เมื่อต้นเดือนมกราคมปีนี้ เราได้นำเสนอแผนการเปิดตัว All-New Mazda2 เจนเนอเรชั่นที่ 5 ว่าจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 2021 ซึ่งในขณะนั้น เป็นการพูดถึงการเปิดตัวเป็นครั้งแรกในโลก หรือ World Premiere ที่อ้างอิงจากสำนักข่าวในประเทศญี่ปุ่น โดยจะมีเวอร์ชั่นไฮบริด ให้มาเป็นทางเลือกใหม่ ในเจนเนอเรชั่นนี้ด้วย
ล่าสุด เราได้ทราบข่าวมาว่า Mazda ประเทศไทย จะเริ่มเดินสายการผลิต Mazda2 โฉมใหม่หมดทั้งคัน ทั้งรุ่นมาตรฐาน และรุ่นไฮบริด ในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2022 คืออยู่ในระหว่างเดือนเมษายน ถึงเดือนมิถุนายน การเตรียมเปิดตัว Mazda2 Hybrid นอกจากจะเป็นไปตามแผนงาน ในการผลิตรถที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว Mazda ยังจะได้สิทธิพิเศษจูงใจในด้านภาษี จากการเป็นอีโคคาร์ และรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสม โดย Mazda สามารถใช้ know how ในเรื่องระบบไฮบริดมาจาก Toyota ที่เป็นพันธมิตรสำคัญ ในการทำตลาด Mazda2 ภายใต้ซับแบรนด์ Yaris ในตลาดยุโรป
จากข้อมูลก่อนหน้านี้ เราทราบมาว่า All-New Mazda2 เจนเนอเรชั่นที่ 5 จะมาพร้อมแพลตฟอร์ม และส่วนประกอบหลัก ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ ช่วยให้สมรรถนะดีขึ้น และกินน้ำมันน้อยลง โดยมาพร้อมตัวถัง ที่มีความยาวมากกว่าเดิม 50 มม ส่วนความกว้างและระยะฐานล้อ ยังมีขนาดเท่าเดิม ทำให้ห้องโดยสารภายใน มีพื้นที่มากขึ้น นอกจากนั้น ยังช่วยให้การควบคุมการขับขี่ดีขึ้นอีกด้วย และการที่น้ำหนักตัวถัง ลดลงไปถึง 100 กิโลกรัม ทำให้ Mazda2 โฉมใหม่ ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม
ในส่วนชองขุมพลังทางเลือก จะมีทั้งเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล ความจุ 1.5 ลิตร บล็อคเดิม ที่ทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน แต่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้มีประสิทธิภาพ และประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยอาจจะมีลุ้นกับเครื่องยนต์ 3 สูบ บล็อคใหม่ ความจุ 1.5 ลิตร ที่อยู่ในระหว่างการพัฒนา รวมถึงเครื่องยนต์ SKYACTIV-X ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า สำหรับระบบขับเคลื่อนแบบ mild hybrid
กำหนดการเดินสายการผลิต Mazda2 โฉมใหม่ ที่โรงงานในเมืองไทย ทำให้เราพอจะทราบกำหนดการคร่าวๆ ว่า Mazda ประเทศไทย มีแนวโน้มที่จะเปิดตัวรถยอดนิยมรุ่นนี้ที่นี่ ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 หลังจากที่มีการเปิดตัวในต่างประเทศ ในช่วงปลายปีนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงอาจจะเกิดขึ้นได้ ตามสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ของโรคระบาดโควิด19 ซึ่งเราได้แต่หวังว่า ภายในสิ้นปีนี้ ทุกๆอย่าง จะสามารถกลับคืนสู่สภาพปกติ หลังจากที่คนไทยส่วนใหญ่ ได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว