แม้ว่าจะโบกมือลาบางตลาดไปแล้ว แต่ General Motors ก็ยังขยายไลน์อัพที่จำหน่ายในตลาดหลักต่อไป ล่าสุด มีข่าวว่า GM กำลังซุ่มพัฒนารถกระบะไฟฟ้าขนาด full size ซึ่งอยู่ในแผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 30 รุ่น ภายในปี 2025 จากการเปิดเผยของเว็บไซต์ carscoops ในระหว่างการแถลงข่าวกับนักลงทุน เมื่อไม่นานมานี้
ทีมงานของ Carscoops ได้ทำภาพจำลองของรถกระบะรุ่นใหม่นี้ขึ้นมา จากข้อมูลบางส่วน ที่พอจะทราบมาจากแหล่งข่าวภายใน และภาพที่อยู่ด้านหลังประกอบการแถลงข่าว โดยดีไซน์ด้านหน้า มีการออกแบบคล้ายกับรถยนต์บางรุ่นของบริษัท ที่ดูสปอร์ตในแบบ Camaro รถสปอร์ตยอดนิยมของ Chevrolet ตัวถังโดยรวม มีความโค้งมน มากกว่าที่จะเป็นเหลี่ยมสัน เหมือนรถกระบะคู่แข่งรายอื่นๆ
สำหรับห้องโดยสารภายใน Chevrolet รุ่นนี้ จะเน้นการใช้งานเป็นหลัก แต่ก็ยังมาพร้อมวัสดุภายในคุณภาพสูง จอแสดงผลดิจิตอล ทั้งการแสดงข้อมูลการขับขี่ และระบบ infotainment มีขนาดใหญ่ โดยมาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียงจาก Google ระบบนำทาง และแอพพลิเคชั่นที่จำเป็นต่างๆในปัจจุบัน เรียกว่าได้ว่า เหนือกว่ารถยนต์ส่วนใหญ่ของบริษัท ที่มีจำหน่ายอยู่ในขณะนี้ นอกจากนั้นยังมีระบบช่วยขับขี่อัตโนมัติ โดยไม่ต้องจับพวงมาลัย Super Cruise ที่ช่วยลดความเครียดในการควบคุมรถ และยังมาพร้อมระบบเปลี่ยนช่องทางเดินรถอัตโนมัติ ซึ่งทำงานได้ ในถนนที่รองรับฟีเจอร์นี้
สถาปัตยกรรมยานยนต์ไฟฟ้า BT1 800 โวลต์ของ GM มาพร้อมแพลตฟอร์มที่มีความแข็งแกร่ง มีการกระขายน้ำหนักที่เหมาะสม และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้เกิดการทรงตัวที่ดี ซึ่งเป็นพื้นฐานของรถเอสยูวีและรถกระบะไฟฟ้าของทั้ง Chevrolet, GMC และ Cadillac
สถาปัตยกรรมยานยนต์ไฟฟ้า Ultium EV ที่มีความยืดหยุ่นสูงมาก ยังให้สมรรถนะที่เหนือระดับ ซึ่งเราอาจจะได้เห็นรุ่นสูงสุด ของรถกระบะไฟฟ้ารุ่นนี้ ที่สามารถรีดพละกำลัง ออกมาได้ถึง 800 แรวม้า แรงบิดสูงสุด 12,200 นิวตันเมตร ทำความเร็วจาก 0-96 กม/ชม ได้ต่ำกว่า 4 วินาที ขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 3 ตัว ส่วนรุ่นที่ต่ำลงมา จะมาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า 1 ตัว ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง หรือมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมีระยะทางแล่นได้ไกลสูงสุด 483 กิโลเมตร/ชาร์จ ส่วนแบตเตอรี่ จะเป็นแบบความหนาแน่นสูง แบบ fast charge ขนาด 350 DC kW โดยในอนาคต ระยะทางสูงสุดต่อชาร์จ อาจเพิ่มขึ้นได้ถึง 724 กิโลเมตรเลยทีเดียว
คู่แข่งโดยตรงของรถกระบะจาก Chevrolet รุ่นนี้ ก็คือ Ford F-150 EV, Tesla Cybertruck, Rivian R1T รวมถึง Lordstown Endurance โดยจะมีการผลิตขึ้นที่โรงงาน Factory Zero ซึ่งเป็นโรงงานที่บริษัท ต้องการให้เป็นฐานการผลิตที่ไร้มลพิษ ส่วนการเปิดตัว คาดว่าอาจจะได้เห็นในปี 2022 เพราะเส้นตายของบริษัท คือปี 2025