ในขณะที่ Toyota ได้ทำการเปิดตัว c-hr รุ่น Minor Change ที่ยุโรป ซึ่งมาพร้อมระบบขับเคลื่อนไฮบริด ความจุ 2.0 ลิตรใหม่ ระบบมัลติมีเดีย ที่ได้รับการอัพเกรดใหม่ รวมถึงรูปโฉม ที่มีการปรับปรุงใหม่ ตามที่เราได้นำเสนอไป ในคลิปก่อน ในวันเดียวกัน ทางฝั่งอเมริกา และออสเตรเลีย toyota ก็ได้เปิดตัว c-hr ใหม่ ไปพร้อมๆกันด้วย แต่กลับมีรายละเอียดบางจุด ที่แตกต่างกันไป
สำหรับ C-HR เวอร์ชั่นอเมริกา จะเน้นไปที่การอัพเกรดในเรื่องของรูปโฉม และอุปกรณ์ต่างๆ แต่ไม่มีขุมพลัง Hybrid ใหม่ ให้เลือกเหมือนในยุโรป โดย C-HR รุ่นล่าสุดนี้ มาพร้อมแผงกระจังหน้ารูปรังผึ้ง กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ สปอยเลอร์ท้ายใหม่ ที่ไม่ได้เป็นสีดำเงา เหมือนในเวอร์ชั่นยุโรป ไฟหน้าและไฟเดย์ไทม์เป็นแบบ LED รวมถึงล้ออัลลอยก็เป็นลายใหม่ โดยเป็นขนาด 17 นิ้วในรุ่นเริ่มต้น LE และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นบน มาพร้อมสีตัวถังภายนอกใหม่ คือ สีแดง Supersonic Red และสีส้ม Hot Lava Orange ที่มี option เป็นหลังคา R-Code สีเงิน ทดแทนแบบเดิมที่เป็นสีขาว
สำหรับภายในห้องโดยสาร ระบบมัลติมีเดีย ได้รับการอัพเกรดใหม่ ที่สามารถรองรับ ระบบปฏิบัติการ Android Auto และ Amazon Alexa เพิ่มเข้ามา จากเดิม ที่รองรับ Apple CarPlay อยู่แล้ว โดยรุ่นสูงสุดอย่าง Limited เบาะนั่งคนขับ สามารถปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง ระบบไฟหน้าปรับสูงต่ำอัตโนมัติ การเปลี่ยนแปลงอีกอย่างของห้องโดยสารภายใน คือการใช้วัสดุ บุเพดานใต้หลังคาเป็นสีเทา และในบางรุ่น จะมีการตกแต่งห้องโดยสารภายใน ด้วยสีทูโทนดำน้ำเงิน หรือดำน้ำตาล
อย่างที่ได้เกริ่นไปข้างต้น C-HR เวอร์ชั่นอเมริกา จะไม่มีขุมพลังไฮบริด ความจุ 2.0 ลิตร เหมือนในยุโรป แต่จะเป็นขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า ที่ 6,100 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตันเมตร ที่ 3900 รอบต่อนาที ส่งกำลังไปยังล้อหน้า ผ่านเกียร์ CVT
สำหรับตลาดออสเตรเลีย Toyota จะมีขุมพลังเบนซินไฮบริดใหม่ ความจุ 1.8 ลิตร มาให้ลูกค้าเป็นทางเลือก ซึ่งจะเป็นอ็อปชั่น ในรุ่น 2WD Koba ซึ่งเป็น C-HR รุ่นที่ขายดีที่สุดในออสเตรเลีย ด้วยยอดขายเกือบ 50% ของ C-HR ที่จำหน่ายทั้งหมด อีกหนึ่งขุมพลังทางเลือก ก็คือ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.2 ลิตร ที่มีจำหน่ายอยู่แล้ว ส่วนการอัพเกรดอื่นๆ จะคล้ายกับเวอร์ชั่นที่จำหน่ายในยุโรป โดย Toyota เตรียมทำตลาด C-HR ใหม่ที่ออสเตรเลีย ในเดือนธันวาคมที่้จะถึงนี้