การเปิดตัว All-New Isuzu D-MAX โฉมใหม่ ในประเทศออสเตรเลียเมื่อวานนี้ ทำให้สื่ออย่าง CarAdvice ออกมาพูดถึงความเป็นไปได้ ของ MU-X โฉมใหม่ ที่คาดว่าจะเปิดตัวในแดนจิงโจ้ ในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 หรืออย่างช้า ในต้นปี 2022 โดยใช้ข้อมูลต่างๆ ที่คาดการณ์จาก D-MAX รุ่นล่าสุด ซึ่ง Isuzu MU-X เป็นรถ SUV ที่ใช้พื้นฐานจากรถกระบะ หรือ PPV ที่ขายดีที่สุดในออสเตรเลีย มายาวนานถึง 6 ปีติดต่อกัน
เริ่มจากเรื่องของขุมพลัง ที่ Isuzu จะวางใน MU-X โฉมใหม่ ซึ่งก็คือเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ความจุ 3.0 ลิตร 190 แรงม้า PS แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ที่มาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ปรับปรุงใหม่ รวมถึงเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนต่างๆ ที่คาดว่าจะเหมือนๆกัน และจะเป็นครั้งแรก ที่ MU-X จะมีดิฟล็อคหลัง เพื่อให้สามารถต่อกรกับคู่แข่ง อย่าง Toyota Fortuner Ford Everest Mitsubishi Pajero Sport ได้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเบรคหน้า ก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อประสิทธิภาพการห้ามล้อ ที่มั่นคงกว่าเดิม และระยะเบรคที่สั้นลง ซึ่งทั้งดิฟล็อคหลัง และเบรคหน้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นการอัพเกรดที่เกิดขึ้นกับ D-MAX โฉมใหม่เช่นกัน
ที่น่าสนใจที่สุดก็คือ การที่ MU-X ใหม่ จะมาพร้อมกับเทคโนโลยีความปลอดภัยแบบเต็มพิกัด เหมือนกับ D-MAX โฉมใหม่ ซึ่งนั่นจะทำให้ MU-X ขึ้นไปสู่ระดับสูงสุด ในด้านระบบความปลอดภัย ในตลาดรถระดับเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติแบบกล้องคู่ ที่สามารถตรวจจับคนเดินถนน คนปั่นจักรยาน และวัตถุอื่่นใด ที่กีดขวางทางเดินรถ ระบบเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบ radar cruise control ระบบช่วยอ่านป้ายจราจร ที่มาพร้อมระบบชะลอความเร็วอัตโนมัติ และระบบ stop start โดยรุ่นบน คาดว่าจะมีระบบสตาร์ตเครื่องยนต์จากระยะไกล และระบบ keyless entry มาให้ด้วย ไฟหน้าแบบ Bi-LED คาดว่าจะมีมาให้ ในเกือบทุกรุ่นย่อย เช่นเดียวกับ D-MAX โฉมใหม่
การจัดเต็มในเรื่องฟีเจอร์ใหม่ต่างๆ โดยเฉพาะระบบความปลอดภัย จะยิ่งทำให้ MU-X ทิ้งห่างคู่แข่งสำคัญไปได้ไกลมากขึ้น เพราะโฉมปัจจุบันที่จำหน่ายในออสเตรเลีย ถือว่ายังตามหลังคู่แข่ง ในเรื่องอ็อปชั่นอยู่พอสมควร แต่ MU-X ก็ยังครองแชมป์รถ PPV มาตั้งแต่ปี 2013 จนถึงปัจจุบัน
การคาดการณ์เกี่ยวกับสเปคเบื้องต้น ของ Isuzu MU-X โฉมใหม่ อยู่บนพื้นฐานของ MU-X ที่มีจำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจะแตกต่างไปจากเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในเมืองไทย ไม่มากก็น้อย แต่การที่ยังตามหลังเจ้าตลาดอย่าง Toyota Fortuner หรือแม้แต่ Mitsubishi Pajero Sport ในเมืองไทย น่าจะทำให้ Isuzu อาจจะต้องใช้กลยุทธ์ใหม่ เหมือนกับที่ใช้ในออสเตรเลีย หากต้องการส่วนแบ่งตลาดมากกว่านี้