Toyota Fortuner 2020

เปิดสเปค Toyota Fortuner 2020-2021 รุ่น Base และ Legender พร้อมราคาขาย

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 2021

ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Base

ดีไซน์ภายนอกเอกลักษณ์แห่งผู้น้ำ โดดเด่นในทุกมิติ

  • กระจังหน้า – กันชนหน้าใหม่..บ่งบอกความภูมิฐานในตัวคุณ
  • ไฟหน้าใหม่แบบ Bi-beam LED…พร้อม Day Time Running Lights สะท้อนความมีระดับเหนือใคร
  • ไฟท้ายใหม่แบบ LED Light Guiding…หรูหรา ลงตัวทุกมุมมอง
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 18 นิ้ว…มีเสน่ห์ทุกองศาโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 2021

ดีไซน์ภายในสุนทรียะแห่งการเดินทางระดับผู้นำ สะดวกสบายเหนือใคร

  • มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 4.2นิ้ว…แสดงรายละเอียดการขับขี่อย่างชัดเจน
  • หน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว…รองรับApple Carplay เชื่อมต่อกับทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ
  • ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ…มอบความเย็นทั่วพื้นที่ห้องโดยสาร
  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ…สะดวกสบายเมื่อต้องขับขี่ในระยะไกล
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย…เพื่อความสนุกในการขับขี่
  • กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ…ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นตอนกลางคืน
  • เบาะนั่งคนขับและเบาะผู้โดยสารตอนหน้า…ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางเพื่อความสะดวกสบาย
  • เบาะปรับพับแถว 2 แบบ…แบบ One Touch เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้นโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ 2021

สมรรถนะการขับขี่พลังการขับเคลื่อนแห่งผู้นำ พาคุณท้าทายในทุกความสำเร็จ

  • Front Suspension…ช่วงล่างด้านหน้าอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง ช่วยซับแรงสั่นสะเทือน
  • Rear Suspension…ช่วงล่างด้านหลังแบบโฟร์ลิงค์คอยสปริงและเหล็กกันโคลงมั่นคงและนุ่มนวลยิ่งขึ้น
  • Variable Flow Control…ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็วให้คุณควบคุมรถได้มั่นใจToyota Fortuner 2021

เครื่องยนต์ 2.4 GD Super Power…ที่สุดแห่งขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ เผาไหม้เชื้อเพลิงได้สมบูรณ์แบบให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง (Flat Torque) ตอบรับทุกการขับขี่อย่างเต็มสมรรถนะ ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า

  • เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กำลังสูงสุด 150 แรงม้า(110 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที

Sigma 4 System…ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งการควบคุมที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ตอบรับกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรีแบบแอคทีฟ (A-TRC)
  • ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (DAC)
  • ระบบแสดงสถานะการเลี้ยวของล้อ เพิ่มความสะดวกสบายง่ายต่อการขับขี่

ระบบความปลอดภัยที่สุดแห่งความปลอดภัยระดับผู้นำมั่นใจในทุกเส้นทาง

Active Safety

  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC)
  • ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC)
  • ระบบป้องกันล้อล็อค (ABS)
  • ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
  • ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน (HAC)
  • ระบบควบคุมการส่ายของพ่วงท้าย (TSC)
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ เพิ่มความมั่นใจในทุกจังหวะเบรก
  • สัญญาณเตือนกะระยะ 6 ตำแหน่งช่วยระวังมุมอับสายตาเวลาจอด

Passive Safety

  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำหน่ง ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในทุกการเดินทาง
  • โครงสร้างนิรภัย GOA ช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทก เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับห้องโดยสาร
  • พวงมาลัยแบบยุบตัวได้เพื่อป้องกันแรงกระแทกด้านหน้า
  • ELR Seatbelt 3 จุด 7 ที่นั่งพร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติสำหรับเบาะคู่หน้าช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ

T-Connect by Toyotaเชื่อมการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

Always Located & Protect…ให้คุณอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลในทุกสถานการณ์

  • Find My Car…เช็กตำแหน่งรถ REAL TIME ได้ทุกที่ ทุกเวลา
  • SOS…ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ”อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบางกรณี”
  • TheftTrack…ติดตามรถหายเมื่อถูกโจรกรรมพร้อมประสานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
  • Geo-Fencing…ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากขอบเขตที่คุณกำหนดไว้

Telematics CAREให้การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องง่าย จัดการได้ทุกปัญหาด้วยบริการแจ้งเตือนล่วงหน้า

  • Maintenance Reminder…แจ้งเตือนเข้าศูนย์บริการพร้อมประสานงานนัดหมาย
  • Vehicle Information...แสดงสถานะรถยนต์ ข้อมูลการขับขี่สรุปทริปการเดินทาง พร้อมให้คุณแชร์ลงโซเชียลอีกทั้งบริการแจ้งเตือนต่อทะเบียนรถประจำปีล่วงหน้าอัตโนมัติ
  • Toyota Care PHYD (Pay How You Drive)…ประกันภัยรถ “ขับดี ลดให้” สิทธิพิเศษด้วยเบี้ยประกัน จ่ายตามพฤติกรรมการขับขี่อีกทั้งช่วยแจ้งเตือนต่อประกันภัยฯ ล่วงหน้าอัตโนมัติ ”สำหรับการทำประกันภัยกับบริษัทฯ ที่กำหนดไว้เท่านั้น”

Happiness Mobilityบริการผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมดูแลคุณตลอดการเดินทาง

  • Concierge Services…บริการผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมดูแลคุณตลอดการเดินทาง

*การใช้บริการ T-Connect ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเข้าใช้งานตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถ ข้อมูลเพิ่มเติม www.t-connect.in.th

Accessories

  • โลโก้ Fortuner (สีดำเงา/โครเมียม)
  • ชุดตกแต่งกันชนหน้า/หลัง
  • ชุดเซ็นเซอร์เปิด – ปิดประตูท้าย
  • อุปกรณ์ช่วยผ่อนแรงเปิด – ปิด ฝากระโปรงหน้า
  • คิ้วกันกระแทกประตู (สีดำ-เงิน)
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟไร้สาย
  • ที่ชาร์จภายในรถยนต์ (USB)
  • ชุดตกแต่งฝาถังน้ำมันโครเมียม
  • กระจกมองหลังแบบกล้อง
  • กล้องบันทึกภาพด้านหน้าและด้านหลัง
  • ชุดฝาครอบยางอะไหล่
  • ชุดกันโคลนซุ้มล้อ
  • ระบบบริหารหลังไฟฟ้า(บริเวณหลังส่วนหลัง)
  • เบาะรองหลังเพื่อสุขภาพ(สีครีม/สีดำ)

Toyota Fortuner 2021,

ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender…ยนตรกรรมที่ผสมผสานทุกความเป็นที่สุดไว้ในหนึ่งเดียว สู่สัญลักษณ์แห่งความสำเร็จของผู้นำเช่นคุณ

ดีไซน์ภายนอกโดดเด่นในทุกมิติ ยากเกินจะละสายตา

  • กระจังหน้า – กันชนหน้าใหม่…เผยความสง่างามแห่งผู้นำ
  • กันชนหลังใหม่…ดีไซน์ลงตัวในทุกมิติ
  • ไฟเลี้ยวแบบ Sequential…สะกดทุกสายตา
  • ล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 20 นิ้ว…แตกต่างอย่างมีระดับ
  • ไฟหน้าใหม่ Full LED แบบ Dual Projector พร้อม Daytime Running Lights
  • ไฟท้ายใหม่แบบ LED Light Guiding…บ่งบอกสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร
  • หลังคาดำดีไซน์พรีเมียม…สะท้อนความเหนือระดับทุกมุมมองToyota Fortuner 2021,

ดีไซน์ภายในประณีตในทุกรายละเอียด มีสเน่ห์ในทุกสัมผัส

  • มาตรวัดเรืองแสงพร้อมจอแสดงข้อมูลขนาด 4.2 นิ้ว…แสดงรายละเอียดการขับขี่อย่างชัดเจน
  • กระจกมองหลังลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ…ขับขี่ปลอดภัยมากขึ้นตอนกลางคืน
  • ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย…เพิ่มความสะดวกในการขับขี่
  • ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร…มอบความสุนทรียะให้คุณในทุกเส้นทาง
  • 8-Way Power Seats…เบาะนั่งคนขับและเบาะผู้โดยสารตอนหน้า ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทางเพื่อความสะดวกสบาย
  • One Touch Folding Seats…เบาะปรับพับแถว 2 แบบ One Touch เพื่อการใช้งานง่ายขึ้น
  • เบาะหนังสีทูโทน…ที่ผสานความสปอร์ต และความพรีเมียมไว้ในหนึ่งเดียวToyota Fortuner 2021,

อุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายอีกขั้นแห่งความล้ำหน้า สู่ความสะดวกสบายเหนือระดับ

  • หน้าจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว รองรับ Apple Carplay เชื่อมต่อกับทุกความบันเทิงได้อย่างอิสระ
  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สายตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เหนือระดับ
  • ลำโพง JBL 9 ตำแหน่ง 11 ลำโพง ให้คุณภาพเสียงคมชัด ในทุกการเดินทาง
  • ช่องต่อ USB บริเวณคอนโซกลาง 2 ตำแหน่งเพื่อความสะดวกสบายในการชาร์จไฟให้กับผู้โดยสาร
  • เบาะที่นั่งพับและปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ สะดวกสบายในทุกการใช้งาน
  • ประตูท้ายเปิด-ปิด ด้วยไฟฟ้าพร้อมชุดเซ็นเซอร์ และระบบป้องกันการหนีบ ตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ของคุณ
  • กล้องมองรอบคัน เพิ่มทัศนวิสัยปลอดภัยยิ่งขึ้น
  • สัญญาณเตือนกะระยะ 6 ตำแหน่งช่วยระวังมุมอับสายตาเวลาจอดรถ

สมรรถนะการขับขี่พลังการขับเคลื่อนระดับผู้นำ พาคุณสู่ทุกความสำเร็จก่อนใคร

  • ระบบบังคับเลี้ยวแบบ VFC ควบคุมพวงมาลัยแปรผันตามระดับความเร็ว…ให้คุณควบคุมรถได้มั่นใจ
  • ช่วงล่างด้านหน้า แบบอิสระปีกนกคู่ พร้อมคอยล์สปริงและเหล็กกันโคลง… ช่วยซับแรงสั่นสะเทือน
  • ช่วงล่างด้านหลัง แบบโฟร์ลิงค์ คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง…มั่นคงและนุ่มนวลยิ่งขึ้น

เครื่องยนต์ 2.4 และ 2.8 GD Super Power…ที่สุดแห่งขุมพลังเครื่องยนต์ใหม่ เผาไหม้เชื้อเพลิงได้สมบูรณ์แบบให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง (Flat Torque) ตอบรับทุกการขับขี่อย่างเต็มสมรรถนะ ประหยัดน้ำมันยิ่งกว่า

  • เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กำลังสูงสุด 150 แรงม้า(110 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,000 รอบ/นาที
  • เครื่องยนต์ 2.8 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) ที่ 3,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,800 รอบ/นาที

เพลาปรับสมดุล (Balance Shaft)  ในเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร ช่วยลดเสียงและแรงสั่นสะเทือนที่ส่งเข้าสู่ห้องโดยสาร เพิ่มความเงียบและความนุ่มนวลในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

ระบบเทอร์โบแปรผันประสิทธิภาพสูง…พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดครีบปรับแรงดันอากาศ ด้วย

Sport Mode ในเครื่องยนต์ 2.8…ระบบเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่ ตอบสนองอัตราเร่งได้ดียิ่งขึ้น

มอเตอร์ไฟฟ้า ส่งกำลังแรงต่อเนื่องทุกช่วงความเร็ว

Sigma 4 System…ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ให้คุณควบคุมรถได้ดั่งใจ ตอบรับกับทุกสถานการณ์การขับขี่ได้อย่างไรขีดจำกัด

  • ระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ…สำหรับสภาพถนนปกติ ช่วยให้ขับขี่นุ่ม นวล และประหยัดน้ำมัน
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ…สำหรับสภาพถนนเปียกลื่น และทางลูกรังเพิ่มสมรรณะในการขับขี่
  • ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ…สำหรับเส้นทางที่ต้องใช้กำลังการขับเคลื่อนสูง
  • ระบบแสดงสถานะการเลี้ยวของล้อ…เพื่อความสะดวกสบาย ง่ายต่อการขับขี่

ระบบความปลอดภัยหนึ่งเดียวแห่งเทคโนโลยีความปลอดภัย อุ่นใจทุกการเดินทาง

Toyota Safety Sense

  • ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (Pre-Collision System) เรดาร์จะตรวจจับรถที่อยู่ด้านหน้า พร้อมทำการส่งสัญญาณเตือนและช่วยเบรกเพื่อลดโอกาสและความรุนแรงเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
  • ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน (Lane Departure Alert) เมื่อขับรถออกนอกช่องทางโดยไม่เปิดไฟเลี้ยวหรือเบี่ยงออกนอกเลนโดยไม่ตั้งใจ ระบบจะส่งสัญญาณเตือนที่หน้าจอ MID และพวงมาลัยจะทำการหน่วงกลับอัตโนมัติ
  • ระบบควบคุมและปรับความเร็วอัตโนมัติ (Dynamic Radar Cruise Control)ควบคุมความเร็วรถให้คงที่ พร้อมตรวจจับรถที่อยู่ด้านหน้าด้วยเรดาร์และลดความเร็วอัตโนมัติ เพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัย

Active Safety

  • ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC)
  • ระบบการควบคุมการทรงตัว (VSC)
  • ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC)
  • ระบบควบคุมการส่ายของส่วนพ่วงท้าย (TSC)
  • ระบบป้องกันล้อล็อก (ABS)
  • ระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
  • ระบบเสริมแรงเบรก (BA)
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ เพิ่มความมั่นใจในทุกจังหวะเบรก

Passive Safety

  • ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง ปกป้องทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ในทุกการเดินทาง
  • โครงสร้างนิรภัย GOA ช่วยดูดซับและกระจายแรงกระแทก เพื่อช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพื้นที่ห้องโดยสาร
  • พวงมาลัยแบบยุบตัวได้เพื่อป้องกันแรงกระแทกด้านหน้า
  • ELR Seatbelt…3 จุด 7 ที่นั่ง พร้อมระบบดึงกลับและผ่อนแรงอัตโนมัติสำหรับเบาะคู่หน้าช่วยลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุ

T-Connect by Toyotaเชื่อมการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

Always Located & Protect…ให้คุณอุ่นใจ ปลอดภัยไร้กังวลในทุกสถานการณ์

  • Find My Car…เช็กตำแหน่งรถ REAL TIME ได้ทุกที่ ทุกเวลา
  • SOS…ประสานงานช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง ”อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมบางกรณี”
  • TheftTrack…ติดตามรถหายเมื่อถูกโจรกรรมพร้อมประสานความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
  • Geo-Fencing…ระบบแจ้งเตือนเมื่อรถเคลื่อนตัวออกจากขอบเขตที่คุณกำหนดไว้

Telematics CAREให้การดูแลรถยนต์เป็นเรื่องง่าย จัดการได้ทุกปัญหาด้วยบริการแจ้งเตือนล่วงหน้า

  • Maintenance Reminder…แจ้งเตือนเข้าศูนย์บริการพร้อมประสานงานนัดหมาย
  • Vehicle Information...แสดงสถานะรถยนต์ ข้อมูลการขับขี่สรุปทริปการเดินทาง พร้อมให้คุณแชร์ลงโซเชียลอีกทั้งบริการแจ้งเตือนต่อทะเบียนรถประจำปีล่วงหน้าอัตโนมัติ
  • Toyota Care PHYD (Pay How You Drive)…ประกันภัยรถ “ขับดี ลดให้” สิทธิพิเศษด้วยเบี้ยประกัน จ่ายตามพฤติกรรมการขับขี่อีกทั้งช่วยแจ้งเตือนต่อประกันภัยฯ ล่วงหน้าอัตโนมัติ ”สำหรับการทำประกันภัยกับบริษัทฯ ที่กำหนดไว้เท่านั้น”

Happiness Mobilityบริการผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมดูแลคุณตลอดการเดินทาง

  • Concierge Services…บริการผู้ช่วยส่วนตัว พร้อมดูแลคุณตลอดการเดินทาง

*การใช้บริการ T-Connect ต้องดาวน์โหลดแอพพลิเคชันเข้าใช้งานตามเงื่อนไขที่กำหนด โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของรถ ข้อมูลเพิ่มเติม www.t-connect.in.th

โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่นมาตรฐาน มี 3 รุ่นย่อย มีสีภายนอกให้เลือก 6 สี (สีใหม่ 2 สี)
ราคาเปิดตัววันนี้ – 30 กันยายน 2563 มีดังต่อไปนี้

  • 2.4G เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,494,000 บาท จาก 1,524,000 บาท
  • 2.4V เกียร์อัตโนมัติ 1,424,000 บาท จาก 1,454,000 บาท
  • 2.4G เกียร์อัตโนมัติ 1,319,000 บาท จาก 1,349,000 บาท (สำหรับสี Emotional Red และ สี White Pearl CS เพิ่ม 12,000 บาท)

สำหรับ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ รุ่น Legender มี 4 รุ่นย่อย

มีสีภายนอกให้เลือก 3 สี สีใหม่ 1 สี คือสีแดง Emotional Red Black Top

โดยมีราคาจำหน่ายดังนี้

  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,839,000 บาท
  • 2.8 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,769,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อน 4 ล้อ 1,634,000 บาท
  • 2.4 Legender เกียร์อัตโนมัติ 1,564,000 บาท

(สำหรับสี Emotional Red Black Top และ สี White Pearl CS Black Top เพิ่ม 20,000 บาท)

สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์ ของ Toyota Fortuner ใหม่ ซึ่งนำเสนอโดย ดร จุฬชาติ จงอยู่สุข หัวหน้าวิศวกรระดับภูมิภาค และผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนผลิตภัณฑ์ บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด สามารถชมได้ ต่อจากนี้

สำหรับลูกค้าที่ซื้อ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ จะได้รับแพ็คเกจ รับประกันคุณภาพ 5 ปี 150,000 กม. และขยายค่าแรงเช็กระยะฟรี จนถึง 100,000 กม. มูลค่ากว่า 45,000 บาท พิเศษวันนี้ ถึง 30 กันยายน ศกนี้เท่านั้น

พบกับ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ใหม่ ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป ทดลองขับได้ที่ Toyota Driving Experience Park (TDEX) บางนา (กม.3) ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายนนี้ เป็นต้นไป

Leave a Reply