นอกจากจะพบกับการแข่งขันที่ดุเดือด แทบจะในทุกตลาดแล้ว Toyota ยังถือว่าเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มากที่สุดรายหนึ่ง โดยเฉพาะหลังจากการเกิดขึ้น ของสายพันธุ์เดลต้า ที่ทำเอาประเทศไทย กลับขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ในเรื่องจำนวนผู้ติดเชิ้อ และผู้เสียชีวิตรายวัน นอกเหนือไปจากปัญหาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
ล่าสุดโควิด-19 ทำพิษอีกครั้ง ส่งผลให้ส่วนประกอบรถยนต์ ที่เป็นเซมิคอนดักเตอร์ ขาดแคลนอย่างหนักทั่วโลก จน Toyota ต้องลดกำลังการผลิตทั่วโลกชั่วคราว ถึง 40% โดยประมาณ ในเดือนกันยายนที่จะถึง จากการที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้หลายโรงงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ ต้องหยุดดำเนินการไปก่อน
ผลที่ตามมาก็คือ กำลังการผลิตของ Toyota ที่เคยถูกกำหนดไว้ที่ 900,000 คัน ในเดือนกันยายนนี้ จะถูกลดลงเหลือเพียง 540,000 คันเท่านั้น โดยโรงงานทั้ง 14 แห่งในประเทศญี่ปุ่น จะหยุดทำการเป็นเวลาหลายวัน ในเดือนกันยายน ซึ่งการผลิตรถยนต์ในแต่ละรุ่น อาจจะได้รับผลกระทบมากน้อย แตกต่างกันไป ส่วนการผลิตรถเอสยูวีออฟโรด ที่กำลังได้รับการพูดถึงมากที่สุดในช่วงนี้ อย่าง LandCruiser 300 Series จะถูกยกเลิกไปเกือบทั้งเดือน ส่วนรถยนต์รุ่นอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ Toyota Corolla, Camry, Prius, Yaris, Yaris Cross และ Lexus ES แต่ยังมีโรงงานบางแห่ง ที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่า ทำให้มีการหยุดสายการผลิต เป็นระยะเวลาที่สั้นกว่า ได้แก่ สายการผลิตของ C-HR, Hiace, Granvia, LandCruiser Prado, LandCruiser 70 Series, Yaris GR และ Lexus ทุกรุ่น ส่วนสายการผลิตของ Lexus LC และ Toyota Century จะถูกระงับไว้ทั้งเดือน
สื่อยานยนต์ชื่อดัง Automotivenews รายงานว่า โรงงานอื่นๆของ TOYOTA นอกประเทศญี่ปุ่น ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งได้แก่ ทุกโรงงานในอเมริกาเหนือ จะมีการลดกำลังการผลิตลงอย่างมาก ยกเว้นโรงงานในประเทศเม็กซิโก ที่ผลิตรถกระบะ Tundra และ Tacoma และยังมีข่าวอีกว่า หนึ่งใน 3 โรงงานของ Toyota ในเมืองไทย ได้มีการหยุดดำเนินการชั่วคราว มาตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา ส่วนในความเป็นจริง จะเป็นไปตามการรายงานข่าวของต่างประเทศหรือไม่ เจ้าหน้าที่โรงงานดังกล่าวของ Toyota สามารถแสดงความคิดเห็น หรือแจ้งให้เราทราบได้ ในกล่อง comment ใต้คลิปนี้