เมื่อพูดถึงรถยนต์ระบบไฮบริด สิ่งที่ทุกคนมักจะคิดเหมือนกันก็คือ ความทนทานที่น้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป และรถกระบะยักษ์อย่าง F-150 ก็ไม่ได้อยู่ในความคิดของพวกเขา Ford กำลังจะเปลี่ยนแปลงทัศนคติเหล่านี้ และนี่คือ All-New Ford F-150 PowerBoost Hybrid รุ่นปี 2021 รถกระบะระบบ Full Hybrid รุ่นแรกของบริษัท
การที่ระบบ PowerBoost Hybrid จะถูกนำมาใช้กับ F-150 ได้นั้น บริษัทต้องมั่นใจว่า ระบบขับเคลื่อนนี้ จะต้องแกร่งพอในแบบ Ford และนั่นหมายความว่า รถพลังไฮบริดรุ่นนี้ จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวด เหมือนกับ F-150 รุ่นมาตรฐาน ในทุกขั้นตอน
Ford ต้องมั่นใจว่า รถกระบะรุ่นนี้ จะต้องแกร่งพอในการบุกตะลุยในทางออฟโรด ทำให้ Borrego Springs ในรัฐแคลิฟอร์เนีย จึงเป็นพื้นที่ ที่ใช้ในการทดสอบความทรหดครั้งนี้ เพราะมันเป็นสถานที่ๆมีความสุดขั้วทางสภาพอากาศ ทั้งสภาพอากาศที่ร้อนจัด พื้นผิวในแบบภูเขา ที่ขรุขระ สัญจรได้ยาก เส้นทางที่เป็นทะเลทราย โขดหินที่ลื่นไถลได้ง่าย เนินเขาที่สูงชัน ซึ่ง Ford ได้นำรถรุ่นนี้ มาทดสอบเหมือนกับ F-150 รุ่นเครื่องยนต์สันดาปภายใน ที่ทำกันมานานหลายสิบปี โดยไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
สนามทดสอบ Michigan Proving Grounds ในย่านโรมิโอ รัฐมิชิแกน ก็เป็นบททดสอบหลัก ในเรื่องความทนทานของรถกระบะจาก Ford ขั้นตอนการทดสอบบางอย่าง ถือว่าอยู่ในระดับที่เรียกว่า สุดหฤโหด ถึงขนาดที่บริษัท ไม่ให้มนุษย์เข้าทำการทดสอบเอง แต่จะเป็นหน้าที่ของระบบควบคุมอัตโนมัติ ซึ่งถ้ารถยนต์รุ่นใด ผ่านการทดสอบในสนามแห่งนี้ได้ รถยนต์รุ่นนั้น จะถือว่าแกร่ง สมบุกสมบัน และทนทานตามมาตรฐานของ Ford
ที่สนามทดสอบ Michigan Proving Grounds แห่งนี้ เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ จะทำการทดสอบความทนทานในระดับสูงสุด เหมือนกับ F-150 รุ่นอื่นๆ ทั้งการแล่นบนพื้นที่ ที่เป็นเนินทดสอบ ด้วยความเร็วสูง ซ้ำแล้วซ้ำอีก เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งเป็นการทดสอบช่วงล่าง และเป็นการทดสอบ ที่รุนแรงมากกว่า สิ่งที่จะเกิดขึ้นในการใช้งานจริง
แบตเตอรี่ถือว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของรถรุ่นนี้ ฉะนั้น บริษัทจะต้องมั่นใจว่า สิ่งนี้จะต้องทนทาน ไม่แพ้ส่วนอื่นๆของตัวรถ ซึ่ง Ford เอง ได้พัฒนาการทดสอบ สำหรับแบตเตอรี่ขึ้นมาโดยเฉพาะ ซึ่งการทดสอบ เกิดขึ้นในห้องปฏิบัติการในนิวยอร์ก และการทดสอบที่สำคัญก็คือ การสร้างแรงสั่นสะเทือน ให้กับระบบแบตเตอรี่ ที่เหมือนเป็นการจำลองการใช้งานจริง โดยใช้เวลาในการทดสอบ ยาวนานติดต่อกันถึง 82 ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับการสั่นสะเทือน ที่เกิดขึ้นกับ F-150 ตลอดช่วงอายุการใช้งาน โดยแบตเตอรี่ชุดนี้ มีกำลังถึง 7.2 KW เสมือนมีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่เครื่องหนึ่ง ที่สามารถเคลื่อนที่ ไปที่ใดก็ได้ตามที่เราต้องการ ซึ่งทำให้เรา สามารถใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าใดๆ โดยไม่มีปัญหา
F-150 PowerBoost Hybrid จะสมบูรณ์แบบไม่ได้ หากไม่ได้รับการทดสอบที่ Davis Dam ในรัฐอริโซน่า เพื่อทำการทดสอบความสามารถในการลากจูง ซึ่งที่นี่ มีเส้นทางตรง ความยาว 11 ไมล์ และมีความลาดชันที่ 6% ที่พาดผ่านทะเลทราย ซึ่งที่นี่ ถือว่าเป็นสนามทดสอบระดับเหนือกว่ามาตรฐาน ในด้านการทดสอบความสามารถในการลากจูง ของวงการยานยนต์อเมริกา และถือว่าเป็นหนึ่ง ในพื้นที่ทดสอบสุดโหด และเช่นเดียวกับการทดสอบ F-150 รุ่นอื่นๆ F-150 PowerBoost Hybrid ต้องรับมือกับรถพ่วง ที่มีน้ำหนัก 12,000 ปอนด์ ในการทดสอบ ที่จะถูกลากบนถนน ในสภาพอากาศที่ร้อนจัด เส้นทางที่มีความสูงชัน ไปพร้อมๆกัน และรถกระบะรุ่นนี้ ก็สามารถผ่านการทดสอบไปได้ด้วยดี นั่นหมายความว่า มันสามารถลากจูงโหลดขนาดใหญ่ ในระดับเดียวกัน บนสภาพพื้นที่คล้ายกัน ได้แทบจะทุกแห่ง บนโลกใบนี้
ขุมพลังของ F-150 PowerBoost Hybrid เป็นเครื่องยนต์ทวินเทอร์โบ V6 ความจุ 3.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 430 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 773 นิวตันเมตร
แม้ว่าในชีวิตจริง คุณอาจจะไม่มีโอกาส ที่จะใช้รถกระบะไฮบริดรุ่นนี้ ในสภาพการณ์ที่เห็นในการทดสอบ แต่อย่างน้อย คุณก็สบายใจได้ว่า มันจะเป็นรถยนต์ ที่สามารถรับมือได้ ในทุกสภาพการณ์ที่สุดขั้ว ที่คุณไม่คิดว่า จะได้เจอในชีวิตจริง