แม้ว่างานแสดงยานยนต์แห่งปี อย่าง Geneva Motor Show 2020 ได้ถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ Bugatti ยังคงเดินหน้าตามแผนเดิม ด้วยการเปิดตัว Chiron Pur Sport อีกหนึ่งร่างใหม่ของ Chiron ไฮเปอร์คาร์รุ่นเรือธงของบริษัท โดย Chiron รุ่นพิเศษนี้ Bugatti ออกแบบมา เพื่อให้เป็น Chiron สำหรับผู้ขับขี่อย่างแท้จริง จากประสบการณ์มากกว่า 110 ปี ด้วยการอัพเกรดในด้านอากาศพลศาสตร์ และระบบกันสะเทือน จากการลดน้ำหนัก เพิ่มสมรรถนะ มีการควบคุมการขับขี่ที่ดีขึ้น และให้ความสนุกตื่นเต้น ในทุกโค้งที่ขับผ่าน
เครื่องยนต์ควอดเทอร์โบ รหัส W16 ขนาดความจุกระบอกสูบ 8.0 ลิตร ยังให้ระดับพละกำลังเดิม ที่ 1,500 แรงม้า PS ที่ 6900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 1600 นิวตันเมตร ที่ 2000-6000 รอบ/นาที โดยระดับเรดไลน์ ได้ถูกขยับขึ้นไปอีก 200 รอบ/นาที เป็น 6900 รอบ/นาที เพื่อปรับให้เข้ากับ ระบบส่งกำลังอัตโนมัติ ที่ได้รับการปรับจูนมาใหม่ โดยกล่องเกียร์ ได้รับการปรับอัตราทดเกียร์ ให้ชิดกันมากขึ้น 15% ช่วยให้การกระจายกำลัง และการตอบสนองการขับขี่ ทำได้ดีขึ้น ส่งผลให้การเร่งความเร็ว จาก 60 กม/ชม ไปเป็น 120 กม/ชม ทำได้ต่ำกว่า 2 วินาที โดยความเร็วสูงสุดของไฮเปอร์คาร์รุ่นนี้ อยู่ที่ 350 กม/ชม นอกจากนั้น ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่ใหม่ Sport + ที่เพิ่มสุนทรียภาพในการควบคุม ให้จับต้องได้มากขึ้น
แชสซีส์ได้รับการอัพเกรด ให้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก รวมถึงการใช้ชุดสปริงหน้าและหลัง ที่แข็งแรงกว่าเดิม 65 และ 33% ตามลำดับ มีการใช้แดมเปอร์แบบแปรผัน ที่เน้นให้รองรับสมรรถนะที่สูงขึ้นโดยเฉพาะ วิศวกรของ Bugatti ยังได้เพิ่มการยึดเกาะถนน ให้มากขึ้น ด้วยการเพิ่มเป็นความหนึ่งเดียวกัน ของทั้งแชสซีส์ ระบบกันสะเทือน และตัวถัง ให้มั่นคง และมีเสถียรภาพกว่าเดิม ถึง 130% สำหรับด้านหน้า และ 77% สำหรับด้านหลัง
Bugatti Chiron Pur Sport ยังมาพร้อมล้ออัลลอย Aero ที่มีน้ำหนักเบาขึ้น โดยถูกออกแบบ ให้รองรับอากาศพลศาสตร์ที่ดีขึ้น และระบบเบรค ที่ระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิม ยางที่ใช้เป็นรุ่นพิเศษ Bugatti Sport Cup 2 R ที่พัฒนาขึ้นโดย Michelin ขนาด 285/30 R20 สำหรับล้อหน้า และขนาด 355/25 R21 สำหรับล้อหลัง
ในเรื่องของระบบห้ามล้อ Bugatti เลือกใช้ดิสก์เบรค และชิ้นส่วนต่างๆ ทำจากวัสดุไทเทเนียมแบบใหม่ ที่มีน้ำหนักเบากว่าเดิม ซึ่งทำให้ทั้งล้อและเบรค ของ Chiron Pur Sport มีน้ำหนักรวม น้อยของกว่า Chiron รุ่นมาตรฐาน ถึง 19 กิโลกรัม ซึ่งโดยรวมทั้งคัน Chiron Pur Sport มีน้ำหนักเบากว่ารุ่นมาตรฐาน ถึง 50 กิโลกรัม
ในด้านรูปโฉมภายนอก Bugatti Chiron Pur Sport ได้รับการติดตั้งพาร์ตชิ้นใหม่รอบคัน ด้วยช่องดักอากาศด้านหน้า ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น กระจังหน้ารูปเกือกม้า ขนาดใหญ่กว่าเดิม และสปลิตเตอร์เบี่ยงเบนการไหลของอากาศชุดใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ด้านหลังของ Chiron Pur Sport ก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเช่นกัน สปอยเลอร์หลัง มีความกว้างถึง 1.9 เมตร ช่วยเพิ่มแรงกดอากาศได้อย่างมหาศาล ชุดท่อไอเสียทำจากวัสดุไทเทเนี่ยม ที่มีการขึ้นรูปด้วยการพิมพ์แบบ 3 มิติ ซึ่งทนต่อสภาพอากาศ และอุณหภูมิแบบสุดขั้ว ได้เป็นอย่างดี
Bugatti จะทำการผลิต Chiron Pur Sport ออกมาเพียง 60 คันเท่านั้น ในครึ่งหลังของปี 2020 โดยมีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 3,200,000 ยูโร หรือคิดเป็นเงินไทย อยู่ที่ประมาณ 113 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม