กับความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนาน กว่า 48 ปี ในที่สุด Mazda ก็ได้ยุติสายสัมพันธ์กับ FORD ที่เป็นรูปธรรมต่อสาธารณชน ด้วยการเปิดต้ว The All-New Mazda BT-50 Pro เจนเนอเรชั่นที่ 3 รหัส RG04 กับพันธมิตรใหม่สายเลือดบูชิโดเช่นกัน นั่นก็คือ Isuzu ด้วยการใช้แพลตฟอร์มร่วมกัน กับรถกระบะยอดนิยมในไทย อย่าง D-MAX โฉมใหม่ล่าสุด
Mazda ได้เริ่มพัฒนา BT-50 Pro โฉมใหม่ เมื่อ 5 ปีก่อน ด้วยการออกแบบภายใต้ปรัชญา และแนวคิดการออกแบบ ”โคโดะ” หรือจิตวิญญาณแห่งการเคลื่อนไหวอันงดงามของมาสด้า โดยมีทีมงานจาก Mazda ออสเตรเลีย เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา ในฐานะที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของ BT-50 โดยพยายามสร้างให้รถกระบะรุ่นนี้ ตอบโจทย์ได้หลากหลายมากกว่าเดิม เพราะกลุ่มลูกค้าจำนวนหนึ่ง นอกจากจะใช้รถกระบะ ในงานด้านธุรกิจขนส่ง และการเกษตรแล้ว ยังมองถึงการใช้งานในแบบรถ SUV หรือรถยนต์สำหรับครอบครัว ซึ่งจุดนี้ จะช่วยไปเสริมตลาดของพันธมิตรอย่าง Isuzu D-MAX ที่เน้นในด้านการใช้งานมากกว่า ถือว่าเป็นความร่วมมือที่ลงตัว ในการขยายตลาด
โดย Isuzu จะเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่ตอบโจทย์โดยรวม ให้กับ Mazda ซึ่งร่วมถึงเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ ความจุ 3.0 ลิตร ที่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญ ของรถกระบะทั้ง 2 รุ่น สิ่งเหล่านี้ เป็นจุดขายสำคัญของ Isuzu D-MAX ที่ Mazda สามารถสร้างความได้เปรียบ โดยไม่ต้องเริ่มต้นใหม่จากศูนย์ ซึ่ง Mazda เอง ก็ต่อยอดความสมบูรณ์แบบขึ้นไปอีก ด้วยการออกแบบรูปลักษณ์ ทั้งภายนอกและภายใน ที่สร้างความเป็นเอกลักษณ์ ให้กับ BT-50 Pro
ภายในห้องโดยสาร ทั้งของ BT-50 Pro และ D-MAX ต่างก็มีดีไซน์ในแบบของตัวเอง ยกเว้นส่วนของพวงมาลัย ที่ใช้โครงสร้างหลักเดียวกัน จะแตกต่าง ก็เพียงปุ่มควบคุม และการออกแบบบางส่วนเท่านั้น มาพร้อมจอแสดงผลกลางขนาด 9 นิ้ว ในด้านอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบายต่างๆ BT-50 Pro โฉมใหม่ มาพร้อมระบบปรับอากาศแบบ Dual Zone ช่องแอร์ด้านหลัง ปุ่ม push start ระบบกุญแจล็อคและปลดล็อครถอัตโนมัติ ที่จะปลดล็อคอัตโนมัติ ในระยะ 2 เมตร ขณะเข้าใกล้ตัวรถ และล็อครถ เมื่อเดินออกห่างจากตัวรถ เกินระยะ 3 เมตร ระบบทำความอุ่นเบาะนั่ง กล่องเก็บถุงมือแบบคู่ ที่ใส่ของข้างประตูขนาดใหญ่ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง รองรับระบบปฏิบัติการ Android Auto และ Apple Carplay แบบไร้สาย พวงมาลัยปรับสูงต่ำเข้าออกได้ โดยด้านหลังของเบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า จะมีตะขอเหล็กสำหรับแขวนสัมภาระ ที่บังแดดเหนือศีรษะด้านหน้า จะมีกระจกแต่งหน้ามาให้ แต่ไม่มีไฟส่องสว่าง
การออกแบบรูปโฉม เกิดขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยมีทีมงานจาก Mazda ออสเตรเลียเข้าร่วมตั้งแต่ต้น ก่อนการออกแบบ เพื่อให้ BT-50 Pro โฉมใหม่ ออกมาเป็นอย่างตลาดที่ต้องการ
Mazda BT-50 Pro โฉมใหม่ มีน้ำหนักน้อยกว่าเจนเนอเรชั่นก่อน 90 กิโลกรัม ส่งผลให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น มีการกระจายแรงบิดที่ดีขึ้น กล่องเกียร์ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม ซึ่งน้ำหนักที่้ลดลงนี้ ทำให้สมรรถนะโดยรวม ดีกว่า BT-50 Pro รุ่นก่อน
ในด้านระบบความปลอดภัย และเทคโนโลยีที่ใช้ ถือว่า BT-50 Pro โฉมใหม่ มีการก้าวกระโดดในเรื่องนี้ โดยมาพร้อมระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน Adaptive Cruise Control ที่ใช้กล้องสองตัว ที่ถูกติดตั้งไว้ บริเวณด้านบนของกระจกหน้ารถ ในการตรวจจับ จากปกติ ที่มักจะติดตั้งเซนเซอร์เรดาห์ ไว้บริเวณกระจังหน้า นอกจากนั้น ยังมีระบบเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ ระบบเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน เป็นต้น Mazda BT-50 Pro โฉมใหม่ ยังมาพร้อมถุงลมนิรภัยกลาง ซึ่งถือว่าเป็นรถกระบะรุ่นแรกๆในตลาด จุดนี้ จะช่วยเพิ่มโอกาส ในการผ่านการทดสอบการชน ที่ระดับ 5 ดาวได้
Mazda BT-50 Pro โฉมใหม่ ที่จำหน่ายในประเทศออสเตรเลีย เป็นรุ่นดับเบิ้ลแค็บ 4 ประตู ขับเคลื่อนสองล้อแบบยกสูง และแบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด โดยมีขุมพลัง เป็นบล็อคเดียวกันกับที่ใช้ใน Isuzu D-MAX เจนเนอเรชั่นล่าสุด นั่นก็คือ เครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 4 สูบ ความจุ 2,999 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์ (หรือ 190 แรงม้า PS) ที่ 3,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,600 – 2,600 รอบต่อนาที น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,065 กก. ความสามารถในการลากจูง 3,500 กก.
มิติตัวถังของ Mazda BT-50 Pro โฉมใหม่ มีดังนี้ ยาว 5,280 มม. กว้าง 1,870 มม. สูง 1,790 มม. ระยะฐานล้อ 3,125 มม.
รัศมีวงเลี้ยวแคบสุด 6.1 เมตร ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ยางขนาด 265/60R18
Mazda จะเริ่มจำหน่าย BT-50 Pro โฉมใหม่ ในประเทศออสเตรเลีย หลังจากการเปิดตัว All-New Isuzu D-MAX ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนกันยายนที่จะถึง ส่วนเมืองไทย Mazda ยังไม่มีกำหนดการที่แน่นอน ในการเปิดตัว