MG Sales ประเทศไทย เตรียมเปิดตัว All-New MG5 โฉมใหม่ ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ หลังจากที่มีข่าวคราวในไทย มานานหลายเดือน ถือว่าเป็นการสร้างสีสัน ในตลาดรถซีดานขนาดเล็กของไทย ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดโควิด 19 ที่ทำ
เอาค่ายรถยนต์ต่างๆ ต้องบาดเจ็บไปตามๆกัน แต่ก่อนที่จะมีการเปิดตัว ในอีกราว 3 สัปดาห์ข้างหน้า เรามาชมกันว่า MG5 โฉมใหม่ จะมีความพิเศษอะไรบ้าง
MG5 มีคู่แข่งสำคัญในไทย อย่าง Honda City, Mazda2, Nissan Almera เป็นต้น โดยคาดว่า MG5 โฉมใหม่หมดทั้งคัน นอกจากจะมาพร้อมดีไซน์ใหม่ ที่สวยทันสมัยแล้ว ยังมีเทคโนโลยี และฟีเจอร์ต่างๆอีกมากมาย
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดของ MG5 รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ ก็คือมิติตัวถัง ที่ใหญ่กว่าคู่แข่งในตลาด ดีไซน์ของด้านหน้า ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ด้วยการใช้หน้ากระจังสีดำขนาดใหญ่ ตัดกับสีของตัวถังภายนอก ให้ความรู้สึกในแบบทูโทน ไฟหน้า LED เปิดปิดอัตโนมัติ พร้อมไฟเดย์ไทม์ ที่ดูคล้ายกับรถยนต์หรู อย่าง Mercedes-Benz CLA โฉมล่าสุด เส้นสายโค้งมนตลอดทั้งคัน ทำให้รถดูสปอร์ตทันสมัย ไฟท้ายโดดเด่น ด้วยลวดลายที่เป็นเส้นแนวตั้ง 3 เส้น คล้ายกับรถสปอร์ตอย่าง Ford Mustang ล้ออัลลอยสวยสะดุดตา มีทั้งขนาด 16 และ 17 นิ้ว
ห้องโดยสารภายในของ MG5 ใหม่ มาพร้อมดีไซน์ที่ดูสปอร์ตและทันสมัย เบาะนั่งหุ้มหนังทรงสปอร์ต โอบกระชับสรีระ โดยฝั่งคนขับ เป็นแบบปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง และ 4 ทิศทาง สำหรับเบาะนั่งผู้โดยสารด้านหน้า ส่วนที่นั่งด้านหลัง มาพร้อมช่องแอร์ปรับอากาศ พวงมาลัยเป็นแบบหุ้มหนัง 3 ก้าน พร้อมปุ่มควบคุมแบบ multifunction ระบบเกียร์อัตโนมัติ มาพร้อมเบรคมือไฟฟ้า และปุ่ม Auto Hold จอแสดงผลการขับขี่ดิจิตอล ขนาด 12.3 นิ้ว ส่วนจอแสดงผลกลางระบบ infotainment เป็นขนาด 10.25 นิ้ว ที่คาดว่าจะมาพร้อมระบบ i-Smart ที่เป็นจุดขายของ MG รองรับการเชือมต่ออุปกรณ์สื่อสารต่างๆ พร้อมสั่งงานด้วยเสียง นอกจากนั้น ยังมีระบบ Keyless Entry ปุ่มสตาร์ตเครื่องยนต์ ในประเทศจีน ระบบเครื่องเสียงเป็นระดับพรีเมี่ยมจาก Yamaha หลังคาเป็นแบบพาโนรามิคซันรูฟขนาดใหญ่
ขุมพลังของ MG5 ใหม่ ในประเทศจีน จะมีทั้งขุมพลังเบนซินเทอร์โบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า และเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 1.5 ลิตรแบบ NA ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้า ซึ่งในเมืองไทย คาดว่าจะเป็นเครื่องยนต์ NA ธรรมดา เพราะด้วยการแข่งขันในตลาดอีโคคาร์ การใช้เครื่องยนต์ที่มีกำลังสูง จะทำให้ไม่สามารถทำราคาในตลาดนี้ได้ ทำให้การเปิดตัว เราคงจะไม่ได้เห็นรุ่นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ
MG5 ใหม่ มาพร้อมระบบช่วยขับขี่ MG Pilot ที่มีทั้งระบบ Adaptive Cruise Control กล้องช่วยมองรอบคัน 360 องศา ระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ถุงลมนิรภัย 6 จุด ระบบช่วยควบคุมความเร็ว ตามป้ายจำกัดความเร็วโดยอัตโนมัติ เซนเซอร์กะระยะถอยหลัง พร้อมระบบแจ้งเตือน เมื่อมีสิ่งกีดขวาง เป็นต้น ซึ่งถ้าไม่มีข้อจำกัดในเรื่องราคา เราคงจะได้เห็นฟีเจอร์ต่างๆเหล่านี้ในเมืองไทย
คุณสมบัติต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น เป็นฟีเจอร์ และเทคโนโลยีต่างๆ ที่มีมาให้ใน MG5 โฉมใหม่ ซึ่งเป็นแบบ full version ที่มีวางจำหน่ายในประเทศจีน โดย MG ประเทศไทย จะทำการปรับคุณสมบัติ ให้เข้ากับตลาดของไทย ที่มีการแข่งขันสูง ส่วนจะมีมาให้ครบเหมือนในเมืองจีน หรือตัดทอนส่วนใดไปบ้าง เราจะได้ทราบกัน ในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้