Honda เปิดตัว All-New Civic sedan เจนเนอเรชั่นที่ 11 รุ่น production อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ได้เผยโฉมรถต้นแบบไปแล้ว เมื่อพฤศจิกายนปี 2020 ที่ผ่านมา โดย CIVIC ถือว่าเป็น 1 ใน 3 รถยนต์นั่ง ที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริกา ด้วยยอดขายมากกว่า 12 ล้านคัน นับตั้งแต่ปี 1973 เป็นต้นมา รวมระยะเวลากว่า 48 ปี ซึ่งนอกจาก Civic จะมาพร้อมดีไซน์ใหม่ ทั้งภายนอกและภายในแล้ว ซีดานรุ่นนี้ ยังมีโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงกว่าเดิม ขุมพลังที่ทรงพลังมากขึ้น แต่ประหยัดน้ำมัน ช่วงล่างใหม่ จอแสดงผลแบบใหม่ เครื่องเสียงระดับพรีเมี่ยม ระบบความปลอดภัย Honda Sensing ใหม่ล่าสุด รวมถึงถุงลมนิรภัยสำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและหลังแบบใหม่ โดยรวมแล้ว การออกแบบ Civic โฉมใหม่ เน้นไปที่การให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารเป็นศูนย์กลาง
Honda มีทีมงานออกแบบที่สุดยอด ในการพัฒนา Civic โฉมใหม่นี้ขึ้นมา และสิ่งที่จะอธิบายต่อไปนี้ ก็คือองค์ประกอบใหม่ต่างๆ ที่ Honda ได้สร้างสรรค์ขึ้นมา สำหรับรถซีดานยอดนิยมรุ่นนี้
All-New Honda Civic โฉมใหม่ ได้รับแรงบันดาลใจพื้นฐานมาจาก Civic รุ่นก่อนๆ ดังเห็นจากตัวถังที่เพรียวบาง โดยมีการยืดระยะฐานล้อ ให้ยาวขึ้นกว่าเดิม โดยดีไซน์ด้านหน้า เน้นให้เห็นความกว้าง และระดับความสูงที่ต่ำ ด้วยการใช้เส้นสายที่เป็นแนวนอนเป็นหลัก ไฟหน้าดีไซน์ใหม่ เป็นแบบ LED ฝากระโปรงหน้าและขอบหน้าต่างด้านล่างที่ต่ำ ช่วยให้ล้อและยางดูเด่นขึ้นมา เสา A pillar ถูกดันไปทางด้านหลังประมาณ 2 นิ้ว ทำให้ฝากระโปรงหน้าดูยาวขึ้น เพิ่มความสง่างาม เมื่อมองจากด้านข้าง การออกแบบตัวถัง ยังเน้นให้ตัวรถ ดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยว มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน โดยยังให้ความรู้สึกที่เคลื่อนไหว แม้จะจอดนิ่งอยู่ก็ตาม ดีไซน์บั้นท้ายที่ดูกว้างและต่ำ ช่วยให้รถรุ่นนี้ ดูสปอร์ตทรงพลัง ซึ่งมีการเพิ่มระยะห่างของช่วงล้อด้านหลัง อีก 0.5 นิ้วจากเดิม โดยลวดลายของไฟท้าย ยังช่วยเน้นให้เห็นความกว้างของตัวรถมากขึ้น สปอยเลอร์บนฝากระโปรงหลัง นอกจากจะช่วยให้รถดูสปอร์ตโฉบเฉี่ยวมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มพลวัต เสถียรภาพในการขับขี่ และประสิทธิภาพในด้านอากาศพลศาสตร์อีกด้วย
ภายในห้องโดยสาร ปรัชญาในการออกแบบ ที่เน้นผู้โดยสารเป็นศูนย์กลาง ถูกสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน และในทันที ที่ได้นั่งลงไปใน Civic โฉมใหม่ ผู้ที่ได้เคยสัมผัส Civic ในช่วงต้นทศวรรษ 1990 อาจจะได้เข้าถึงความรู้สึกเก่าๆในสมัยนั้น ทั้งนี้ก็เพราะการออกแบบโดยรวม ยังถูกถ่ายทอดจากอดีต มาสู่ปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดการออกแบบภายในทั้งหมด ได้ถูกปรับเปลี่ยนมาสู่การออกแบบ ที่เน้นรองรับสรีระผู้ขับขี่และผูโดยสาร และช่วยให้การเข้าถึงจุดต่างๆภายในรถ ทำได้ง่ายดายมากขึ้น ด้วยการออกแบบที่ดูเรียบง่าย สะอาดตา เสา A pillar ที่บางลง และต่ำแหน่งการติดตั้งของกระจกมองข้าง ช่วยทำให้ทัศนวิสัยด้านหน้าดีขึ้น ให้ความรู้สึกที่เปิดโล่ง เมื่อมองออกมาจากภายใน
ปุ่มควบคุมอุปกรณ์ต่างๆบนแดชบอร์ด ถูกจัดวางไว้เป็นกลุ่มก้อน พร้อมมีการตกแต่งด้วยวัสดุที่มีคุณภาพสูง โดยเน้นไปที่จุดต่างๆ ที่มีการสัมผัสบ่อยครั้ง คอนโซลกลาง ถูกออกแบบให้ดูพรีเมี่ยม ส่วนที่น่าสนใจก็คือ แถบรังผึ้งบนแดชบอร์ด ที่มีการซ่อนช่องปรับอกาศไว้ด้านใน Civic ใหม่ ยังได้ถูกออกแบบให้มีความง่ายในการใช้งาน โดยให้ความสำคัญกับฟังค์ชั่นที่มีการใช้งานบ่อยครั้ง เช่นปุ่มปรับระดับเสียง ที่สามารถควบคุมได้ โดยใช้มือซ้ายในการปรับปุ่มควบคุมบนพวงมาลัย หรือมือขวา ที่เอื้อมถึงปุ่มปรับระดับแบบหมุนได้ง่าย คันเกียร์ก็ถูกออกแบบให้อยู่ใกล้ตัวผู้ขับขี่มากขึ้น จอแสดงผลกลางระบบ infotainment เป็นแบบใหม่ ขนาด 9 นิ้ว ในรุ่น Touring โดยเป็นขนาด 7 นิ้วในรุ่นต่ำลงมา ซึ่งมีการปรับปรุง ให้สามารถสังเกตการแสดงผลได้ง่ายขึ้น การเข้าถึงฟังค์ชั่นต่างๆ ทำได้ง่าย และรวดเร็วขึ้น ด้วยการใช้กราฟิคที่สังเกตได้ง่าย และขั้นตอนต่างๆที่ไม่ซับซ้อน และเป็นครั้งแรกสำหรับ Civic Honda ได้ติดตัั้งระบบปฏิบัติการ Android Auto และ Apple Carplay แบบไร้สาย มาให้ด้วย
ในรุ่นย่อย Touring ระบบเครื่องเสียงพรีเมี่ยมจาก Bose พร้อมลำโพง 12 ตัว ได้ถูกติดตั้งมาให้ด้วย หน้าจอแสดงผลการขับขี่ เป็นแบบดิจิตอล ช่วยให้ง่ายในเลือกแสดงผล ตามที่ผู้ขับขี่ต้องการ สิ่งที่่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การแสดงสถานะ การเปิดปิดไฟส่องสว่าง ไฟเบรค รวมถึงไฟเลี้ยว บนหน้าจอแสดงผลได้ด้วย
Honda ยังได้ออกแบบ Civic ใหม่ ให้มีการควบคุมการขับขี่ที่ดีที่สุด เท่าที่เคยมีมา โดยการปรับแต่งระบบกันสะเทือน ระบบพวงมาลัย และระบบห้ามล้อ เพื่อการควบคุมที่ดีที่สุด ในรถยนต์ระดับเดียวกัน รวมถึงสุนทรียภาพในการขับขี่ ที่คุณสามารถสัมผัสได้ ในทันทีที่ควบคุมรถ
Honda Civic เจนเนอเรชั่นที่ 11 ยังมาพร้อมวัสดุ และการขึ้นรูปตัวถังที่ดีที่สุดในคลาส ที่สามารถลดเสียงรบกวน และการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี ช่วยยกระดับประสบการณ์ในการขับขี่
ในด้านสมรรถนะ Honda Civic ใหม่ มาพร้อมขุมพลังที่มีประสิทธิภาพกว่าเดิม และประหยัดน้ำมันมากขึ้น โดยเป็นเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 177 ปอนด์ฟุต หรือ 240 นิวตันเมตร ตั้งแต่รุ่น EX ขึ้นไป นอกจากนั้น ยังมีการปรับปรุงเกียร์ CVT เพื่อการตอบสนองที่ดีขึ้น โดยมีการเพิ่มโหมดการขับขี่อย่าง Sport mode เข้าไปเป็นครั้งแรก การปรับปรุงเครื่องยนต์ล่าสุดนี้ ช่วยให้ Civic ใหม่ ประหยัดน้ำมันมากยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีพละกำลัง ที่เพิ่มมากขึ้นก็ตาม
Honda Civic ยังถือว่าเป็นผู้นำ ในด้านเทคโนโลยีความปลอดภัยมาโดยตลอด และ All-New Civic รุ่นนี้ ก็ยังคงรักษาความยอดเยี่ยมดังกล่าวไว้ ด้วยการสร้างมาตรฐานใหม่ ในด้านความปลอดภัย ทั้งแบบ active และ passive ด้วยโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรงกว่าเดิม มีการติดตั้งถุงลมนิรภัย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่เพิ่มเข้าไป ซึ่งรวมถึงถุงลมนิรภัย สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า ที่จะช่วยลดการเคลื่อนไหวของศีรษะ เพื่อลดแรงกระทบต่อสมอง
Honda ยังได้ทำการปรับปรุง ระบบความปลอดภัยและช่วยขับขี่ Honda Sensing ด้วยการใช้กล้อง 1 ตัว ที่เพิ่มมุมมองให้กว้างขึ้น โดยมีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่เช้าไป เช่น ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ ในขณะที่มีการจราจรติดขัด และระบบควบคุมการเบรคที่ระดับความเร็วต่ำ
All-new Honda Civic เจนเนอเรชั่นใหม่ ได้ถูกสร้างขึ้นมา โดยเน้นคุณค่าหลักของแบรนด์ ที่มีมาอย่างยาวนาน และปรัชญาในการออกแบบ ที่เสริมด้วยเทคโนโลยีที่ใช้งานง่าย ส่งผลให้ Civic สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับเซกเมนต์ในทุกด้าน และที่สำคัญก็คือ มันเป็น Civic รุ่นที่ขับสนุกที่สุด เท่าที่บริษัทได้เคยสร้างขึ้นมา
Honda จะเริ่มจำหน่าย Civic sedan โฉมใหม่ ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดยการผลิต จะเกิดขึ้นที่โรงงานของ Honda ในเมืองออนตาริโอ ประเทศแคนาดา ส่วนเวอร์ชั่น hatchback จะมีการเปิดตัวตามมา ในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนี้ แต่การผลิต จะมีขึ้นที่โรงงานในรัฐอินเดียน่า สหรัฐอเมริกา สำหรับราคาจำหน่าย ยังไม่มีการเปิดเผยในขณะนี้
ในท้ายคลิป จะเป็นการนำเสนอภาพสวยๆ ของ Honda Civic โฉมใหม่ รุ่น Sport สีแดง Rallye Red และรุ่น Touring สีเทา Meteorite Gray ทั้งภายนอกและภายใน ด้วยความยาวเกือบ 20 นาที