Ford ยืนยันการทำตลาด All-New Ranger และ Everest เจนเนอเรชั่นใหม่ในประเทศออสเตรเลีย ด้วยขุมพลังทางเลือกที่มีเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 ให้เลือกด้วย นั่นทำให้สาวก Ranger ชาวไทยบางคน อาจจะรู้สึกน้อยใจไปบ้าง แต่ล่าสุด Ford ออสเตรเลีย ทำให้สิงห์รถกระบะชาวไทยต้องอิจฉามากขึ้นไปอีก เมื่อบริษัทได้ยืนยันการทำตลาด Ford F-150 รถกระบะขนาด full size รุ่นพวงมาลัยขวา ด้วยการปล่อยวิดีโอทีเซอร์รถกระบะยักษ์รุ่นนี้ออกมา ก่อนที่จะเริ่มจำหน่ายจริงในช่วงกลางปีหน้า 2023 แต่สิ่งที่อาจจะทำให้หลายคนอึ้ง ก็คือ F-150 พวงมาลัยขวารุ่นนี้ มีการดัดแปลงโดยบริษัทไทยที่ชื่อ RMA Automotive และควบคุมโครงการ โดยผู้บริหารของ Ford ประเทศไทย
ในอดีต Ford ได้เคยทำตลาด F-150 ในออสเตรเลียมาก่อนแล้ว ก่อนที่จะหายไปจากตลาดยาวนานถึง 16 ปี ซึ่งในสมัยนั้น การดัดแปลงจากพวงมาลัยซ้ายมาเป็นขวา ทำโดยบริษัทในประเทศบราซิล แต่ครั้งนี้ การดัดแปลงดังกล่าว จะทำโดยบริษัทสัญชาติไทย ที่ชื่อ RMA Automotive ซึ่งมีผู้บริหารเป็นชาวต่างชาติ แต่มีการตั้งกิจการขึ้นในประเทศไทย มานานกว่า 19 ปีแล้ว ด้วยยอดขายราว 1,500 ถึงเกือบ 2,000 ล้านบาทต่อปี แต่กระบวนการดัดแปลง จะเกิดขึ้นในโรงงานของ Ford ที่ตั่งอยู่ในย่าน Broadmeadows ในเมืองเมลเบิร์น โดย Ford จะนำเข้า F-150 รุ่นพวงมาลัยซ้าย มาจากสหรัฐอเมริกา เพื่อมาทำการดัดแปลงและทดสอบที่โรงงานแห่งนี้ ที่น่าแปลกใจก็คือ RMA ยังไม่เคยรับงานที่มีสเกลใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ที่ผ่านมาจะเป็นงานดัดแปลงรถกระบะ Ranger เพื่อใช้ในงานตำรวจ ทหาร และเหมืองแร่ สำหรับลูกค้าในย่ายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการดัดแปลง F-150 ในครั้งนี้ จะมีการควบคุมดูแลโดยทีมวิศวกรของ Ford จากทั้งออสเตรเลียและอเมริกา โดยมีอดีตผู้บริหารของ Ford ที่เคยทำงานในโรงงาน Broadmeadows ซึ่งในปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารโรงงานของ Ford ประเทศไทย เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ โดยในขณะนี้ Ford ได้นำเข้า F-150 มาจำนวน 4 คัน เพื่อทำการทดสอบในออสเตรเลีย โดยหนึ่งในนั้น ได้รับการดัดแปลงเป็นรุ่นพวงมาลัยขวาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างการขับทดสอบ
ความต้องการของตลาดออสเตรเลีย ที่มีต่อรถกระบะจากสหรัฐอเมริกา เช่น RAM และ Chevrolet เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว ในรอบ 4 ปีที่ผ่านมา และนั่นทำให้ Ford สนใจจะเข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดนี้ โดยในช่วงแรก Ford จะแนะนำ F-150 2 รุ่นย่อยสู่ตลาดก่อน ซึ่งได้แก่รุ่น XLT และ Lariat ที่มาพร้อมขุมพลังเบนซินทวินเทอร์โบ V6 ซึ่งเหตุผลในการเลือกรุ่นเครื่องยนต์ชนิดนี้ มากกว่าที่จะเป็นเครื่องยนต์ V8 หรือดีเซล ก็เพราะรุ่นเครื่องยนต์นี้ ได้รับความนิยมสูงที่สุดในตลาดอเมริกา และยังให้พละกำลัง และแรงบิดสูงสุด เทียบเท่ากับเครื่องยนต์ V8 ของ RAM และ Chevrolet แต่กลับประหยัดมากกว่า Ford ยังเผยอีกว่า ในตอนนี้ บริษัทยังไม่มีแผนในการทำตลาดรถกระบะไฟฟ้า F-150 Lightning, หรือรุ่นไฮบริดอื่นๆ รวมถึงรุ่นสมรรถนะสูง อย่าง F-150 Raptor อย่างไรก็ตาม Ford อาจจะกลับมาพิจารณาความเป็นไปได้เหล่านี้อีกครั้ง หากประสบความสำเร็จ ในการทำตลาด F-150 รุ่นมาตรฐาน
เดิมที Ford จะเริ่มจำหน่าย F-150 ใหม่ ในช่วงปลายปี 2022 นี้ แต่เนื่องด้วยปัญหาของโรคระบาด ทำให้ต้องเลื่อนการจำหน่าย ไปเป็นกลางปี 2023 แทน ก่อนที่จะส่งไปจำหน่ายยังโชว์รูมของ Ford กว่า 180 แห่งทั่วประเทศออสเตรเลีย สำหรับการลงทุนในการดัดแปลงรถ จากพวงมาลัยซ้าย มาเป็นขวา ว่ากันว่า ต้องใช้เงินลงทุน สูงถึง 10-12 ล้านเหรียญออสเตรเลีย หรือราว 250-300 ล้านบาท ต่อรถยนต์ 1 รุ่น
การกลับมาทำตลาด Ford F-150 รุ่นพวงมาลัยขวา ในออสเตรเลียอีกครั้ง เป็นการตอกย้ำให้เห็นความมุ่งมั่นของ Ford ในการบุกตลาดรถกระบะทั่วโลก ในทุกเซกเมนต์ที่เป็นไปได้ หลังจากที่เปิดตัวทั้ง Ranger, Ranger Raptor และ Everest โฉมใหม่ ไปพร้อมๆกันในปีเดียว ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็มีการกลับมาจำหน่าย F-150 ในประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อไม่กี่เดือนก่อน และการเปิดตลาดใหม่ ด้วยรถกระบะขนาดเล็กอย่าง Maverick งานนี้ คนไทยทำได้แค่มองตาปริบๆ