Kia เปิดตัว All-New Carnival หรือ Grand Carnival เจนเนอเรชั่นที่ 4 ในประเทศเทศเกาหลีใต้ อย่างเป็นทางการ หลังจากที่ได้เคยเผยภาพตัวถังภายนอกไปแล้ว เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดย Carnival เจนเนอเรชั่นนี้ มาพร้อมแพลตฟอร์มขนาดกลางรุ่นใหม่ โดย Kia นิยามรถรุ่นนี้ว่า เป็นรถสไตล์ GUV หรือ Grand Utility Vehicle ซึ่งมีรูปโฉมที่ดูปราดเปรียว และทันสมัยกว่ารุ่นก่อน
ในเรื่องของดีไซน์ภายนอก แม้ว่า Kia จะยังใช้ภาษาการออกแบบเดิม ด้วยกระจังหน้าแบบ Tiger Nose แต่ก็มีความแตกต่างไปจากรูปแบบก่อนๆพอสมควร คือขอบกระจังหน้าส่วนบน จะเป็นเส้นตรง เชื่อมต่อกับฝากระโปรงหน้า ไม่โค้งเว้าลงมา เหมือนที่เห็นในกระจังหน้าของ Kia รุ่นอื่นๆ โดยกรอบไฟหน้า มีลักษณะเรียวยาว ลวดลายของไฟเดย์ไทม์ มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการตกแต่งด้วยชิ้นงานสีโลหะ ตั้งแต่ด้านบนของหน้ากระจัง ไปจนถึงกันชนหน้า เพิ่มความสปอร์ตพรีเมี่ยม
ในขณะที่บั้นท้าย ฉีกรูปแบบเดิมด้วย light bar ที่เชื่อมต่อไฟท้ายทั้งสองข้าง ให้เป็นเส้นยาวในระนาบเดียวกัน และที่ดูโดดเด่น จนทำให้รถยนต์รุ่นนี้ อาจจะแตกต่างไปจากรถประเภทเดียวกันในตลาด และเป็นที่มาของคำว่า GUV ก็คือส่วนของห้องโดยสารตอนหลัง ที่ระดับของเสา C และ D เกือบจะเป็นเส้นเดียวกัน กับเส้นขอบหน้าต่างของเสา A และ B ทำให้รถรุ่นนี้ ดูคล้ายกับรถ SUV ขนาดใหญ่ ถือว่าเป็นกุศโลบายในการออกแบบ ที่พยายามดีไซน์ให้เข้ากับความต้องการของตลาดในปัจจุบัน ในขณะที่ยังคงความเป็นรถอเนกประสงค์ ได้ดังเดิม โดยล้ออัลลอย มีให้เลือกทั้งขนาด 17 18 และ 19 นิ้ว
การใช้แพลตฟอร์มใหม่ กับ Carnival เจนเนอเรชั่นนี้ ทำให้ตัวถังมีความยาวเพิ่มขึ้น ถึง 40 มิลลิเมตร ฐานล้อยาวขึ้น 30 มิลลิเมตร ส่งผลให้ห้องโดยสารภายใน กว้างขวางมากกว่าเดิม โดยมีการวางเลย์เอ้าท์ที่นั่ง ในแบบ 3 และ 4 แถว รองรับผู้โดยสาร ได้ 7-11 คน ตามรุ่นที่เลือก โดยในรุ่น 7 ที่นั่ง Carnival จะมีเบาะนั่งผ่อนคลายระดับพรีเมี่ยม ในที่นั่งแถวที่ 2 สามารถปรับระดับ ที่วางแขน ขา และพนักด้านหลังได้ และมีพื้นที่จุสัมภาระท้ายรถ ถึง 2,905 ลิตร
แดชบอร์ดได้รับการออกแบบใหม่ ด้วยการใช้จอแสดงผลการขับขี่ และจอแสดงผลกลางระบบ infotainment แบบดิจิตอล ขนาด 12.3 นิ้วทั้งสองจอ ที่ถูกจัดวาง ให้อยู่ในระนาบเดียวกัน โดยใช้พื้นผิวกระจกด้านหน้า เชื่อมต่อเป็นชิ้นเดียวกัน รองรับ ระบบปฏิบัติการ Apple Carplay และ Android Auto เป็นมาตรฐาน ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับตลาดที่จำหน่ายด้วยเช่นกัน โดยมาพร้อมระบบ Kia Live ที่ให้ข้อมูล ด้านการจราจร สภาพอากาศ สถานที่ๆน่าสนใจ และสถานที่จอดรถ ในจุดต่างๆ
นอกจากนั้น ยังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า Rear Passenger View & Talk ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้า สามารถเช็คดูที่นั่งตอนหลัง ผ่านกล้องขนาดเล็ก ที่จะแสดงภาพ บนหน้าจอระบบ infotainment ฟีเจอร์ใหม่อีกอย่างก็คือ ปุ่มเปิดปิดประตูสไลด์ และฝาท้ายแบบปุ่มเดียว โดย Kia ยังเคลมว่า รถยนต์รุ่นนี้ ให้ความสะดวกสบาย และพื้นของห้องโดยสาร ที่สามารถเดินเข้าออกได้อย่างง่ายดายที่สุดในคลาส มีการป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอกและการสั่นสะเทือน ได้ดีกว่าเดิม
ขุมพลังของ Kia Carnival ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่ เครื่องยนต์ดีเซล Smartsteam ความจุ 2.2 ลิตร 199 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 440 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ MPi ความจุ 3.5 ลิตร 268 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 332 นิวตันเมตร และเครื่องยนต์ GDi V6 ความจุ 3.5 ลิตร 290 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 355 นิวตันเมตร ทุกรุ่นเครื่องยนต์ จะมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีดเป็นมาตรฐาน โดยในแต่ละตลาด อาจจะมีขุมพลังทางเลือกที่แตกต่างไปจากนี้ ตามความเหมาะสม
Kia จะเริ่มจำหน่าย All-New Carnival ในประเทศเกาหลีใต้ ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ และจะจำหน่ายในตลาดอื่นๆ ภายในปลายปีนี้เช่นกัน