ปี 2021 นี้ ดูเหมือนจะเป็นปีที่แสดงให้เห็นแนวโน้ม ของความสนใจในการใช้รถกระบะไฟฟ้าหรือไฮบริด ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้เกิดกระแสดังกล่าวก็คือ การที่ทั่วโลก เริ่มเข้มงวด กับรถเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่มีการสร้างมลพิษให้กับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในยุโรป ที่รถยนต์แบบดั้งเดิม กำลังจะถูกแทนที่ด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า อีกปัจจัยหนึ่งก็คือ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ที่ทำให้ประสิทธิภาพของรถยนต์ไฟฟ้า สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ดี และต้นทุนในการผลิตต่อหน่วย ก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนการผลิตที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้บางตลาด เริ่มพิจารณาทางเลือกใหม่ อย่างรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสม หรือไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่
ตลาดรถกระบะปิกอัพ ก็เป็นอีกตลาดหนึ่ง ที่เริ่มปรับตัว ให้เข้ากับกระแสใหม่ของโลกในเรื่องนี้ โดยมี Ford เป็นค่ายรถยนต์เดียวในปัจจุบัน ที่มีการตอบสนองที่เป็นรูปธรรมมากที่สุด ด้วยการเปิดตัว F-Series ที่เป็นรุ่นไฟฟ้าและไฮบริด ออกมาจำหน่าย ในขณะที่ค่ายรถยนต์น้องใหม่ อย่าง TESLA และ Rivian ยังต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน กว่าที่จะสามารถทำตลาดได้จริง และเมื่อมองตลาดให้แคบลงมาอีกนิด สู่ตลาดรถกระบะขนาดกลาง ที่มีจำหน่ายในเมืองไทย จะพบว่า แทบจะทุกค่ายรถยนต์ มีความพร้อม ในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ที่สามารถกระโจนเข้าสู่การแข่งขัน ในสมรภูมิแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Ford ที่มีความพร้อมสูงสุดในด้านเทคโนโลยี Toyota ที่มีระบบไฮบริดเป็นจุดขาย มานานกว่า 20 ปี ในขณะที่ Mitsubishi ก็มีแผนในการเปิดตัว Triton PHEV หรือ Plug-In Hybrid ในอนาคต ที่อาจจะใช้เทคโนโลยี ร่วมกับพันธมิตรอย่าง Nissan ในขณะที่ MG และ GWM ก็มีรถกระบะไฟฟ้าที่จำหน่ายในเมืองจีน หรือแม้แต่สายการผลิตระบบไฮบริด ที่พร้อมดำเนินการในเมืองไทยอยู่แล้ว จะเหลือก็เพียง Mazda และ Isuzu ที่เราแทบไม่ทราบความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้
สำหรับ Mazda แล้ว การที่เป็นเพียงผู้จ้าง Isuzu ในการผลิต BT-50 ในแบรนด์ของตัวเอง ก็คงไม่อยู่ในสถานะ ที่เป็นผู้กำหนดทิศทางในเรื่องเทคโนโลยีได้ และ Mazda ก็คงไม่สนใจ ที่จะลงมาเล่นในตลาดนี้ด้วยตัวเอง เรียกว่า Isuzu ว่าอย่างไร ก็ว่าตามกัน
แต่สำหรับ Isuzu ในฐานะค่ายรถยนต์ ที่มียอดขายรถกระบะสูงที่สุดในไทย การไม่มีแผนงาน ในการพัฒนารถยนต์พลังงานทางเลือกใหม่ น่าจะส่งผลกระทบกับบริษัท ในระยะเวลาอันใกล้ ซึ่งที่ผ่านมา Isuzu เป็นเพียงค่ายรถยนต์เดียวในตลาดก็ว่าได้ ที่แทบไม่มีการเปิดเผยแผนงานใดๆของบริษัท ให้สาธารณชนทราบ นอกจากการคาดการณ์เอาเองของสื่อมวลชน และผู้ที่ติดตามค่ายรถยนต์นี้อย่างใกล้ชิด นั่นจึงทำให้เกิดคำถาม ที่หลายคน โดยเฉพาะสาวกของ D-MAX อยากจะทราบคำตอบจาก Isuzu ว่าบริษัทมีแผนในการเปิดตัว D-MAX เวอร์ชั่นไฮบริดหรือไฟฟ้า เพื่อรับมือกับคู่แข่ง อย่าง Toyota Ford หรือ Mitsubishi ในอนาคตหรือไม่ และถ้ามี จะเปิดตัวเมื่อไร
คำถามแรกที่ว่า Isuzu มีแผนในการพัฒนา D-MAX Hybrid หรือไฟฟ้าหรือไม่ คำตอบก็คือ Isuzu มีความพร้อมในเรื่องนี้ โดยเฉพาะการเพิ่มรุ่นไฮบริดเข้ามาในไลน์อัพของ D-MAX มานานมากกว่า 4-5 ปีแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา แม้ว่า Isuzu จะปิดปากเงียบในเรื่องนี้ แต่ไม่ได้หมายความว่า บริษัทจะเพิกเฉย หรือไม่ทราบถึงความเคลื่อนไหวของคู่แข่งในตลาด ส่วนเวอร์ชั่นไฟฟ้า ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาสำหรับ Isuzu เช่นกัน เพราะในปัจจุบัน Isuzu มีการทำตลาดรถบรรทุกไฟฟ้า เช่น N Series ในตลาดอยู่แล้ว และล่าสุด เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Isuzu ก็ได้แถลงข่าวความร่วมมือ ในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าร่วมกับ Toyota และ Hino เพื่อป้อนตลาดรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ รวมถึงการพัฒนารถพลังงานเซลล์เชื้อเพลิง และยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติอีกด้วย
และถ้า Isuzu มีความพร้อมอยู่แล้ว บริษัทมีแผนในการเปิดตัว D-MAX เวอร์ชั่นไฮบริดหรือไฟฟ้าเมื่อไร ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจ ในทางฝั่งของ Isuzu ก่อนว่า การขึ้นสายการผลิต ของรถพลังงานผสม หรือไฟฟ้า จะส่งผลกระทบต่อสายการผลิตเดิม ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะทำให้ไม่สามารถผลิต D-MAX เวอร์ชั่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ได้ในจำนวนที่มากเหมือนที่เป็นอยู่ และจะต้องใช้เวลาเตรียมการอย่างน้อย 1 ปี สำหรับ Isuzu นั่นหมายความว่า หาก Isuzu ต้องการจะเปิดตัว D-MAX ไฮบริดหรือ EV ขึ้นมาจริงๆ ตลาดรถกระบะไฮบริดและไฟฟ้า จะต้องมีการใหญ่พอ ที่จะให้ความคุ้มค่าในการลงทุน เพราะมิฉะนั้นแล้ว จะส่งผลเสียกับบริษัท ในการด้านการผลิต และโดยธรรมขาติของ Isuzu เอง ที่มักจะดำเนินนโยบาย ค่อนไปทางอนุรักษ์นิยม การที่ Isuzu จะเป็นผู้นำในการเปิดตลาดรถกระบะพลังงานทางเลือกใหม่ น่าจะมีความเป็นไปได้น้อยมาก ฉะนั้น การเปิดตัว D-MAX Hybrid หรือ D-MAX EV จะเกิดขึ้น เมื่อมีผู้เล่นในตลาดมาได้ระยะหนึ่งแล้ว ซึ่งอาจจะเป็น Toyota Hilux Ford Ranger หรือ Mitsubishi Triton ซึ่งเมื่อตลาดเริ่มมีการขยายตัว ถึงระดับหนึ่ง Isuzu จึงจะเริ่มส่ง D-MAX ไฮบริด เข้ามาชิงส่วนแบ่งตลาดด้วย พูดง่ายๆก็คือ Isuzu ขอเลือกจะเป็นผู้ตามมากกว่าผู้นำ กลยุทธ์นี้ ได้สะท้อนออกมาให้เห็น ในตลาดรถกระบะสมรรถนะสูง ที่มี Ford Ranger Raptor อยู่ในตลาดเพียงหนึ่งเดียว ซึ่ง Isuzu ยังไม่มีนโยบาย ที่จะเข้ามาลุยในตลาดนี้ หากตลาด ไม่มีขนาดที่ใหญ่พอ
ความพร้อมของ Isuzu ในเรื่องนี้ น่าจะทำให้สาวกชาวไทย สบายใจได้ว่า ในอนาคต Isuzu D-MAX จะไม่ตกขบวนแน่นอน หากตลาด มีความนิยมในรถกระบะไฮบริด หรือรถกระบะไฟฟ้าขึ้นมา