม่ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ออกมาสู่ตลาดเร็วกว่า Nissan แต่ตัวแทนจำหน่ายดังกล่าว ก็หวังว่า Nissan จะมีงบประมาณมากขึ้น และนำไปใช้ในการพัฒนารถกระบะขนาดกลาง อย่าง Frontier นอกจากนั้นยังเคยมีข่าวว่า Nissan เตรียมเปิดตัวรถกระบะไฟฟ้า ที่มีขนาดเล็กกว่า Frontier ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ในช่วงหลายปีที่ผ่าน Nissan พยายามลดต้นทุนในดำเนินธุรกิจ และกำจัดสิ่งที่เรียกว่าเป็นไขมันส่วนเกินออกไปให้ได้มากที่สุด คือเหลือไว้เพียงแค่รถยนต์รุ่นที่สร้างเม็ดเงินให้กับบริษัทเท่านั้น ซึ่ง Titan ก็มีข่าวที่ไม่สู้ดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะในเรื่องของยอดขายที่ตกต่ำ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องแปลก หาก Nissan ตัดสินใจไม่ไปต่อกับรถรุ่นนี้ ในขณะที่ Frontier และ Navara ทาง Nissan ก็เพิ่งทำการปรับโฉมไปหมาดๆ เพราะในเมืองไทยเอง Nissan ก็ยืนยันเดินหน้าทำตลาดรถรุ่นนี้ อีกอย่าง Nissan ก็มีข่าวการพัฒนา Navara เจนเนอเรชั่นใหม่ร่วมกับ Mitsubishi Triton มาอย่างต่อเนื่อง จึงมีความเป็นไปได้สูงว่า การหายไปของ Titan อาจจะกลับกลายมาเป็นผลดีต่อ Frontier และ Navara ที่จะมีทรัพยากรและเงินทุนมากขึ้น ส่งผลดีต่อการแข่งขันในตลาด เหมือนอย่างที่ Isuzu ทำให้เห็นไปแล้ว
[yourchannel video=”WrWx-t_E6wc” autoplay=”1″ show_comments=”1″]