รีวิว Toyota GR Supra 2020 รถสปอร์ตคู่แฝด BMW Z4 เปิดตัวในไทย ที่ราคา 4.999 ล้านบาท

โดย Toyota GR Supra เจเนอเรชั่นที่ 5 นี้ ถือเป็นรุ่นแรก ที่ได้รับการพัฒนา และแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการ โดย Toyota GAZOO Racing แบรนด์รถแข่งมอเตอร์สปอร์ตระดับโลก ของโตโยต้า ที่ดำเนินงานด้วยหลักปรัชญาที่ว่า การทดสอบขีดจำกัด ของสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูงสุดของรถยนต์ จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถยนต์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราไม่สามารถเห็นได้ ในการขับขี่แบบปกติในชีวิตประจำวัน โดยทั้งหมด ล้วนเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย ในการพัฒนายนตรกรรมที่ดียิ่งกว่าของโตโยต้า

โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย และ โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ร่วมกันแถลงข่าวแนะนำรถสปอร์ตในตำนาน “Toyota GR Supra” ที่ออกแบบภายใต้แนวคิดของการพัฒนารถยนต์ “จากสนามแข่งสู่ท้องถนน” (From Circuit To Road) เป็นการกลับมาของรถสปอร์ตในตำนาน ที่มาพร้อมกับคำนิยามของความสมบูรณ์แบบ ทั้งสมรรถนะในการขับขี่ รวมไปถึงรูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตในทุกมิติ

หลังจากที่ห่างหายไปจากตลาดรถยนต์ เป็นระยะเวลากว่า 17 ปี รถ GR รุ่นแรก ที่ผลิตโดย TOYOTA GAZOO Racing ก็ได้ทำการเปิดตัวไปทั่วโลก จากแรงบันดาลใจอันยาวนานกว่า 50 ปี ที่มอบประสบการณ์อันเป็นที่สุดของการผสมผสานสุดยอดสมรรถนะในการขับขี่ และเอกลักษณ์สไตล์รถสปอร์ตได้อย่างลงตัว โดย Toyota GR Supra ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Condensed Extreme” ซึ่งเป็นการออกแบบที่มุ่งเน้นการจัดสรรองค์ประกอบ และมิติต่างๆของตัวรถ ให้ส่งเสริมสมรรถนะอันโดดเด่นของรถสปอร์ต

ทั้งนี้ คำว่า “Condensed” สื่อถึงความสัมพันธ์ของส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความยาวของตัวรถ ระยะฐานล้อ ไปจนถึงการวางตำแหน่งของล้อและยาง ส่วน “Extreme” นั้น สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างห้องโดยสาร (คือตำแหน่งผู้ขับ) และระยะห่างระหว่างล้อที่ถูกขยายให้กว้าง และเมื่อเทียบกับ Belt line แนวสันด้านข้างตัวถัง ที่ถูกกดให้ต่ำและโป่งนูนออกมามากเป็นพิเศษ ทำให้ GR Supra มีความโดดเด่นกว่ารถสปอร์ตทั่วไป และการออกแบบด้วยแนวคิด Condensed Extreme นี้ ทำให้ Toyota GR Supra มีขนาดห้องโดยสารที่พอเหมาะ ลงตัวกับตำแหน่งตัวรถ ที่กดต่ำและหนักแน่น ส่งผลให้รถมีการบังคับควบคุม และมีเสถียรภาพในระดับสูง

ดีไซน์ภายนอก มาพร้อมมุมมองด้านข้างที่เน้นองค์ประกอบ ระหว่างล้อขนาดใหญ่ กับช่วงล้อที่สั้นกระชับ

  • ตำแหน่งของตัวรถที่ถูกกดให้ต่ำ และกว้างมากเป็นพิเศษ อันเนื่องมาจากห้องโดยสารขนาดพอเหมาะ รองรับด้วยระยะห่าง ระหว่างล้อซ้าย-ขวา ที่ขยายกว้างออกมาอย่างเด่นชัด
  • ส่วนหน้ารถที่ยาว และห้องโดยสารที่สั้น เสริมภาพลักษณ์ของรถยนต์สปอร์ตแบบหกสูบเรียง เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง

โดยมีมิติตัวถังดังนี้ ยาว 4379 มม กว้าง 1854 มม สูง 1294 มม ระยะฐานล้อ 2470 มม ระยะต่ำสุดจากพื้น 115 มม ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว หุ้มด้วยยางหน้า ขนาด 255/35 ยางหลัง ขนาด 275/35

ไฟหน้าของ GR Supra เป็นแบบ Adaptive LED แบบ 6 เลนส์ มาพร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวันแบบ LED โดยไฟท้าย ไฟตัดหมอกหลัง และไฟเบรกดวงที่ 3 ก็เป็นแบบ LED ทั้งหมด กระจกมองข้างปรับไฟฟ้า แบบลดการเกาะตัวของหยดน้ำ มาพร้อมระบบบันทึก และปรับลดแสงอัตโนมัติ บั้นท้ายมาพร้อมท่อไอเสียคู่

ดีไซน์ภายใน มาพร้อมรูปลักษณ์ตามแบบฉบับของรถยนต์สปอร์ต และคอนโซลที่สูงและกว้าง

  • ห้องโดยสารรูปแบบใหม่ที่กะทัดรัด พร้อมการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ โดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก ทั้งระบบเกียร์แบบไฟฟ้า แผงหน้าปัดแบบจอ TFT และ HUD แบบสีขนาดใหญ่

นอกจากนั้น ยังมาพร้อมระบบเครื่องเสียง วิทยุ AM/FM ระบบนำทาง และลำโพง JBL 12 ตำแหน่ง จอระบบสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ที่พวงมาลัย ระบบควบคุมเครื่องเสียง และระบบนำทาง ผ่านปุ่มควบคุมกลาง แบบหมุนและสัมผัส ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth ช่องเชื่อมต่อ USB 1 ตำแหน่ง

เบาะนั่ง หุ้มด้วยหนังแท้และ Alcantara สีดำ-แดง เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมระบบ heater ปุ่มปรับดันหลังไฟฟ้า ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ 2 โซน (ปรับอิสระแยกซ้าย-ขวา) ระบบไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสาร ระบบ Sport Drive และเบรคมือไฟฟ้า

นอกจากนั้น ยังมีระบบควบคุมการเปิดปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ระบบสตาร์ทอัจฉริยะ และระบบเปิดประตูอัจฉริยะ ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย ที่ปัดน้ำฝนแบบตั้งหน่วงเวลา พร้อมระบบควบคุมการปัดน้ำฝนอัตโนมัติ กระจกมองหลัง ปรับลดแสงอัตโนมัติ หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย ช่องเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า 12 โวลท์ 2 ตำแหน่ง ที่คอนโซล และที่เก็บสัมภาระด้านท้าย

ขุมพลังของ GR Supra เป็นเครื่องยนต์เบนซินรหัส B58B30C แบบ Twin-Scroll Turbo 6 สูบ DOHC 24 วาล์ว ความจุ 2,998 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 340 แรงม้า PS ที่ 5000-6500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร ที่ 1600-4500 รอบ/นาที ขับเคลื่อนล้อหลัง ผ่านระบบส่งกำลังอัตโนมัติ 8 สปีด

ระบบช่วงล่างเป็นแบบ Adaptive Variable Suspension ด้านหน้าแบบ McPherson Strut ด้านหลังแบบ Multi-Link โดยระบบเบรกทั้งหน้าและหลัง เป็นดิสก์เบรก พร้อมคาลิปเปอร์สีแดงสปอร์ต

ส่วนระบบความปลอดภัยของ GR Supra ได้แก่ ระบบป้องกันล้อล็อค ABS ระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี พวงมาลัยปรับแบบ Tilt & Telescopic เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด 2 ตำแหน่ง ถุงลมเสริมความปลอดภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านด้านข้าง และหัวเข่าฝั่งคนขับ ระบบตรวจวัด และแจ้งเตือนลมยาง กล้องมองภาพขณะถอยหลัง สัญญาณเตือนกะระยะด้านหน้าและหลัง

ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง สัญญาณไฟกระพริบเมื่อเบรคกระทันหัน โดยมาพร้อมระบบ Toyota Safety Sense ซึ่งได้แก่ ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบ All-Speed Range ระบบความปลอดภัยก่อนการชน ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลน พร้อมพวงมาลัยหน่วงอัตโนมัติ ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ นอกจากนั้นยังระบบเซ็นทรัลล็อค พร้อม speed auto lock ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และสัญญาณเสียงเตือนการโจรกรรม

เลือกเป็นเจ้าของ Toyota GR Supra 1 รุ่น 7 สี ได้แก่

  • สีเหลือง Lightning Yellow
  • สีแดง Prominence Red
  • สีเทา Ice Gray Metallic
  • สีขาว White Metallic
  • สีเงิน Silver Metallic
  • สีดำ Black Metallic
  • สีเทาด้าน Matte Storm Gray Metallic

Toyota GR Supra มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 4,999,000 บาท ซึ่งผู้ที่สนใจ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่โชว์รูมผู้แทนจำหน่ายโตโยต้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Leave a Reply