Daimler เตรียมยุติการทำตลาดรถกระบะสุดหรู อย่าง Mercedes-Benz X-Class เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลกำไร หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวไป เมื่อปี 2017 จากการที่ตลาดรถกระบะขนาด midsize มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลก
แต่เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา ยอดขายของรถรุ่นนี้ มีเพียง 16,700 คันเท่านั้น จากการทำตลาดในยุโรป ออสเตรเลีย และแอฟริกาใต้ ซึ่งนับตั้งแต่ที่มีการเปิดตัว รถกระบะหรู X-Class ยังไม่เคยทำกำไรได้เลย จากราคาเริ่มต้นที่สูงถึง 37,294 ยูโร หรือประมาณ 1,300,000 บาท ในประเทศเยอรมนี โดยมีการแข่งขันที่รุนแรงเป็นปัจจัยเสริม ซึ่งมี Volkswagen Amarok และ Ford Ranger ร่วมชิงส่วนแบ่งตลาดอยู่ด้วย
นอกจากนั้น ยังมีการเรียกรถคืน เพื่อเข้ารับการซ่อมแซมอยู่หลายครั้ง จากปัญหาด้านเทคนิค เช่น ไฟส่องสว่าง ใต้คอนโซลหน้า ติดๆดับๆ และแป้นเหยียบเบรคติดขัด ทำให้ยอดขายสะดุด ไม่เป็นไปตามเป้า
ซึ่งแน่นอนว่า การยุติการทำตลาด X-Class จะส่งผลกระทบต่อความร่วมมือกับกลุ่มพันธมิตร Renault Nissan ซึ่ง X-Class ใช้แพลตฟอร์มร่วมกันกับ Nissan Navara และ Renault Alaskan ซึ่งมีการผลิตขึ้นที่โรงงานของ Nissan ในเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน
โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ดีเอเทอร์ เซ็ทเช่อ อดีต CEO ของ Daimler ได้ยกเลิกแผนงานในการประกอบ X-Class เพื่อป้อนตลาดอเมริกาใต้ ที่โรงงาน Renault Nissan ในประเทศอาร์เจนติน่า
และเมื่อต้นเดือนนี้เอง บริษัทก็ได้ลดตัวเลขคาดการณ์กำไร เป็นครั้งที่ 4 ในรอบ 13 เดือน จากการที่ต้องใช้เงินในการจัดการแก้ปัญหา การปล่อยไอเสียจากเครื่องยนต์ดีเซล และปัญหาที่เกิดจากถุงลม Takata