บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัว ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ อีกขั้นของเอกลักษณ์แห่งยนตรกรรมสปอร์ตพรีเมียมแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ที่ผสานสปิริตความสปอร์ต โดดเด่นไม่เหมือนใคร ด้วยดีไซน์การออกแบบ ที่ยกระดับความสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว ทั้งภายนอกและภายใน ด้วยชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน พร้อมท่อไอเสียแบบคู่กลางสไตล์สปอร์ต และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 17 นิ้ว
เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ท้าทายทุกความเร้าใจ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร VTEC TURBO ที่ให้ทั้งความแรง และการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม ครบครันด้วยเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม พร้อมนวัตกรรมเชื่อมต่อ เพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ฮอนด้า คอนเนค (Honda CONNECT) มาพร้อมสีใหม่ สีเทามุกโซนิค จำหน่าย ในราคา 1,229,000 บาท
พร้อมมอบข้อเสนอพิเศษ ได้แก่ โปรแกรมการให้บริการพิเศษ ด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) และร่วมข้อเสนอในแคมเปญ “ฮอนด้า ดีจัด ต้องบัด NOW!” รับฟรี จักรยานพับ โมดูโล
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาพร้อมความสปอร์ตโฉบเฉี่ยว และหรูหรา เสริมสปิริตความสปอร์ต ให้โดดเด่นและดุดันยิ่งขึ้น ด้วยกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่ มาพร้อมไฟหน้า และไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน แบบ LED ชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน ท่อไอเสียแบบคู่ตรงกลาง สไตล์สปอร์ต และล้ออัลลอย ดีไซน์ใหม่ขนาด 17 นิ้ว อีกทั้งไฟท้ายรูปทรงตัว C แบบ LED เอกลักษณ์เฉพาะของซีวิค ที่ผสานให้ ซีวิค แฮทช์แบ็ก เป็นยนตรกรรม 5 ประตูที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่นไม่เหมือนใคร และสปอร์ตเร้าใจกว่าที่เคย
เพิ่มความมั่นใจในทุกการขับขี่ ด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ซึ่งประกอบด้วย
ระบบเตือนการชนรถ และคนเดินถนน พร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็ว ตามรถยนต์คันหน้า ที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
ระบบช่วยควบคุมรถ ให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
ระบบเตือนและช่วยควบคุม เมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
อีกทั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียม อาทิ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตา ขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch) กล้องส่องภาพด้านหลัง ปรับมุมมอง 3 ระดับ (Multi-angle Rearview Camera ) ครบครันด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัย อาทิ ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) ระบบ Auto Brake Hold และระบบล็อกรถอัตโนมัติ เมื่อกุญแจรีโมท อยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock) เป็นต้น
ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย ยกระดับความสปอร์ตพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการตกแต่งดีไซน์สปอร์ตใหม่ แบบ RS ด้วยเบาะหนังสีดำ เดินด้ายสีแดง มาตรวัด พร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT สีแดง แป้นเหยียบคันเร่งและเบรก แบบสปอร์ต มาพร้อมการตกแต่งคอนโซลสีดำแบบ Piano Black และยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบาย และกว้างขวาง ด้วยพื้นที่บรรทุกสัมภาระด้านท้ายที่เบาะหลัง สามารถปรับ พับแยกได้แบบ 60:40 เพื่อช่วยเพิ่มพื้นที่ความจุ ในการเก็บสัมภาระ พร้อมม่านปิดสัมภาระ ที่สามารถเลือกปิดเก็บได้ ทั้งซ้ายและขวา ตอบรับทุกการใช้งานได้อย่างลงตัว
เร่งให้ถึงขีดสุดความสปอร์ต พร้อมท้าท้ายทุกความเร้าใจ ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร DOHC VTEC TURBO 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมด้วยระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งทั้งเครื่องยนต์และระบบเกียร์ดังกล่าว ให้กำลังสูงสุด 173 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที ด้วยแรงบิดสูงสุด ที่ 220 นิวตัน-เมตร ที่ 1,700-5,500 รอบต่อนาที จากเทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน (Direct Injection) ให้สมรรถนะการขับขี่ เทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 2.4 ลิตร แต่มีอัตราการประหยัดน้ำมัน เทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร
ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยฟังก์ชันและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัย อาทิ ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์พร้อมเครื่องปรับอากาศ ด้วยกุญแจรีโมท (Remote Engine Start) ที่สามารถสั่งการได้จากระยะไกล เพื่อช่วยอุ่นเครื่อง พร้อมปรับอุณหภูมิภายในห้องโดยสารล่วงหน้า ก่อนออกเดินทาง เป็นต้น
ทั้งนี้ สามารถยกระดับสปิริตความสปอร์ตให้โดดเด่นขึ้นอีกขั้น ด้วยชุดอุปกรณ์ตกแต่งโมดูโล (Modulo) ไอเท็มใหม่ ได้แก่ คิ้วตกแต่งกระจังหน้าสีแดง และสีเงิน ราคา 5,700 บาท คิ้วบันไดสเตนเลส LED ราคา 3,900 บาท (1 ชุดมี 4 ชิ้น/ไฟ LED สีแดง เฉพาะคู่หน้า) อีกทั้งล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ซึ่งมีให้เลือก 3 ดีไซน์ ได้แก่ สีเงิน ราคา 5,100 บาท ขอบสีแดง ราคา 5,250 บาท และสีดำด้าน ราคา 5,900 บาท (เป็นราคาต่อ 1 วง ไม่รวมยาง)
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ รุ่น HATCHBACK TURBO RS ราคา 1,229,000 บาท มีให้เลือกทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเทามุกโซนิค สีแดงแรลลี่ สีขาวมุกแพลทินัม สีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) และ สีดำมุก คริสตัล
- สีขาวมุกแพลทินัม เพิ่มเงิน 10,000 บาท ส่วนสีเทามุกโซนิค และ สีดำมุกคริสตัล เพิ่มเงิน 6,000 บาท – ราคาแพ็กเกจชุดแต่งโมดูโล ไม่รวม VAT 7%
ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ มาพร้อมข้อเสนอพิเศษ รับโปรแกรมการให้บริการพิเศษ ด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง อีก 2 ปี หรือ 40,000 กม. และร่วมข้อเสนอในแคมเปญ “Honda ดีจัด ต้องบัด NOW!” รับจักรยานพับ โมดูโล (Modulo Foldable Bicycle) มูลค่า 7,990 บาท เมื่อจองรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม และรับรถยนต์ ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน – 31 ธันวาคม ศกนี้
อีกทั้งมาพร้อมดอกเบี้ย 2.39% เมื่อดาวน์ 25% และผ่อนชำระค่างวด ตั้งแต่ 12 – 48 เดือน สำหรับพนักงานบริษัทเอกชนทั่วไป รับส่วนลดดอกเบี้ยพิเศษ ลดลงจากดอกเบี้ยปกติอีก 0.15% อีกทั้งลูกค้าปัจจุบัน (Honda Loyalty) รับดอกเบี้ยพิเศษ ลดลงสูงสุด 0.30%
พบกับ ฮอนด้า ซีวิค แฮทช์แบ็ก ใหม่ ได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤศจิกายน 2562 ณ โชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้า ทั่วประเทศ และที่บูทฮอนด้า (A14) ในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 36 (The 36th Thailand International Motor Expo 2019) ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน – 10 ธันวาคม 2562 ณ อาคารชาเลนเจอร์ฮอลล์ 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี