ในที่สุด Mitsubishi Motors Corporation ก็ได้เปิดตัวรถยนต์รุ่นเรือธงอีกหนึ่งรุ่น ในประเทศอินโดนีเซีย นั่นก็คือ Xpander Cross รถ mini MPV สายพันธุ์ใหม่ สไตล์ SUV หลังจากที่มีข่าวคราวมาก่อนหน้านี้นานร่วมปี โดยการเปิดตัวในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการเปิดตัวในระดับ world premiere เพราะ Mitsubishi มีแผนในการทำตลาดรถรุ่นนี้ ในประเทศ ASEAN และประเทศต่างๆทั่วโลก และกำลังพิจารณาส่งออกไปจำหน่ายในตลาดต่างๆ รวมกว่า 40 ประเทศ จาก 13 ประเทศในปัจจุบัน นั่นทำให้ Mitsubishi เตรียมขยายกำลังการผลิต เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์ ที่จะส่งออกเพิ่มขึ้น โดยก่อนหน้านี้ เราได้นำเสนอข้อมูลสำคัญของรถรุ่นนี้ไปบ้างแล้ว ซึ่งก็ไม่มีอะไรแตกต่างไปจากนั้นมากนัก เพียงแต่มีข้อมูลที่น่าสนใจหลายอย่างเพิ่มเข้ามา
Misubishi Xpander Cross มาพร้อมดีไซน์ใหม่รอบคัน เรียกว่า สามารสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเองได้อย่างชัดเจน ด้วยด้านหน้าทรงเหลี่ยม ดูดุดันกว่า Xpander รุ่นมาตรฐาน ให้ความรู้สึกถึงรถ PPV รุ่นพี่อย่าง Pajero Sport ที่เพิ่งเปิดตัวไป โดยมาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ กันชนหน้า ก็ได้รับการปรับเปลี่ยน มาพร้อม skid plate กันกระแทกด้านหน้า ที่ดูสปอร์ตมากขึ้น ชุดไฟหน้าและเบ้าไฟ ก็ได้รับการออกแบบใหม่ โดยจะเป็นแบบ LED ทั้งหมด รวมถึงไฟตัดหมอกหน้า ส่วนด้านข้าง จะมาพร้อมคิ้วซุ้มล้อ และชายล่างสีดำ มีการติดตั้งราวหลังคามาให้ด้วย ที่ช่วยเพิ่ม look ในแบบรถ suv มากขึ้น ส่วนล้ออัลลอย เป็นขนาด 17 นิ้วแบบ 5 ก้าน ลายใหม่
ด้านท้ายจะพบว่า ประตูท้าย ส่วนที่อยู่ใต้กระจกหลัง จะตกแต่งด้วยวัสดุสีเปียโนแบล็ค มาพร้อม skid plate กันกระแทกสไตล์สปอร์ตสีเงิน ใต้กันชนหลัง สอดรับกับด้านหน้า
Xpander Cross จะมาพร้อม 2 สีใหม่ คือสีเทา Graphite Gray metallic และสีส้ม Sunrise Orange metallic โดยสีส้ม จะเป็นสีที่มีเฉพาะในรุ่น Xpander Cross เท่านั้น มาพร้อมภายในห้องโดยสาร โทนสีดำ/น้ำตาล ตกแต่งด้วยชิ้นส่วนสีเงิน เพิ่มความหรูหรา
Xpander Cross เป็นรถที่มี ground clearance หรือระยะจากพื้นถึงใต้ท้องรถ มากที่สุดในรถยนต์ระดับเดียวกัน คือที่ 225 มิลลิเมตร เพิ่มจากรุ่นมาตรฐาน 20 มิลลิเมตร ตามที่เราได้นำเสนอไปก่อนการเปิดตัว นั่นทำให้รถ mini MPV รุ่นนี้ สามารถบุกตะลุยในทางออฟโรด หรือลุยน้ำได้ดีกว่าเดิม เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ นอกเหนือไปจากทัศนวิสัยในการมองเห็นที่ดีขึ้น
สำหรับขุมพลังของ Xpander Cross เป็นเครื่องยนต์เบนซิน MIVEC รหัส 4A91 ความจุ 1499 ซีซี ที่ได้รับการพัฒนาใหม่ ให้ดีกว่าบล็อกเดิม รหัส 4A9 ด้วยการประหยัดน้ำมันมากขึ้น เครื่องยนต์เดินเรียบ เงียบกว่าเดิม ให้กำลังสูงสุด 103 แรงม้า ที่ 6000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 141 นิวตันเมตร ที่ 4000 รอบ/นาที โดยมาพร้อมเกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด หรือเกียร์ธรรมดา 5 สปีด
และด้วยการใช้วัสดุดูดซับเสียงคุณภาพสูงรอบคัน Mitsubishi เคลมว่า Xpander Cross เป็นรถที่มีห้องโดยสารเงียบที่สุด และมีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดในรถยนต์คลาสเดียวกัน ด้วยความกว้างที่มากกว่ารุ่นมาตรฐาน 50 มิลลิเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 7 ที่นั่ง โดยเบาะนั่งแถวที่ 2 สามารถรองรับได้ 3 ที่นั่ง ที่ให้ความสบายในการโดยสาร และสามารถเลื่อนออก เพื่อให้เข้าถึงที่นั่งแถวที่ 3 ได้ง่ายกว่าเดิม โดยที่นั่งแถว 2 และ 3 สามารถปรับพับได้ ในอัตราส่วน 60-40 และ 50-50 ตามลำดับ โดยสามารถพับราบกับพื้น ได้ทั้งสองแถว เพื่อการบรรจุสัมภาระขนาดใหญ่ และแม้ว่าจะมีผู้โดยสารมากถึง 7 คน แต่ก็ยังมีพื้นที่เหลือ ให้สามารถจุสัมภาระ ที่มีขนาดเท่ากับถังน้ำ 4 แกลลอน หรือรถเข็นเด็ก ขนาดมาตรฐาน ได้ 1 คัน
Xpander Cross ยังมาพร้อมเทคโนโลยีต่างๆ ที่ช่วยยกระดับความหรูหรา และความสะดวกสบาย ให้กับ mini MPV ยอดนิยมรุ่นนี้ นั่นคือ พวงมาลัยปรับได้ แบบ tilt & telescopic ระบบ Cruise control ระบบไฟส่องสว่างภายนอกแบบตั้งโปรแกรมได้ เช่น ไฟ Welcome and Coming Home ไฟหน้าปิดอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังมีมาตรวัดต่างๆแบบสี high contrast และระบบปรับอากาศ ที่มาพร้อมระบบทำความเย็นประสิทธิภาพสูง ที่ Mitsubishi เคลมว่า ดีที่สุดในคลาสเดียวกัน
Mitsubishi อินโดนีเซีย จะจำหน่าย Xpander Cross ใน 3 รุ่นย่อย คือรุ่น Sport MT รุ่น Sport AT และรุ่น Premium AT ที่มาพร้อมเบาะนั่งหุ้มหนัง ในราคาเริ่มต้น ที่ 267 ล้านรูเปี๊ยะห์หรือ 572,000 บาท ไปจนถึง 286.7 ล้านรูเปี๊ยะห์หรือ 615,000 บาท โดยจะมีการยืนราคา ไปจนถึงสิ้นปี 2019 นี้เท่านั้น ก่อนที่จะมีการปรับราคาเพิ่มขึ้น
Mitsubishi จะทำการผลิต Xpander Cross ที่โรงงานในประเทศอินโดนีเซีย ในไลน์การผลิตเดียวกับ Xapnder รุ่นมาตรฐาน และได้เริ่มจำหน่ายในประเทศที่อินโดนีเซียไปแล้ว ในวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1,500 คัน/เดือน ซึ่ง Xpander รุ่นมาตรฐาน มียอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 5,500 คันต่อเดือน