เรียกว่ามีอะไรใหม่ๆ ให้ต้องพูดถึงกันแทบจะทุกสัปดาห์ สำหรับ All-New Ford Ranger และ Everest เจนเนอเรชั่นใหม่ ล่าสุด Drive สื่อยานยนต์ชื่อดังจากออสเตรเลีย ได้รายงานว่า มีข้อมูลใหม่ ที่ได้รับทราบมาว่า Ford เตรียมเปิดตัวเวอร์ชั่น Plug-In Hybrid สำหรับทั้ง Ranger และ Everest ในช่วงปลายปี 2023 ถึงปี 2024 และหนึ่งในตลาดที่จะมีการจำหน่าย ก็คือออสเตรเลีย ทำให้ Ford เป็นค่ายรถยนต์รายแรก ในการบุกตลาดรถกระบะขนาดกลางและ PPV ที่ใช้ระบบไฟฟ้าช่วยในการขับเคลื่อน
ก่อนหน้านี้ เคยมีข่าวว่า Toyota กำลังพัฒนา Hilux เวอร์ชั่นไฮบริดอยู่เช่นกัน แต่เชื่อว่า การเปิดตัว น่าจะเกิดขึ้นหลังจากที่มีการเปิดตัว All-New Hilux เจนเนอเรชั่นใหม่ไปแล้ว ส่วนคู่แข่งอื่นๆ ทั้ง Isuzu, Mazda, Nissan รวมถึงพันธมิตรของ Ford อย่าง Volkswagen ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ เกี่ยวขุมพลังทางเลือกใหม่ เห็นจะมีเพียง Mitsubishi ที่มีข่าวว่า อาจจะมีเวอร์ชั่น PHEV สำหรับ All-New Triton ที่จะมีการเปิดตัวรุ่นมาตรฐาน ภายในปี 2022 นี้ แต่ก็ยังไม่มีการยืนยัน ถึงช่วงเวลาในการแนะนำรุ่น PHEV ลงสู่ตลาด
Drive เผยว่า ในขณะนี้ ยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับขุมพลังไฮบริดของ Ford ว่าจะมาพร้อมเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซล รวมถึงรายละเอียดทางด้านสมรรถนะ แต่มีการวิเคราะห์ว่า ด้วยการที่ตลาดรถยนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะยุโรป เริ่มลดการใช้เครื่องยนต์ดีเซลมากขึ้นทุกขณะ นั่นทำให้โอกาสที่เราจะได้เห็น Ranger PHEV และ Everest PHEV ที่มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน มีอยู่มากกว่า
สื่อจากออสเตรเลีย มองว่า ทางเลือกที่เป็นขุมพลัง PHEV ของรถเอสยูวีขนาดกลางอย่าง Ford Escape ที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ ความจุ 2.5 ลิตร ขนาด 224 แรงม้า ดูเหมือนว่าจะไม่แรงพอที่จะนำมาใช้ ในขณะที่เครื่องยนต์ของรถเอสยูวีขนาดใหญ่ Ford Explorer ที่เป็นเครื่อง V6 ความจุ 3.0 ลิตร พ่วงเทอร์โบชาร์จเจอร์ ขนาด 450 แรงม้า ก็มีขนาดใหญ่เกินไป นั่นน่าจะทำให้ Ford จะตัดสินใจจบที่การใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ เทอร์โบ เป็นระบบขับเคลื่อน
ในสหรัฐอเมริกาและบางตลาด Ford Ranger โฉมใหม่ จะมีทางเลือกเป็นขุมพลังเบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร ที่คาดว่าจะให้กำลังสูงสุดได้ถึง 268 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตร ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะกับระบบ Plug-In Hybrid และด้วยการทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่ กำลังสูงสุดรวม อาจจะเพิ่มขึ้นไปมากกว่า 335 แรงม้า มากกว่ารุ่นเครื่องยนต์ดีเซล V6 ของ Ranger และ Everest โฉมใหม่ รุ่นมาตรฐาน ที่จะเปิดตัวในออสเตรเลียภายในปี 2022 นี้ ซึ่งทำได้ที่ 255 แรงม้า
ข่าวเกี่ยวกับขุมพลัง Plug-In Hybrid ล่าสุดนี้ เหมือนเป็นการยืนยันการตอบคำถามของทีมวิศวกรจาก Ford ในระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ว่าบริษัทมีแผนในการพัฒนาทางเลือกที่เป็นขุมพลังไฟฟ้าแบบใดแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก และมีลูกค้าจำนวนไม่น้อยที่สนใจทางเลือกประเภทนี้อยู่ แต่ในขณะนั้นยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
Ian Foston หัวหน้าทีมวิศวกร ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม T6 ของทั้ง Ford Ranger Everest และ Volkswagen Amarok เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อยานยนต์ในออสเตรเลียว่า บริษัทได้ทำการพูดคุยกับลูกค้าจากทั่วโลก ซึ่งมี 2 ปัจจัยหลัก ที่สนับสนุนให้มีการใช้ขุมพลังไฟฟ้า ซึ่งรวมถึงระบบไฮบริด ได้แก่
- กลุ่มลูกค้าที่มีประสบการณ์ในการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามาก่อนแล้ว ซึ่งมักจะสอบถามเกี่ยวกับการทำตลาดรถกระบะปิกอัพขุมพลังไฟฟ้าอยู่เสมอ
- กฏหมายใหม่ในการใช้รถยนต์ทั่วโลก ที่สนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าเราจะได้เห็นขุมพลังที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ในทุกเซกเมนต์ ซึ่งรวมถึงรถที่ใช้เชิงพาณิชย์อย่างรถกระบะปิกอัพและรถบรรทุกด้วย
ข่าวความเคลื่อนไหวล่าสุดนี้ เป็นการช่วยยืนยันถึงกลยุทธ์ทางธุรกิจของ Ford ในการพยายามเป็นผู้นำของวงการยานยนต์ โดยเฉพาะตลาดรถกระบะปิกอัพ ที่มักจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ออกมาเซอร์ไพรซ์อยู่เสมอ รวมถึงการกล้าที่จะเข้าไปสู่ตลาดใหม่ ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนอย่างที่ Ranger Raptor เคยทำมาแล้ว ทำให้ในปีนี้ Ford น่าจะสามารถสร้างกระแสข่าวได้ตลอดทั้งปี จากเวอร์ชั่นใหม่ๆของทั้ง Ranger และ Everest ที่จะทยอยเปิดตัวตามกันมา