ครั้งหนึ่ง Nissan เคยเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าอันดับต้นๆของโลก ด้วยการบุกเบิกตลาด จนทำให้ Nissan Leaf กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก หลังจากนั้น Nissan ก็เชื่อว่า ความสำเร็จนี้ สามารถถูกส่งต่อมายังตลาดเมืองไทยได้ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ทุกอย่างไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิดไว้ ซึ่งในขณะนั้น ยังไม่มีการสนับสนุนจากทางภาครัฐที่เป็นรูปธรรมเท่าที่ควร ส่งผลให้ราคาจำหน่าย สูงเกินกว่าที่จะมีใครกล้าเสี่ยง อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้า ก็ยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆเหมือนในปัจจุบัน อีกทั้งอัตราภาษีนำเข้า ก็เสียเปรียบคู่แข่งจากประเทศจีน นั่นทำให้เราแทบไม่เห็น Leaf บนถนนในเมืองไทยเลย ซึ่งหลังจากนั้นเพียงไม่กี่ปี รถยนต์ไฟฟ้า ก็สามารถแจ้งเกิดได้ในเมืองไทย พร้อมกับการเข้ามาครองตลาดของค่ายรถยนต์จากจีน จนทำให้ค่ายรถยนต์ต่างๆจากแดนซามูไร แทบไม่ได้รับการพูดถึงในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าเลยก็ว่าได้ จนทำให้หลายคนเชื่อว่า ผู้นำตลาดอีวีในอดีต อย่าง Nissan จะไม่สามารถกลับมาเป็นเบอร์ต้นๆ ในตลาดนี้ได้อีก
แต่ความคิดดังกล่าว อาจจะไม่ถูกต้องอีกต่อไป เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ นิสสันเปิดตัวแนะนำโรงงานต้นแบบ สำหรับการผลิตเซลล์แบตเตอรี่ แบบ laminated all-solid-state ซึ่งบริษัทวางแผนจะนำออกสู่ตลาด ในปี 2028 โดยโรงงานต้นแบบนี้ ตั้งอยู่ภายในศูนย์วิจัยของนิสสัน ที่จังหวัดคานากาว่า ประเทศญี่ปุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม การพัฒนาแบตเตอรี่ ชนิด All-solid-state ภายใต้วิสัยทัศน์ระยะยาว Nissan Ambition 2030 นิสสันตั้งเป้าที่จะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า ที่ใช้แบตเตอรี่ All-solid-state ที่พัฒนาขึ้นโดยบริษัท ภายในปีงบประมาณ 2028 หรืออีก 6 ปีข้างหน้า โดยมีแผนจะจัดตั้งสายการผลิตนำร่อง ที่โรงงานโยโกฮามา ในปีงบประมาณ 2024 พร้อมจัดเตรียม วัสดุการออกแบบ และกระบวนการผลิต เพื่อเป็นต้นแบบในสายการผลิต นิสสันเชื่อว่า แบตเตอรี่ All-solid-state จะมีต้นทุนลดลงเหลือ 75 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) ในปีงบประมาณ 2028 และเหลือ 65 เหรียญสหรัฐต่อหนึ่งกิโลวัตต์ชั่วโมง (kWh) หลังจากนั้น ส่งผลให้รถยนต์ไฟฟ้า มีต้นทุนเท่ากันกับรถยนต์ในยุคปัจจุบัน ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในในการขับเคลื่อน
ทั้งนี้ มีการคาดการณ์ว่า แบตเตอรีแบบ All-solid-state จะเป็นเทคโนโลยีที่พลิกโฉมวงการ เพื่อเพิ่มความนิยมในการใช้รถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ชนิดนี้ มีความหนาแน่นของพลังงาน ราวสองเท่าของแบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออนทั่วไป ใช้เวลาในการชาร์จไฟที่สั้นลงอย่างมาก เนื่องจากประสิทธิภาพการชาร์จ และการปล่อยประจุที่เหนือกว่า รวมถึงต้นทุนที่ต่ำลง จากการใช้วัสดุที่มีราคาต่ำกว่า ด้วยประโยชน์มากมายเหล่านี้ นิสสันคาดว่า จะใช้แบตเตอรี่ All-solid-state ในกลุ่มยานยนต์ที่หลากหลาย รวมถึงรถกระบะปิกอัพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ของรถยนต์ไฟฟ้า จากแนวทางนี้ ทำให้พอจะคาดการณ์ได้ว่า แพลตฟอร์มของ All-New Nissan Navara เจนเนอเรชั่นใหม่ น่าจะถูกออกแบบให้รองรับการใช้ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ชนิดนี้ด้วย และเทคโนโลยีนี้ อาจจะถูกส่งผ่านไปยัง Mitsubishi Triton โฉมใหม่ด้วยเช่นกัน แต่อาจจะเป็นช่วงกลาง หรือปลายเจนเนอเรชั่นไปแล้ว
คุนิโอ นากากุโร รองประธานบริหารฝ่ายวิจัยและพัฒนา กล่าวว่า “นิสสัน เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเรามีโครงการวิจัยและพัฒนาที่หลากหลาย ตั้งแต่การวิจัยวัสดุแบตเตอรี่ระดับโมเลกุล ไปจนถึงการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง รวมไปถึงการพัฒนาเมือง โดยใช้รถยนต์ไฟฟ้าเป็นแบตเตอรี่สำรอง”
จนถึงตอนนี้ ค่ายยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ทั้ง Nissan Honda และ Toyota ต่างมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาแบตเตอรี่แบบ solid state เป็นสำคัญ ซึ่งอาจจะเป็นการสร้างความแตกต่าง ให้หนีไปจากคู่แข่งจากจีน ที่ครองตลาดอยู่ในปัจจุบัน อีกไม่นาน เราก็น่าจะทราบว่า วิสัยทัศน์นี้ จะถูกต้อง และช่วยพาให้ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ขึ้นมายิ่งใหญ่ ในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าได้หรือไม่