Ford ประเทศไทย เพิ่งเปิดตัว All-New Everest โฉมใหม่ไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยมีขุมพลังดีเซลความจุ 2.0 ลิตร ให้เลือกเพียงขนาดเดียว โดยเป็นแบบเทอร์โบเดี่ยว ในรุ่น Sport และไบเทอร์โบ ในรุ่น Titanium Plus แต่ในต่างประเทศ All-New Everest มีรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล V6 เป็นทางเลือกให้ด้วย หนึ่งในนั้นก็คือตลาดออสเตรเลีย ที่ล่าสุด มีการยืนยันตัวเลขด้านสมรรถนะ ของรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล V6 ดังกล่าวแล้ว และมีพละกำลังมากพอ ที่จะทำให้ Everest เจนเนอเรชั่นใหม่นี้ กลายเป็นรถยนต์ที่มีสมรรถนะสูงสุดในเซกเมนต์ หรือพูดง่ายๆก็คือ PPV ที่แรงที่สุดในตลาด
ในประเทศออสเตรเลีย Ford Everest โฉมใหม่ มี 2 รุ่นความจุกระบอกสูบ คือ เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ ทวินเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ V6 ความจุ 3.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 247 แรงม้า ที่ 3250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร ที่ 1750-2250 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด และระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบตลอดเวลา โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ ได้ถูกใช้กับรถกระบะขนาดฟูลไซส์อย่าง Ford F-150 และเอสยูวีหรูอย่าง Land Rover Discovery มาก่อน ส่งผลให้ Everest โฉมใหม่ กลายเป็นรถยนต์รุ่นที่มีสมรรถนะสูงที่สุด ในเซกเมนต์ของเอสยูวีขับเคลื่อน 4 ล้อ ขนาดใหญ่
การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างก็คือ เครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ ความจุ 3.2 ลิตรที่มีใช้ใน Everest โฉมเก่า ได้ถูกยกเลิกไปในเจนเนอเรชั่นล่าสุดนี้ ในขณะที่เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ความจุ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 168 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 405 นิวตันเมตร ที่มีใช้ใน Everest รุ่น Sport ในเมืองไทย ไม่มีการทำตลาดในออสเตรเลียอีกต่อไป ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลไบเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ยังมีใช้ต่อไป
งานนี้ทำให้ All-New Ford Everest มีสมรรถนะเหนือกว่าคู่แข่งสำคัญในตลาด ทั้ง Isuzu MU-X, Toyota Fortuner, Toyota Prado, Mitsubishi Pajero Sport จะเป็นรอง ก็แค่เพียงรถเอสยูวีหรูขนาดใหญ่อย่าง Toyota LandCruiser 300 Series และ Land Rover Defender เท่านั้น ในตลาดออสเตรเลีย
Ford จะเริ่มจำหน่าย Everest โฉมใหม่ ในประเทศออสเตรเลีย ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 นี้ หลังจากเริ่มจำหน่าย Ranger โฉมใหม่ไปแล้ว
[yourchannel video=”Vbd6t_3vuRU” show_comments=”1″ autoplay=”1″]