Honda CR-V ถือว่าเป็นรถเอสยูวียอดนิยมรุ่นหนึ่งของคนไทย มาอย่างยาวนาน ก่อนที่จะมีคู่แข่งใหม่เข้ามาในตลาด ในช่วง 2-3 ปีหลัง ซึ่งแน่นอนว่า ยอดขายของ CR-V ย่อมได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากการแข่งขันที่สูงขึ้น การปรับโฉมใหม่หมดทั้งคัน ในเจนเนอเรชั่นที่ 6 จึงถือว่าเป็นไม้เด็ดทางด้านการตลาด ที่จะช่วยให้ CR-V กลับขึ้นมาผงาดในตลาด Compact SUV ของไทยได้อีกครั้ง หลังจากที่ปล่อยให้ MG HS และ Haval H6 Hybrid ขึ้นมาเบียดใน 3 อันดับแรก ในช่วง 1-2 ปีหลังมานี้
ล่าสุด ได้มีภาพประกอบการจดสิทธิบัตร ที่คาดว่าเป็นของ All-New Honda CR-V เจนเนอเรชั่นใหม่ หลุดออกมาทางสื่อออนไลน์ต่างๆ หลังจากที่เคยมีภาพ spy shot รถต้นแบบที่ถูกปกปิดตัวถังภายนอกเอาไว้ และภาพจำลองต่างๆ ที่พยายามแกะรอยจากภาพ spy shot ดังกล่าว ผสมกับจินตนาการ เพื่อสร้างภาพจำลอง CR-V โฉมใหม่ขึ้นมา ให้ผู้ที่สนใจ ได้เห็นรูปร่างหน้าตาก่อนที่จะมีการเปิดตัว ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปี 2022 นี้ ก่อนที่จะเริ่มจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาก่อนเป็นตลาดแรก ในปี 2023 ซึ่งภาพล่าสุด ช่วยทำให้เราได้เห็นดีไซน์ที่แท้จริง และเส้นสายของส่วนต่างๆอย่างชัดเจน ยกเว้นในส่วนของบั้นท้าย ที่ยังไม่มีภาพหลุดออกมา แต่นั่นก็เพียงพอ ที่จะทำให้สื่อบางสำนักในต่างประเทศ สร้างภาพจำลองที่ต่อยอดมาจากภาพของ CR-V ตัวจริง ขึ้นมาเป็นครั้งแรก นั่นทำให้ภาพของ Honda CR-V โฉมใหม่ที่เห็นอยู่นี้ ดูใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งหลังจากนี้ เชื่อว่าจะเริ่มมีการทำภาพจำลอง ที่ใช้พื้นฐานจากภาพประกอบการจดสิทธิบัตร ออกมาให้ได้ชมกันมากขึ้น
จากภาพ spy shot ที่เคยหลุดออกมา ทำให้มีการคาดการณ์ว่า Honda CR-V เจนเนอเรชั่นใหม่ จะมีความยาวที่มากกว่าเดิมพอสมควร ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า รถเอสยูวียอดนิยมรุ่นนี้ จะรองรับผู้โดยสารได้ 7 ที่นั่ง เป็นมาตรฐาน เพื่อให้สามารถครอบคลุมตลาดได้มากขึ้น ในด้านขุมพลัง คาดว่า All-New Honda CR-V จะมีระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดให้เลือกด้วย ในใช้ชื่อรุ่นว่า eHEV ตามที่มีการเปิดตัวในรถยนต์รุ่นใหม่ๆ รวมถึงการทำตลาดในรุ่น Plug-In Hybrid ทั้งนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการเปิดตัวรถยนต์ใหม่ของ Honda ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเรายังมีลุ้นกับ CR-V EV รุ่นไฟฟ้า 100% ที่อาจจะมีการใช้แบตเตอรี่อัลเที่ยม จากพันธมิตรอย่าง General Motors ซึ่งการที่คณะรัฐมนตรีของไทย ได้มีมตีเห็นชอบ ต่อมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ BEV ในประเทศ น่าจะช่วยให้โอกาสที่เราจะได้เห็น CR-V EV เร็วขึ้น มีอยู่สูง เพราะอย่าลืมว่า คู่แข่ง 2 รายสำคัญจากจีนในปัจจุบัน คือ MG และ GWM มีเทคโนโลยีประเภทนี้ในมืออยู่แล้ว และพร้อมที่จะบุกตลาด EV ได้อย่างทันท่วงทีเช่นกัน นั่นทำให้ Honda ต้องขยับตัวเร็วขึ้น
[yourchannel video=”Wr9fpIHhLVc” show_comments=”1″ autoplay=”1″]